เธอมั่นใจว่าตัวเองเพิ่งเคยเจอผู้ชายคนนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกับที่เจอพ่อเทพบุตร คนที่เขาเรียกว่า ‘ท่าน’ นั่นแหละ แล้วทำไมนายเสาธงถึงรู้จักชื่อของเธอ เขาเป็นอะไรกันแน่…นักสืบเอกชน บอดี้การ์ด หรือหน่วยรักษาความปลอดภัยของอาคารแห่งนี้ จิรัศยาส่งสายตาไม่ไว้วางใจให้อย่างไม่ปิดบัง แต่เขากลับตีสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกับพยักพเยิดไปที่ป้ายชื่อซึ่งห้อยอยู่บนคอของเธอแทน
อ้อ เขาอ่านป้ายชื่อของฉันนี่เอง ยายจิ เด็กโง่!
จิรัศยาเชิดหน้าขึ้น เพราะคงไม่มีอะไรให้อับอายไปได้มากกว่านี้แล้ว ชายหนุ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทของตัวเองแล้วหยิบนามบัตรใบหนึ่งออกมายื่นให้เธอ
“ไปที่ร้านคริสตัลบนชั้นสามฝั่งพลาซ่าของอาคารแล้วเลือกเสื้อผ้าชุดใหม่มาหนึ่งชุด ยื่นนามบัตรนี้ให้เขา เขาจะช่วยจัดการทุกอย่างให้คุณเองครับ”
จิรัศยารู้จักร้านเสื้อผ้าร้านนั้นดี เพราะชอบไปยืนดูตู้โชว์สินค้าหน้าร้านพร้อมเพื่อนร่วมงานเสมอ แต่เมื่อเห็นราคาของสินค้าแล้วพวกเธอก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปขอลองชุดเลยสักครั้ง ภายในอาคารสำนักงานแห่งนี้จะมีการเปิดให้เช่าพื้นที่สำหรับทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านกาแฟ รวมถึงยังมีห้างสรรพสินค้าเล็กๆ ซึ่งร้านค้าทั้งหมดนั้นบรรจุอยู่ภายในชั้นสามซึ่งเป็นโซนพลาซ่าของอาคารนี้ด้วย พนักงานที่ทำงานอยู่ในอาคารนี้จึงมีโอกาสเดินเลือกซื้อสินค้าในช่วงเวลาพักอยู่เสมอ
“ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นคะ”
จิรัศยารู้สึกว่าเธอถามคำถามได้โง่มาก แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่อยู่ในใจหญิงสาวก็มีแต่คำถามนี้ ทำไมเขาต้องสั่งให้เธอทำโน่นทำนี่ด้วย เขาเป็นใครแล้วทำไมต้องทำอย่างนั้น
“หรือคุณจะทนกับกลิ่นอาหารบนตัวอย่างนี้ทั้งวัน คุณจะไม่ทำงานแล้วเหรอ”
“เอ้อ จริงด้วย”
เธอยอมรับด้วยความจำนน นั่นทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจ
“รับไปสิครับ”
จิรัศยามองนามบัตรในมือของเขาที เงยหน้าขึ้นสบตาเล็กๆ ที่มีแววยียวนและท้าทายนั่นที เธอหายใจเข้าลึกก่อนตอบ
“คุณจะชดใช้ให้ฉันทำไมคะ ในเมื่อคุณไม่ได้เป็นคนทำให้ฉันเป็นแบบนี้”
“ผมไม่ได้เป็นคนจ่าย”
“อ้าว ก็คุณบอกให้ฉันไปเลือกเสื้อผ้าใหม่ ถ้าคุณไม่จ่าย ฉันก็ไม่มีปัญญาไปซื้อเสื้อผ้าในร้านนั้นหรอกค่ะ เงินเดือนของฉันทั้งเดือนอาจจะซื้อได้แค่ผ้าพันคอสักผืนล่ะมัง”
“ความจริงเจ้านายของผมเป็นคนจ่าย”
“หา?…” จิรัศยาพยายามใช้ความคิด “เจ้านายของคุณ…คุณหมายถึงคนหล่อๆ ตัวสูงๆ เมื่อกี้นี้เหรอคะ”
“ครับ” ชายหนุ่มถอนหายใจหนัก รู้สึกเหนื่อยมากกว่าการวิ่งขึ้นบันไดจากชั้นเก้ามาถึงชั้นสิบห้าเสียอีก “รับไป ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ผมจะโทรบอกเจ้าของร้านให้เตรียมต้อนรับคุณ ส่วนเรื่องอาหารเช้าพวกนี้ ผมจะหาของอื่นทดแทนให้ ว่าแต่ทั้งหมดนี้สำหรับคนกี่คน”
“เอ่อหก เอ้อ ไม่สิเจ็ด ไม่ใช่ๆ ต้องรวมฉันด้วย ก็เป็นแปดค่ะ”
“โอเค อาหารเช้าจะถูกส่งไปยังบริษัทของคุณภายในสิบห้านาทีนี้”
เขาพยักพเยิดให้เธอรับนามบัตรในมือของเขาเสียที แม้จิรัศยาจะยังงงแต่ก็ยอมรับมันมาในที่สุด จังหวะนั้นเองลิฟต์ตัวหนึ่งก็จอดที่ชั้นสิบห้า และประตูของมันกำลังจะเปิด จู่ๆ ชายร่างสูงแต่ผอมเพรียวคนนั้นก็ขยับตัวมายืนบังร่างของเธอ จิรัศยาจึงได้เห็นแผ่นหลังของเขาใกล้แค่คืบ
ผู้ชายคนนี้ไหล่สวย ผมรองทรงสั้น ต้นคอดูแข็งแรง เขาสูงมากจริงๆ น่าจะเกินร้อยแปดสิบ แต่ก็ยังเตี้ยกว่าเจ้านายของเขาเล็กน้อย ตัวบางกว่า ใส่เสื้อผ้าธรรมดากว่า และดุกว่าแน่นอน