“รอเหรอคะ ต้องรอไปอีกถึงเมื่อไหร่ พริมรอคุณมาหลายเดือนแล้วนะคะ คุณห่วงงานจนลืมพริมไปแล้ว”
ในมุมที่กาลเวลายืนอยู่ เธอได้เห็นสีหน้าของแดนนี่ เฉินอย่างชัดเจน เขาดูยุ่งยากใจเอามากๆ
นี่แหละผู้ชาย…
ถึงเธอจะไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแต่ก็พอรู้กิตติศัพท์ของพวกผู้ชาย ได้ใหม่แล้วลืมเก่า ยิ่งเป็นผู้ชายครบเครื่องอย่างแดนนี่ ผู้หญิงคงจ้องกันตาเป็นมัน น่าเป็นห่วงแทนพริมาเหลือเกินเพราะถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่มองผู้ชายแบบเขาเด็ดขาด ข้อแรกคือความสมบูรณ์แบบของเขาจะทำให้ผู้หญิงต้องวิ่งเข้าหา และที่สำคัญเขาดุอย่างกับยักษ์ แข็งทื่อเหมือนหุ่นยนต์ยุคเก้าศูนย์
“หรือคุณคิดว่าได้พริมแล้วจะทิ้งกันง่ายๆ คะ”
“ถ้าผมจะทิ้งใครสักคน ไม่เกี่ยวกับได้หรือไม่ได้หรอกนะพริม” แดนนี่สวนกลับทันควัน แววตาแข็งกระด้าง เขาไม่ชอบให้ใครล้ำเส้น และพริมากำลังทำในสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้
พริมานิ่งไปเพราะไม่คิดว่าจะถูกตอกกลับแบบนั้น เธอรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจเอามากๆ
“ถ้าพริมไม่พอใจ เราเลื่อนดินเนอร์เย็นนี้ไปก่อนก็ได้ เอาไว้พรุ่งนี้ใจเย็นแล้วค่อยทานมื้อเช้าด้วยกัน” แดนนี่พูดตัดบท
กาลเวลาซึ่งยืนใจเต้นรัวอยู่ในมุมมืดต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าพริมาเปลี่ยนสีหน้าและน้ำเสียงอย่างรวดเร็วเมื่อแดนนี่ตั้งท่าจะหันหลังเดินจากไป
บอกตามตรงว่าใจจริงเธอแอบเชียร์ให้พริมาเชิดใส่เขา ลูกผู้หญิงต้องมีศักดิ์ศรี
“เดี๋ยวสิคะแดนนี่” พริมาคว้าแขนชายหนุ่มไว้ “พริมไม่งี่เง่าแล้วก็ได้ค่ะ วันนี้พริมอยากดินเนอร์กับคุณนะคะ อย่าโกรธพริมเลยนะ พริมแค่กลัวว่าคุณจะไม่รักพริม”
แดนนี่ทำหน้าเมื่อยเมื่อใบหน้าสวยซึ่งแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีตซบลงบนไหล่กว้างของเขา ชายหนุ่มดันเธอออกอย่างสุภาพ แต่ในความรู้สึกของกาลเวลา (ซึ่งยังคงแอบดูอยู่) ถือว่ามันเป็นการเสียมารยาทเอามากๆ และยังทำให้ผู้หญิงเสียหน้าอีกด้วย
พ่อเนื้อทองคำ
“หนึ่งทุ่มตรงผมจะไปรับคุณหน้าห้อง แล้วพบกันนะครับ” แดนนี่บอกแค่นั้นก็สาวเท้าเร็วๆ จากไป
กาลเวลารีบขยับตัวซ่อนขณะที่พริมากระทืบเท้าแล้วทำฮึดฮัดเดินไปอีกทาง
“มาแอบดูคนอื่นคุยกัน มันเสียมารยาทไม่รู้หรือไง”
“ว้าย!” กาลเวลาตกใจจนเผลอเซแท่ดๆ ถอยหลังไปหลายก้าว เพราะการโผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงทำเธอขวัญผวา พอตั้งหลักยืนได้จึงเห็นว่าแดนนี่ เฉินยืนอยู่ตรงหน้าเธอ “คุณ เป็นผีหรือไง ผลุบๆ โผล่ๆ”
ร่างสูงหกฟุตเศษมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาไม่พอใจ กาลเวลาเชิดหน้าขึ้น รู้ว่าถูกจับได้ที่แอบมองเขากับพริมาคุยกัน…แต่เธอไม่ยอมรับหรอก
“คุณนี่เป็นตัวอันตรายจริงๆ เลยนะ”
“ฉันเนี่ยนะ” กาลเวลาจิ้มนิ้วชี้มาที่ตัวเอง
“ใช่ คุณนั่นแหละ”
“ยังไง ฉันไปทำอะไรให้คุณ”
“เมื่อกลางวันคุณถ่ายรูปพริมจนเป็นเรื่อง ตอนนี้คุณยังแอบดูเขาอีก”
“นี่! จะกล่าวหาใครช่วยมีหลักฐานหน่อยได้มั้ย” กาลเวลาเท้าเอว แหงนหน้าสบตาเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“จับได้คาหนังคาเขายังต้องมีหลักฐานอะไรอีก” แดนนี่นิ่วหน้าจนคิ้วเข้มจัดเคลื่อนมาชนกัน ส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาน่ากลัวขึ้นไปอีก