หลังจากรุดเดินทางเช้าจรดค่ำเช่นนี้อยู่สามวัน ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงฐานที่มั่นของสกุลซู…ถ้ำพันจิ้งจอกอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ที่ฝูอวิ๋นเอ่ยถึง
ถ้ำพันจิ้งจอกตั้งอยู่บนเกาะนิรนามขนาดเล็กแห่งหนึ่งในทะเลสาบเงาฟ้า ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดบนดินแดนพันเมฆา ประกอบกับหลายจุดของทะเลสาบที่กว้างไกลสุดสายตาแห่งนี้มีเมฆหมอกกระหวัดวนตลอดทั้งปี จึงทำให้การค้นหาเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งในทะเลสาบเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ ซึ่งนี่ก็คือสาเหตุสำคัญที่สกุลซูในฐานะตระกูลสิบแปดมงกุฎสามารถยืนตระหง่านไม่ล้มลงตลอดนานปีที่ผ่านมา
ถ้ำพันจิ้งจอกของสกุลซูมีนามกระเดื่องเลื่องลือยิ่ง ทว่าคิดจะค้นหามันในทะเลสาบเงาฟ้ากลับยากยิ่งกว่าไต่ขึ้นสวรรค์ ตระกูลฝ่ายธรรมะหมายกำจัดคู่ปรับเก่านี้ไม่ใช่แค่เพียงหนึ่งหน ทว่าจนใจที่ตลอดมาไม่อาจค้นหาที่ตั้งอันแน่ชัดของถ้ำพันจิ้งจอกได้เสียที
ฝูอวิ๋นพาซูเพียนจื่อเหินข้ามผิวทะเลสาบ ลอดซ้ายป่ายขวาอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกอันหนาทึบ หลังจากอ้อมวนจนนับรอบไม่ถ้วน ในที่สุดมันก็ร่อนลงบนเกาะที่เล็กเสียจนมองเห็นทั่วเกาะได้ในปราดเดียว
ที่พูดว่านี่คือเกาะขนาดเล็ก แท้จริงแล้วเป็นเพียงหินใหญ่ซึ่งโผล่พ้นผิวทะเลสาบ จนนานวันเข้ามีต้นไม้ใบหญ้างอกเงยขึ้นมาประปรายก็เท่านั้น
ฝูอวิ๋นเดินไปยังที่ว่างผืนย่อมตรงใจกลางของเกาะเล็ก ก่อนจะเหยาะย่ำกีบเท้าทั้งสี่ด้วยจังหวะแปลกประหลาดที่ดูลี้ลับ
ผ่านไปชั่วครู่ ตรงที่ว่างผืนนั้นก็พลันยุบตัวและกลายเป็นวังน้ำวนสีดำสนิท ซูเพียนจื่อกอดคอฝูอวิ๋นพลางร้องอุทานเบาๆ จากนั้นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าสายตาก็เปลี่ยนเป็นทัศนียภาพที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง
มีภูเขาสูงตระหง่านเสียดเมฆลูกหนึ่งตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า บนเขาท่ามกลางเงาไม้และเมฆสีอร่ามตานั้นพอจะเห็นไม้เชิงชายที่รองรับชายคาปลายงอนได้รำไร กระเบื้องเคลือบสีม่วงแกมน้ำเงินกับกำแพงสูงสีขาวหิมะที่มีช่องหน้าต่างฉลุลายนั้นเรืองรองจับตาภายใต้แสงเงินแสงทอง ทั้งหมดทั้งมวลนี้วิจิตรงดงามทว่าเลือนรางห่างไกลดุจแดนเซียน
ฝูอวิ๋นพ่นลมขึ้นจมูกก่อนเอ่ยปนยิ้ม “เทพเจ้าแห่งกลลวงคุ้มครอง เจ้านายอันเป็นที่รัก ยินดีต้อนรับท่านกลับสู่บ้าน!”
บ้าน? ซูเพียนจื่อนิ่งงันอยู่ชั่วอึดใจ ที่นี่ก็คือบ้านของข้า?!
แสงสีทองสายหนึ่งพลันโฉบลงมาจากบนเขา เมื่อร่อนลงตรงหน้าซูเพียนจื่อจึงพบว่านั่นถึงกับเป็นจิ้งจอกตัวหนึ่งซึ่งมีความสูงเท่าครึ่งตัวคน จิ้งจอกทองมองพิจารณานางด้วยสายตาที่ระแวดระวังปนฉงนสงสัย ดวงตาคู่นั้นเปี่ยมชีวิตชีวา สีหน้าแสดงอารมณ์ที่หลากหลาย ดูไม่คล้ายสิ่งที่สัตว์ป่าจะมีได้เลย
“บนร่างเจ้ามีกลิ่นอายของคนสกุลซู เจ้าเป็นใครกัน” จิ้งจอกทองพลันเอ่ยปากพูดภาษามนุษย์
ฝูอวิ๋นหัวเราะร่วนก่อนจะพูดแนะนำกับซูเพียนจื่อ “นี่ก็คือเหล่าจิน สัตว์เทพผู้พิทักษ์เขาถ้ำพันจิ้งจอก” จากนั้นมันก็เอ่ยกับจิ้งจอกทองอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “เหล่าจิน รบกวนแจ้งต่อท่านประมุขทีว่าข้าหาคุณหนูเจ็ดของพวกเราสกุลซูหรือก็คือบุตรีของคุณชายสามพบแล้ว!”
เหล่าจินพลันเบิกตาโต มองซูเพียนจื่อตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างละเอียดรอบหนึ่งจึงค่อยพยักหน้ารับ “ได้ พวกเจ้ารอสักครู่” มันพูดพลางแกว่งหางแล้วกลายสภาพเป็นแสงสีทองวับหายไปท่ามกลางแมกไม้
ไม่ช้าก็มีเสียงระฆังดังขึ้นบนเขา เหล่าจินปรากฏตัวตรงหน้าซูเพียนจื่อกับฝูอวิ๋นอีกครั้งแล้วเอ่ยว่า “ท่านประมุขต้องการพบพวกเจ้า จงตามข้ามา!”