จิ้นเสวียนพินิจพิจารณานางตั้งแต่หัวจรดเท้า ท่าทางดูพออกพอใจยิ่ง เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง หันกายขวับแล้วเดินออกไปทันที
เหยาเหนียงสัมผัสได้ว่ามีพลังงานสายหนึ่งลากนางไปยังหน้าประตู ดึงตัวนางให้เดินไปข้างหน้า ไล่ตามฝีเท้าของชายหนุ่มไปเหมือนกับเชือกวิเศษเส้นนั้น
จิ้นเสวียนเดินออกมาจากห้องรับรอง ทอดมองลงไปจากเฉลียงทางเดินบนชั้นสอง ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงพอดี ลูกค้าแขกเหรื่อกำลังเกาะกลุ่มรวมตัวกัน ครั้นเขาปรากฏกายขึ้น สายตาของทุกคนที่ด้านล่างก็พากันมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว
“ดูสิ นั่นนักพรตจิ้นเสวียน”
“ปรมาจารย์ปราบปีศาจผู้นั้น?”
“ถูกต้อง เป็นเขา ได้ยินว่าเขาเก่งกาจยิ่งนัก!”
ผู้คนพากันส่งเสียงกระซิบกระซาบ สายตาที่มองดูเขามีทั้งเคารพ เลื่อมใส และสนใจใคร่รู้
หลงจู๊เร่งรีบเดินตรงเข้ามาต้อนรับขับสู้ ในใจนึกสงสัยว่าปรมาจารย์ผู้นี้เข้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใดกัน แต่ก็ติดที่ความโด่งดังน่าเกรงขามของเขา หลงจู๊จึงมิกล้าทำตัวเสียมารยาท สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง
“ไม่ทราบว่าท่านปรมาจารย์มาเยือนโรงเตี๊ยมของผู้น้อย ต้องการจะกินอาหารหรือพักค้างคืนดีขอรับ”
เขาไม่ได้มากินอาหารและมิได้มาพักค้างแรมด้วย แต่มาปราบปีศาจต่างหาก หลงจู๊ผู้นี้ดูไม่ออกหรือไร
จิ้นเสวียนบุคลิกท่วงท่าสูงส่งประหนึ่งผู้วิเศษ เขาเหลือบตามองหลงจู๊แวบหนึ่ง จากนั้นจึงตอบกลับไปอย่างกระชับได้ใจความว่า “คนผู้นี้อันตรายเป็นอย่างยิ่ง จะต้องพากลับไปให้เร็วที่สุด ไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก”
หลงจู๊เผยสีหน้าเคลือบแคลงสงสัย ชำเลืองมองไปด้านหลังของเขาครู่หนึ่ง
“เอ่อ…ด้านหลังไม่เห็นมีใครเลยนี่ขอรับ”
จิ้นเสวียนผงะอึ้งไปโดยพลัน ก่อนจะหันหน้ากลับไป ข้างหลังเขามีคนอยู่ที่ใดกัน นางหายไปไม่เห็นแม้แต่เงาตั้งนานแล้ว?!
สมควรตายนัก!
จิ้นเสวียนไม่อยากจะเชื่อสายตา เพียงแค่ชั่วขณะเดียวนางปีศาจกลับหลบหนีไปได้ภายใต้เปลือกตาเขา!
สีหน้าเขาย่ำแย่ยิ่ง ครั้นเหลือบไปเห็นสายตาสืบเสาะของหลงจู๊ เขาก็พยายามข่มกลั้นเพลิงโทสะในใจเอาไว้ ตอนนี้มีสายตามากมายกำลังจับจ้องอยู่ ดังนั้นจะปล่อยให้ผู้อื่นล่วงรู้มิได้เด็ดขาดว่าเจ้าสำนักจี้อวิ๋นผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาอุตส่าห์ลงแรงออกมาจับปีศาจด้วยตนเอง แต่กลับปล่อยให้ปีศาจหนีรอดไปได้
เขาผ่อนสีหน้าลงเล็กน้อย เผยรอยยิ้มออกมา “ข้านักพรตออกมาตามหาคน คนผู้นี้ไม่ค่อยสบาย กลัวว่าออกเดินทางแล้วจะมีอันตราย ตอนนี้ยังนอนพักผ่อนอยู่ในห้อง คาดว่าวันนี้จะค้างต่ออีกสักคืน”
หลงจู๊เข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นมาในบัดดล ในเมื่อมีลูกค้ามาเยือนถึงที่ จึงรีบทักทายปราศรัยอย่างประจบเอาใจทันที
“ได้ขอรับ ได้ขอรับ! ผู้น้อยเข้าใจแล้ว” หลงจู๊เอ่ยกำชับสั่งกับลูกจ้างที่อยู่ข้างหลังว่า “ยกชาใหม่ๆ ให้ท่านปรมาจารย์หนึ่งกา”
“ส่งไปที่ห้องเถิด” พอจิ้นเสวียนพูดจบก็หันกายเดินขึ้นชั้นสองไป กิริยาท่าทางสุขุมเยือกเย็น ไม่รีบร้อนไม่เนิบช้า เดินกลับเข้าไปในห้องพักรับรองบนชั้นสองอีกคราภายใต้สายตาจดจ้องของผู้คน
ครั้นประตูปิดลงสีหน้าแววตาของเขาก็พลันเย็นเยียบขึ้นมาทันใด หยิบเงื่อนมงคลตรงข้างเอว…ไม่สิ หยิบเชือกสะกดมารขึ้นมา ก่อนจะออกคำสั่งด้วยสุ้มเสียงโกรธเกรี้ยว “ไปตามตัวสามีไม่ได้เรื่องของเจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้!”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 22 มี.ค. 65 เวลา 12.00 น.