“แล้วแบบนี้เย็นนี้จะไปงานวันเกิดเพื่อนแม่กับแม่ไหวไหมเนี่ย”
“งานวันเกิด?”
“อืม งานวันเกิดคุณหญิงกสมา จำได้ไหม…ที่แม่เคยแนะนำว่าจะให้วินไปออกแบบตึกออฟฟิศใหม่ให้เขา แล้ววินบอกว่างานแน่น สถาปนิกไม่พอนั่นไง”
“อ้อ แล้วทำไมผมต้องไปงานวันเกิดของเขาด้วย”
“คุณหญิงกสมาเป็นเพื่อนแม่ มีธุรกิจเยอะแยะ เราทำธุรกิจก็ต้องรู้จักคนให้เยอะๆ เข้าไว้ไม่ใช่หรือไง” วิภาดาขมวดคิ้วเพราะคิดว่าลูกชายถามอะไรแปลกๆ
อาชวินยิ้มเอื่อยๆ เพื่อสะกดอาการอยากระบายลมหายใจของตัวเองเอาไว้…ถ้าวิภาดาเป็นแม่ที่ใกล้ชิดกับเขามากกว่านี้สักหน่อย ท่านจะต้องทราบว่าทุกวันนี้เขารู้จักคนเยอะมาก แต่ก็คงว่าท่านไม่ได้ ในเมื่อเขาพยายามหลีกเลี่ยงใครก็ตามที่สนิทกับท่านมากๆ แม้จะฝืนธรรมชาติในการหางานเข้าบริษัทก็ตาม เพราะต้องยอมรับว่าวงสังคมของแม่มีลูกค้าชั้นดีอยู่ไม่น้อย
“ถ้าผมไปงานวันเกิดในสภาพนี้น่าจะทำให้คุณแม่ขายหน้ามากกว่านะ”
“เอาไว้คราวหน้าก็ได้” วิภาดาพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจนัก “น่าเสียดาย หนูดาด้าลูกสาวคนเล็กของคุณหญิงกสมากลับมาจากเรียนปริญญาโทที่ยุโรปพอดีเสียด้วย วินรู้จักหนูดาด้าไหม”
“จำได้ว่าเคยเจอตามงานสังคมครับ แต่นานแล้ว ก็น่าจะเป็นตอนก่อนเขาไปเรียนต่อล่ะมั้ง”
“เขาสวยน่ารักดีนะ” ผู้เป็นแม่พอใจมากขึ้นกับคำตอบที่ได้รับ
ชายหนุ่มไม่ตอบทว่ายกถ้วยชาเขียวร้อนขึ้นมาจิบ…ก็เพราะแบบนี้เขาถึงไม่คิดจะรับงานจากพวกเพื่อนพ้องของแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีลูกสาว แต่อย่างน้อยคราวนี้ก็ดีหน่อยตรงที่ท่านเปิดประเด็นขึ้นมาหลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว อีกแป๊บเขาก็ขอตัวกลับได้ ไม่ต้องฟังท่านโฆษณาลูกสาวเพื่อนนาน
นาฬิกาเพิ่งบอกเวลาบ่ายสอง ทว่าปภาวรินท์กลับรู้สึกว่าพลังงานสำหรับวันนี้จวนเจียนจะหมดเต็มทีแล้ว อันที่จริงเธอควรจะชินเพราะมันก็เป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่กลับไปค้างที่บ้าน เนื่องจากรัญชนาไม่เพียงละจากกิจกรรมต่างๆ ที่วางแผนไว้เพื่ออยู่ร่วมโต๊ะมื้อเย็นแล้ว วันรุ่งขึ้นอีกฝ่ายก็มักจะยังปักหลักอยู่ที่บ้านจนกว่าเธอจะกลับ ซึ่งเธอก็เดาแบบค่อนข้างปักใจเชื่อว่าพี่สาวต่างแม่น่าจะกลัวเธอออดอ้อนขออะไรจากพ่อเลยตั้งใจจะอยู่ขวางให้มากที่สุด
หญิงสาวระบายลมหายใจขณะยืนรอเครื่องดื่มหน้าเคาน์เตอร์ร้านกาแฟ ปกติเธอไม่ได้คิดจะขออะไรจากประดิษฐ์เลย มีแค่วันนี้ที่อยากหาโอกาสคุยกับพ่อเรื่องโครงการรีโนเวตโรงแรมนั่น แต่เพราะรัญชนาประกบท่านตลอดทำให้ไม่มีโอกาส…ถ้าขึ้นไปหาพ่อตอนอยู่ออฟฟิศรัญชนาก็ต้องรู้อยู่ดี แถมเรื่องนี้เธอไม่อยากโทรคุยด้วยสิ
ปภาวรินท์ทู่ซี้อยู่ที่บ้านจนกระทั่งมื้อเที่ยง ปรากฏว่าพี่ชายดันเปิดประเด็นเรื่องธราวุธขึ้นมาเสียอีก ประดิษฐ์ชอบเพื่อนของลูกชายคนนี้มากและรู้ด้วยว่าอีกฝ่ายสนใจเธออยู่ ดังนั้นพ่อเลยแนะให้เธอบอกเลิกนัดช่างแอร์ แน่นอนว่าเธอต้องยืนกรานปฏิเสธ โดยอ้างว่าถ้ายกเลิกวันนี้กว่าจะนัดใหม่ได้ก็คงวันหยุดสุดสัปดาห์หน้า แต่ตอนนี้แอร์ที่คอนโดฯ ของเธอชักไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่แล้ว ถึงอย่างนั้นพ่อก็ยังไม่วายบอกว่าให้ลองเปิดใจศึกษาธราวุธดู…ที่น่าเบื่อก็คือสำหรับเรื่องนี้รัญชนาผสมโรงกับพ่อไปด้วยเสียอย่างนั้น เพราะอีกฝ่ายทราบดีว่าเธอไม่ได้ชอบเพื่อนพี่ชาย
นอกจากไม่ได้คุยกับประดิษฐ์ตามที่ตั้งใจไว้แถมกินมื้อเที่ยงฝืดคอแล้ว พอกลับมาถึงคอนโดฯ ปภาวรินท์ยังต้องหงุดหงิดเพราะช่างแอร์โทรมายกเลิกนัดโดยให้เหตุผลว่ายังไม่เสร็จงานที่บ้านลูกค้าคนก่อนหน้าเสียอีก
หญิงสาวพึมพำขอบคุณเมื่อบริกรเอาแก้วช็อกโกแลตปั่นมาวางตรงหน้า เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอันที่จริงเธอสามารถไปนั่งรอที่โต๊ะแล้วให้พนักงานเอาอาหารกับเครื่องดื่มที่สั่งไปเสิร์ฟได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อกี้เธอยืนรอตรงหน้าเคาน์เตอร์ทำไม เธอถอนหายใจก่อนจะฉวยแก้วช็อกโกแลตปั่นแล้วหันไปมองหาโต๊ะว่างที่มุมดีๆ ใช้เวลาครู่หนึ่งเธอก็เลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้ประตูร้าน แม้จะพลุกพล่านหน่อยแต่ตรงนั้นแดดส่องไม่ถึง