ฝ่ายจิรัศยากลับต้องเสียเวลาทำความสะอาดเสื้อผ้าและร่างกายของตัวเองเกือบยี่สิบนาที แถมผลที่ออกมาก็ไม่ได้น่าอภิรมย์นัก เมื่อกลิ่นกาแฟเย็นกับชานมไข่มุกยังแข่งกันส่งกลิ่นบนเสื้อของเธออยู่
“ฮือ ถึงชุดนี้มันจะเก่าแต่ก็เป็นชุดเก่งของฉันเลยนะ”
ที่ว่าชุดเก่งนั้นไม่ใช่เพราะมันสวยกว่าชุดอื่นหรือใหม่กว่า แต่มันเป็นชุดที่จิรัศยาเชื่อว่าใส่แล้วจะนำโชคดีมาให้ พนักงานหน้าโต๊ะประชาสัมพันธ์ของบริษัทใส่ชุดอื่นไม่ได้ นอกจากเครื่องแบบที่ทางบริษัทกำหนดเท่านั้น
“บางทีฉันอาจจะต้องลองทำตามที่นายเสาธงบอกจริงๆ”
หญิงสาวจ้องมองสภาพของตัวเองหน้ากระจกด้วยสายตาละห้อย มันดูน่าสมเพชเหลือเกิน แถมของกินที่ทุกคนฝากซื้อก็เสียหายหมด ตอนนี้คงทำได้แค่เดินไปขอโทษทุกคนก่อน…
เมื่อกลับเข้ามาที่ออฟฟิศของตัวเองอีกครั้งจิรัศยาก็พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะไปบอกทุกคนก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นคงต้องลงไปซื้ออาหารเช้าให้ทุกคนใหม่ แต่เมื่อโผล่หน้าเข้ามาในโถงซึ่งเป็นห้องทำงานรวมเธอก็ต้องประหลาดใจ เพราะตรงหน้าขณะนี้มีพนักงานของบริษัทมารวมตัวกันตรงกลางห้องซึ่งเป็นโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ แถมยังมีคนใส่ชุดเชฟสีขาวของโรงแรมพร้อมหมวกทรงสูงยืนอยู่ในนั้นด้วยอีกสองคน
“จิมาแล้ว”
เสียงของกวิตา พนักงานการตลาดสาวสวยโพล่งขึ้นเมื่อเห็นหน้าตาที่เหลอหลาของจิรัศยาโผล่เข้ามาในห้อง ทุกคนจึงหันไปหาหญิงสาวต้นเรื่องพร้อมกัน
“คะ…คะ?” จิรัศยาขมวดคิ้วยุ่ง
ผู้ชายร่างใหญ่ในชุดเชฟสองคนหันมาโค้งคำนับจิรัศยา เธอตกใจจนต้องรีบยกมือขึ้นไหว้
“ผมมาจากโรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอาคารแห่งนี้ครับ นี่คืออาหารเช้าสำหรับแปดท่านตามที่ผมได้รับคำสั่งให้จัดหา จัดเตรียม และนำมาบริการสำหรับคุณจิรัศยาครับ”
“ฉันเหรอคะ”
ใช้เวลาประมาณห้าวินาทีกับการอ้าปากค้างแล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นฝีมือของใคร
“เล่นใหญ่มาก…” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่ปลื้มปริ่มของเพื่อนร่วมงานซึ่งยืนเรียงรายรอบโต๊ะประชุมแล้วเธอก็ยิ้มตาม “อ่ะ ใช่ค่ะ ดิฉันเอง จิรัศยา”
“ครับ เชิญทุกคนนั่งเลยครับ เราจะได้เริ่มเสิร์ฟ”
“ต้องถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“มันเป็นมาตรฐานของทางโรงแรมครับ ขออนุญาตแนะนำอาหารเช้าของเราในวันนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเป็นการจัดเลี้ยงขนาดเล็กและเร่งด่วนทางโรงแรมจึงแนะนำขนมปังฝรั่งเศสรับประทานคู่กับซุปข้าวโพด แล้วยังมีครัวซองต์กับขนมปังคาวหวานอีกหลากหลายชนิดให้เลือกรับประทาน พร้อมเนยสดและแยมผลไม้ที่เป็นสูตรพิเศษของทางห้องอาหารของเรา นอกจากนั้นก็สามารถเลือกเครื่องดื่มประเภทชาอังกฤษหรือกาแฟได้อีกด้วยครับ ทั้งหมดวางอยู่ตรงนี้แล้ว”
เชฟขยับตัวนิดหน่อยแล้วผายมือไปทางด้านหลังของเขา จิรัศยาเพิ่งเห็นเต็มสองตาว่าทุกอย่างที่เชฟพูดนั้นวางอยู่ในรถเข็นอาหารสีเงินเรียบร้อยแล้ว เธอร้องว้าวออกมาอย่างลืมตัว
“เอ่อ ดิฉันคิดว่าพวกเราสามารถจัดการกันเองได้”
“ไม่ต้องการให้เราบริการเหรอครับ”
“ค่ะ ไม่ต้องค่ะ”
เชฟทั้งสองหันไปซุบซิบกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันมาบอกข้อสรุปของพวกเขาให้จิรัศยาทราบ
“ถ้าอย่างนั้นเราจะรออยู่ที่หน้าบริษัทนะครับ เชิญทุกท่านเอร็ดอร่อยกับอาหารเช้า หากมีปัญหาอะไรเรียกพวกผมได้ทันทีนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราโอเค” จิรัศยายกมือทำสัญญาณบอกว่าเธอโอเคจริงๆ
“มันเป็นหน้าที่ของเราครับ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ”
“ค่ะ ได้ค่ะ ถ้ามีปัญหาเราจะเรียกนะคะ”
เชฟทั้งสองก้มศีรษะให้จิรัศยาอีกครั้ง เธอรีบก้มศีรษะรับด้วย และเมื่อพวกเขาเดินลับตาไปจากห้องโถงแล้ว เพื่อนร่วมงานทุกคนต่างก็รุมล้อมเข้ามาหาหญิงสาวร่างบางที่ตอนนี้แสนจะมอมแมม ทุกคนอยากจะรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนที่มาถึงตัวจิรัศยาก่อนใครก็คือ กวิตา หญิงสาวร่างบางระหง เธอสูงกว่าจิรัศยา แต่งตัวหรูหราฟู่ฟ่ามีสไตล์กว่า แต่งหน้าก็ฉูดฉาดมีสีสันไม่เสียชื่อที่เป็น MC* เก่ามาก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักการตลาด