ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางรู้สึกสบายจนซุกอยู่ในอ้อมอกของนาง ปล่อยให้นางปรนนิบัติไปตามใจชอบ มันคิดในใจว่าอยู่ที่นี่ต่ออีกสักสองสามวันก็แล้วกัน มันบิดขี้เกียจออดอ้อนราวกับแมว ทำเอาหัวใจทั้งดวงของเหยาเหนียงแทบหลอมละลาย ยิ่งรักใคร่ทะนุถนอมมันมากกว่าเดิม
“เรียกเจ้าว่าอาเจียวดีหรือไม่” เหยาเหนียงตั้งชื่อให้มัน
ชิ เจ้าเห็นข้าเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างแมวหมาหรืออย่างไร รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นปีศาจจิ้งจอกผู้มีชื่อเสียงเลื่องระบือเชียวนะ!
‘อาเจียว’ จ้องมองเหยาเหนียงแวบหนึ่ง ครั้นเห็นนางมีสายตาอ่อนโยน ในดวงตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู มือที่อยู่บนท้องก็ลูบไล้จนทำให้มันรู้สึกสุขสบายไปทั้งกายา ขนทุกเส้นรู้สึกสบายจนอยากจะร้องครางออกมา จึงเลิกคิดเล็กคิดน้อยกับนาง
อาเจียวก็อาเจียว เห็นแก่ที่เจ้าปรนนิบัติข้าอย่างแข็งขัน ข้ายอมอนุญาตก็แล้วกัน
ด้วยเหตุฉะนี้หนึ่งมนุษย์หนึ่งจิ้งจอกจึงเริ่มใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
ในยามกลางวันเหยาเหนียงจะวางอาเจียวไว้ในลานเรือนให้มันนอนอาบแดด ส่วนตนเองก็ทำงานสาละวน นางอาศัยอยู่ในกระท่อมอันรกร้างห่างไกลแห่งนี้เพียงคนเดียว จำเป็นต้องอาศัยทักษะฝีมือเพื่อเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอด
ยามนางทำงานยุ่ง บางครั้งบางคราที่หันกลับไปมองก็จะเห็นอาเจียวลืมดวงตากลมโตจับจ้องนาง ศีรษะจิ้งจอกน้อยๆ นั้นหันซ้ายหันขวาไปตามเงาร่างของนาง อีกทั้งยังส่ายหางน้อยๆ ไปมา ทำให้นางชอบอกชอบใจเป็นหนักหนา
เดิมทีเหยาเหนียงคิดว่าวันคืนที่ได้อยู่ร่วมกันเช่นนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แต่นึกไม่ถึงว่าอยู่มาวันหนึ่งอาเจียวกลับหายตัวไป ทำให้นางร้อนใจออกตามหาไปทั่วทุกแห่งในละแวกใกล้เคียง แต่ก็หาเงาร่างของอาเจียวไม่เจอ
ถึงอย่างไรจิ้งจอกก็ยังมีสัญชาตญาณของสัตว์ป่า มันอาจจะคิดถึงบ้าน ก็เลยกลับขึ้นเขาไปด้วยตนเองแล้ว
แม้ว่าเหยาเหนียงจะรู้สึกผิดหวัง แต่นางก็รู้สึกสบายใจ บาดแผลของลูกจิ้งจอกใกล้จะหายสนิทแล้ว คงจะสามารถดูแลตัวเองได้
นางพยายามทำจิตใจให้รื่นเริง เริ่มต้นชีวิตที่ต้องพึ่งพาตนเองเพียงลำพังอีกครั้ง
ราตรีนี้ลมแรงเป็นพิเศษ พัดโหมส่งเสียงดังพึ่บพั่บ พัดพาจนหัวใจคนประหวั่นพรั่นพรึง ทำให้เหยาเหนียงมิอาจสงบจิตใจได้
เหยาเหนียงสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากนิทราอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นก็เห็นคนชุดดำปิดหน้าปิดตาผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเตียง นางจึงตกใจลุกพรวดขึ้นมา
