เหล่าชายหญิงในชุดโบราณที่นั่งอยู่บนหลังม้าเหล่านั้นมีทั้งผู้สูงวัยและคนหนุ่มสาว แต่ละคนล้วนมีสีหน้าตื่นเต้นยินดีขณะมองพิจารณาซูเพียนจื่อที่นั่งทึ่มทื่ออยู่กับพื้น จากนั้นพวกเขาก็ยื่นหน้ากระซิบกระซาบกัน
“เจ้าดูเส้นผมของนางสิ ถึงกับยาวจรดเอวแล้ว ข้ายังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าใครมีพรสวรรค์สูงได้ถึงเพียงนี้ นางจะต้องเป็นชาวสวรรค์ที่ยากพบพานในรอบร้อยปีจุติลงมาเป็นแน่!”
“ประมุขตระกูลข้าตรวจดูปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเมื่อคืนก็รู้แล้วว่าวันนี้จะได้พบผู้มีคุณสมบัติเป็นเลิศ เพียงแต่ไม่รู้ว่าตระกูลใดจะโชคดีได้ไปครอง”
“สวรรค์เมตตาแท้ๆ อย่างน้อยก็หลายสิบปีแล้วที่ข้าไม่ได้ยินอีกเลยว่ามีชาวสวรรค์จุติลงมา นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะมีโอกาสให้ข้าได้พบเจอ”
“ตระกูลใดได้ชาวสวรรค์ไปเข้าร่วม ขุมกำลังก็จะเพิ่มพูนมหาศาลแน่นอน…”
ซูเพียนจื่อมองคนนั้นทีคนนี้ที หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงได้สอบถามออกมาว่า “พวกคุณ…ไม่สิ เอ่อ…พวก…ท่านพูดถึงฉัน…ข้ากันอยู่เหรอ”
ผู้คนบนม้าบินพากันพลิกตัวลงจากหลังม้า แล้วเดินมาจนถึงตรงหน้าของซูเพียนจื่อ ในจำนวนนี้มีสาวน้อยโฉมงามสวมชุดกระโปรงสีเขียวมรกตผู้หนึ่งยิ้มตาหยีเอ่ยตอบ “ผู้ที่พวกเราพูดถึงย่อมจะเป็นเจ้า แม่นางไม่ใช่คนที่นี่กระมัง”
ซูเพียนจื่อสั่นศีรษะก่อนถามต่อ “แล้วที่นี่คือที่ไหน”
“ที่นี่คือดินแดนพันเมฆา พวกเราล้วนเป็นคนในตระกูลฝ่ายธรรมะของดินแดนนี้ แม่นางเล่ามาจากที่ใด” ผู้เฒ่าสวมชุดยาวสีน้ำเงินอีกคนเป็นผู้ต่อบทสนทนา
“เอ่อ…ข้ามาจากดาวโลก อาศัยอยู่ที่ตำบล ส. ในมณฑล จ.” ซูเพียนจื่อตอบอย่างเซ่อซ่า
ดินแดนพันเมฆาอะไรกัน แม้แต่ชื่อก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน แค่ดูจากบรรดาม้าบินตัวเป็นๆ ที่อยู่ตรงหน้า ซูเพียนจื่อก็มั่นใจเต็มร้อยว่าที่นี่ไม่ใช่ดาวโลกอย่างแน่นอน!
“ดาวโลก?” ผู้คนตรงหน้าล้วนสบตากันไปมา เห็นชัดว่าไม่เคยได้ยินเช่นกัน
สาวน้อยชุดเขียวผู้นั้นก้าวมายืนเคียงข้างซูเพียนจื่อแล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวล “เจ้ามาจากที่ใดล้วนไม่สำคัญหรอก ในเมื่อสวรรค์ส่งเจ้ามาที่นี่แล้ว ก็ย่อมต้องมีเหตุผล ชาวสวรรค์เช่นเจ้ามีความสามารถในเชิงยุทธ์สูงส่งกว่าคนทั่วไปโดยกำเนิด อยู่ที่นี่เจ้าจะมีชีวิตที่ดียิ่งกว่าเดิมได้”
“อะไรคือชาวสวรรค์หรือ” ซูเพียนจื่อรู้สึกว่าตัวเองมาถึงต่างดาวแล้วก็จริง แต่ดูเหมือนไม่นับว่าเลวร้ายสักเท่าไร ผู้คนที่นี่เป็นมิตรกับเธอมาก สายตาที่มองมาก็เต็มไปด้วยความชื่นชม การปฏิบัติที่ดีเช่นนี้เธอยังไม่เคยได้รับมาก่อนเลย
เมื่อก่อนแม้กระทั่งตอนที่เธอสอบได้คะแนนเป็นอันดับต้นๆ สายตามองประเมินของคนส่วนใหญ่หากไม่ใช่เห็นอกเห็นใจก็คือริษยาหรือดูแคลนอยู่วันยังค่ำ…เพราะไม่ว่าอย่างไรเธอก็คือเด็กกำพร้าที่มีดวงพิฆาตบุพการี
ผิดกับชายหญิงสิบกว่าคนนี้ที่รายล้อมเธออยู่ในตอนนี้ พวกเขาต่างพากันส่งยิ้มมาให้เธอ