บทที่เจ็ด
“ฮึ่ม!”
เหตุใดจู่ๆ ในถิ่นของมันจึงมีกลิ่นพืชที่มันไม่ชอบโผล่มาได้
หมียักษ์ตัวหนึ่งสูดจมูกฟุดฟิด ก่อนจะเดินมุ่งสู่ส่วนลึกของถ้ำตรงจุดที่กลิ่นนั้นแผ่ซ่านออกมา
ซูเพียนจื่อที่ขดตัวอยู่ในโพรงถ้ำรู้สึกได้ว่าหมียักษ์กำลังประชิดมาทีละก้าวแล้ว ทว่านางกลับไม่รู้เลยว่าควรจะตอบสนองอย่างไรดี
หมียักษ์สูดหายใจเข้าแรงๆ อยู่หลายหน เมื่อแน่ใจว่ากลิ่นที่ตนเกลียดลอยออกมาจากโพรงหินขนาดย่อมที่อยู่บนผนังถ้ำ มันก็รีบยื่นกรงเล็บเข้าไปตะปบ หมายจะถอนรากถอนโคนวัชพืชน่ารังเกียจที่มันนึกว่าพลันงอกอยู่ในนั้นทิ้งเสีย
ขวับ!
กรงเล็บที่ใหญ่มหึมากว่าขนาดศีรษะของซูเพียนจื่อหลายเท่ากวาดเข้ามาพร้อมเสียงลมที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสิ้นหวัง สาวน้อยแนบสันหลังชิดติดผนังหิน จ้องเขม็งไปยังเงาดำขนาดยักษ์ที่หอบเสียงลมมาถึงตรงหน้าอย่างไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้ ข้างหูนางราวได้ยินเสียงหัวเราะสะใจของพญายม
กรงเล็บอันคมกริบตวัดอย่างเหี้ยมเกรียมผ่านจุดที่อยู่ห่างจากดวงหน้าของนางไปเพียงไม่กี่ชุ่น ขาดอีกแค่นิดเดียวก็จะถากถูกนางแล้ว…
ขวับ ขวับ ขวับ!
ร่างกายขนาดมโหฬารของหมียักษ์ที่อยู่ด้านนอกไม่อาจเข้ามาในถ้ำซ้อนถ้ำซึ่งมีขนาดเล็กกะทัดรัดแห่งนี้ได้ กระนั้นมันก็ยังตวัดกรงเล็บอันใหญ่โตเข้ามาทดลองดูหลายครั้งอย่างไม่ถอดใจ ซูเพียนจื่อกลั้นหายใจอย่างเอาเป็นเอาตาย เนื้อตัวแทบจะแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ขณะมองดูอุ้งตีนหมียักษ์เฉี่ยวผ่านหน้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า โดยที่จนแล้วจนรอดเพียงแค่เฉียดไปเท่านั้น ในใจนางจึงถูกสารพัดอารมณ์เข้ายึดครองในเวลาเดียวกัน ทั้งพรั่นพรึง ตึงเครียด ตื่นตระหนก และยินดีปรีดา
หมียักษ์ที่อยู่ด้านนอกพบว่าตนเอื้อมไม่ถึง ‘พืชน่ารังเกียจ’ ที่อยู่ในโพรงถ้ำนั้นเสียที มันจึงคำรามต่ำด้วยความหงุดหงิดอยู่หลายหนก่อนจะหยุดตะปบคว้าในที่สุด จากนั้นมันก็เดินหัวเสียล่าถอยออกไปนอนต่อที่นอกถ้ำพร้อมกับหมียักษ์อีกตัว
ซูเพียนจื่อป้องปากไว้พลางระบายลมขุ่นในอกใส่ผนังถ้ำอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันนางก็แทบจะสะกดกลั้นไม่ไหวต้องหลั่งน้ำตาออกมาเดี๋ยวนั้น
รอดตายอย่างฉิวเฉียด! ขาดอีกนิดเดียวนางก็ต้องจบสิ้นไม่เหลือชิ้นดีแล้ว!
เสียงกรนของหมียักษ์สองตัวดังมาจากนอกถ้ำอีกครั้ง ซูเพียนจื่อรู้สึกเพียงว่าเวลาทุกชั่วขณะคล้ายยาวนานเป็นสิบเป็นร้อยปี
ในที่สุดม่านรัตติกาลก็คลี่คลุมลงมาจนได้ หมียักษ์สองตัวตื่นนอนแล้ว พวกมันแผดคำรามก่อนจะจากถ้ำไปหาอาหารที่ด้านในของป่าร้อยสัตว์ จวบจนได้ยินเสียงของพวกมันเคลื่อนไปไกลแล้ว ซูเพียนจื่อจึงสามารถวางใจได้ชั่วคราวและพรูลมหายใจที่อัดอั้นไว้กว่าครึ่งวันได้เสียที
แสงจันทร์สุกสกาวสาดฉายเข้ามาจากปากถ้ำ สาวน้อยตัดสินใจแล้วว่าจะต้องออกจากโพรงถ้ำเล็กๆ นี้ไปยืดเส้นยืดสายสักหน่อย ไม่เช่นนั้นนางคงต้องบ้าตายแน่
หมีสีน้ำตาลขนทองจากไปหนนี้ ตามความเคยชินของพวกมันแล้วหากไม่ถึงยามใกล้รุ่งก็จะไม่กลับมา