คมดาบเย็นเยียบสะท้อนแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง ฉายประกายวาววับหนาวสะท้าน
ประกายดาบวูบผ่านอย่างรวดเร็ว ฟาดฟันผ่านความมืดมิด เหยาเหนียงล้มลงบนเตียงกลางกองโลหิต สิ้นชีพในดาบเดียว
คนชุดดำยื่นมือออกไปอังจมูกนาง เมื่อแน่ใจว่านางตายแล้ว จึงเอ่ยกับสหายที่เฝ้าอยู่นอกเรือนว่า “นางตายแล้ว กลับไปรายงานภารกิจกันเถิด”
เงาดำหายวับไป ประตูเรือนถูกลมพัดดังกึกๆ เหยาเหนียงที่อยู่บนเตียงสิ้นชีวาในวัยสาว สิ้นสุดการหลบหนีตลอดระยะเวลาหนึ่งปีกับอีกสามเดือน ยามเสียชีวิตนางเพิ่งจะอายุได้เพียงสิบแปดปีเท่านั้น
หลังจากคนชุดดำจากไปแล้ว เพียงแค่หนึ่งถ้วยชาผ่านไปเงาดำเงาหนึ่งก็แอบลอดเข้ามาในเรือน ครั้นเห็นเหยาเหนียงที่นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงก็ทำให้มันโกรธจัดจนสบถคำหยาบคายออกมา
“มารดามันเถอะ! ฝีมือใครกัน ใครมันกล้าแตะต้องคนของข้า!”
เพลิงโทสะของอาเจียวพุ่งสูงเทียมฟ้า โกรธแค้นจนขนพองฟู กรงเล็บที่ทั้งแหลมคมทั้งยาวกับเงาดำเก้าหางสะท้อนลงบนผนัง ใหญ่ยักษ์และน่าครั่นคร้าม
ภายใต้การดูแลอย่างพิถีพิถันเอาใจใส่ของเหยาเหนียง อาเจียวซึ่งพลังปีศาจฟื้นฟูกลับมาหกส่วนมิได้อยู่ในร่างของลูกจิ้งจอกอีกต่อไป แต่ว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกตัวโตเต็มวัยซึ่งมีขนาดสูงเท่ากับตัวมนุษย์
มันจากไปแค่ครึ่งวันเท่านั้น กลับไปกำชับธุระที่เผ่าปีศาจ เนื่องจากมันตะกละอยากจะกินอาหารฝีมือเหยาเหนียง จำได้ว่านางบอกว่าคืนนี้จะตุ๋นน้ำแกงปลาหนึ่งหม้อ พอจัดการธุระที่เผ่าปีศาจเรียบร้อยแล้วก็รีบเร่งเดินทางกลับมา แต่ใครเล่าจะรู้ว่ากลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
ศพยังคงอุ่นๆ อยู่ แสดงว่าคนเพิ่งจะตายไปได้ไม่เกินหนึ่งเค่อ
“สมควรตายนัก อย่าให้ข้ารู้นะว่าเป็นฝีมือใคร มิเช่นนั้นข้าจะถลกหนังหักกระดูกมัน ฆ่ามันให้วิญญาณแหลกมลายเสีย!”
ปีศาจจิ้งจอกมีความรักความแค้นแบ่งแยกชัดเจน มีแค้นต้องชำระ มีบุญคุณต้องทดแทน เหยาเหนียงมีบุญคุณต่อมัน มันมิอาจปล่อยให้เหยาเหนียงตายไปเช่นนี้ได้
ผู้คนรู้แค่เพียงว่าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีเก้าชีวิต แต่ไม่รู้ว่าพวกมันสามารถต่อชีวิตให้ผู้อื่นได้
อาเจียวกระดกก้นขึ้น ตั้งหางทั้งเก้าขึ้นสูงราวกับพัดอันเลอค่างามตระการ มันเงื้อกรงเล็บอันแหลมคมขึ้นมา ก่อนจะออกแรงฟันฉับ ตัดหางเส้นหนึ่งของตนเองจนหลุดออก…
เหยาเหนียง ชีวิตนี้ของข้าขอมอบให้เจ้าก็แล้วกัน!