บทที่ 5
เอลิซซ่า ครูซมุ่งหน้าสู่น่านน้ำสากล ร้านค้าปลอดภาษีเริ่มเปิดให้บริการพร้อมกันกับกาสิโน เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของขาช็อปและนักเสี่ยงโชค
กาลเวลาตั้งหน้าตั้งตาจดบันทึกข้อมูลที่เธอจะใช้เขียนรีวิวไว้อย่างละเอียด ถึงแม้ว่าเธอชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ แต่ถึงเวลาทำงานก็เป็นคนจริงจังมากเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปหมดสิ้น อันที่จริงเธอไม่ควรไปจดจำอะไรด้วยซ้ำเพราะมันไม่ใช่เรื่องของเธอ
ที่ทำได้ก็คือภาวนาให้ภาพที่เธอเห็นเป็นแค่ความเข้าใจผิดไปเอง
กาลเวลาใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกับร้านปลอดภาษี อีกเกือบสองชั่วโมงกับตู้สล็อต และคงจะนานกว่านั้นหากว่าชิปที่เธอแลกมาไม่หมดไปเสียก่อน เอาเข้าจริงเธอไม่เคยชนะตู้พนันนี่ได้เลย
พอหมดเงินไปเยอะกาลเวลาก็หาที่ปลดปล่อยอารมณ์ด้วยการลงไปจิบค็อกเทล ฟังเพลงคลาสสิก แต่ขณะที่มองเหล่าไฮโซทั้งสาวทั้งแก่เดินเฉิดฉายไปมาในชุดราตรี แต่งตัวจัดจ้านจนเธอต้องคิดว่าพวกหล่อนสามารถแบกชุดอลังการขนาดนี้ขึ้นเรือมาอีท่าไหน มิน่าเล่าตอนมาที่จุดเช็กอินถึงได้เห็นว่ากระเป๋าเดินทางของแต่ละคนใหญ่เบ้อเร่อ
เธอถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เพราะแม้ว่าเธอจะตื่นเต้นกับบรรยากาศของเรือสำราญที่เพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่พอเอาเข้าจริงเธอพบว่ามันน่าเบื่อกว่าการตั้งแคมป์ลำบากๆ บนเขาเยอะเลย
อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้เรือจะจอดที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย เธอควรนอนพักเอาแรงเพื่อเดินเที่ยวบนฝั่งให้เต็มที่ดีกว่า
ร่างบางขยับลุกจากเก้าอี้แล้วพาตัวเองออกจากบาร์ ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเดินหลบหลีกผู้คนที่แออัด แต่ขณะที่กำลังเลี้ยวไปตามทางเดิน เธอก็พบกับหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม
“คุณพระ” กาลเวลายกมือขึ้นป้องปาก เบิกตากว้าง
เธออยากตบปากตัวเองเป็นรอบที่สองของวัน นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาถามหาพระหาเจ้า หญิงสาวรีบก้มหน้างุด ใจเต้นรัวจนเหมือนว่าจะกระเด็นออกมาจากอก
ไม่ใช่เพราะเธอไม่เคยเห็นใครจูบกัน แต่เพราะคนที่กำลังจูบกันอยู่นั้นเป็นพริมากับชายคนที่เธอเห็นเขาอยู่กับดาราสาวเมื่อกลางวัน
“ขอโทษค่ะ” เธอรีบกล่าวขอโทษแล้วก้มหน้าก้มตาเดินเลี่ยงคนทั้งคู่ไป ทว่าเพราะมัวแต่ก้มหน้านั่นเองจึงทำให้ชนเข้ากับร่างของใครบางคนเข้าอย่างจัง “อุ้ย! ขอทะ…”
คำขอโทษนั้นถูกกลืนหายไปเพราะเธอพบว่าคนที่เธอเดินชนคือแดนนี่ เฉิน เขายืนนิ่งมองเลยศีรษะเธอไป
จังหวะพอดีราวกับฉากหนึ่งในละครหลังข่าว
และใช่! เธอเป็นตัวประกอบที่น่ารำคาญมากคนหนึ่งที่ไม่ควรมาอยู่ตรงนี้เลย
“แดนนี่คะ มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ”
นั่นไง! ไดอะล็อกเป๊ะ
‘ไม่ใช่อย่างที่คิด’ แล้วจะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร จูบกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนตัวเอง คิดทางไหนก็ ‘นอกใจ’ ชัดๆ
กาลเวลาอยากตะโกนใส่หน้าพริมา แต่ที่ทำได้คือตะโกนก้องในใจเพียงเท่านั้น ส่วนคนที่สมควรโวยวายที่สุดกลับยืนมองนิ่ง ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากเขาสักคำเดียว
กาลเวลาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าขณะที่ภาพเมื่อคืนยังติดตา
เมื่อคืนหลังจากที่บังเอิญเข้าไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์ที่ไม่ควรอยู่ เธอก็หนีออกมาจากสถานการณ์ชวนอึดอัดอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ว่าแดนนี่ เฉินจะจัดการกับคนรักและชายชู้อย่างไร แต่ถ้าให้เดา เขาอาจจะตรงไปอัดหน้าผู้ชายคนนั้นสักหมัดสองหมัดให้สาสมกับความแค้น
แต่หวังว่าคงไม่ถึงขั้นจับโยนลงทะเลหรอกมั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะทำได้ แต่นั่นก็โหดร้ายเกินไปหน่อย
ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นระหว่างแดนนี่ พริมา และชายชู้ ก็ขออย่าให้เธอได้เข้าไปรู้ไปเห็นอะไรอีกเลย หญิงสาวพนมมือไหว้ฟ้าดิน แต่ทว่าทันทีที่ก้าวเท้าออกจากห้องสายตาเธอก็ปะทะเข้ากับคนที่เธอไม่อยากเจอ
“เอ่อ…” กาลเวลาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี แดนนี่ยืนอยู่ห่างจากเธอไม่กี่สิบเมตร เขากำลังคุยกับหยางจงสีหน้าเคร่งเครียด แต่เพราะเธอโผล่มาขัดจังหวะ ชายหนุ่มจึงหยุดแล้วปรายตามามองเธอ
“หวัดดีตอนเช้าค่ะ” หญิงสาวยกมือทักทายคนทั้งคู่อย่างเลี่ยงไม่ได้
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเว” หยางจงกล่าวทักทายเธอกลับด้วยภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ ตามแบบฉบับของเขา