วันติดประกาศผลสอบระดับมณฑล นอกกำแพงสำนักศึกษาสตรีชงโจวถูกฝูงชนห้อมล้อมแน่นจนน้ำหยดเดียวก็ผ่านเข้าไปไม่ได้
“ขอทางหน่อยๆ หลบหน่อย ช่วยหลบหน่อย…”
เหยียนฟู่จือดึงเมิ่งถิงฮุยแทรกตัวเข้ามาในฝูงชนตลอดทาง นางเขย่งเท้าพยายามมองไปข้างหน้า
เมิ่งถิงฮุยร่างแข็งทื่อ ย่นหัวคิ้วบอก “ช้าหน่อยค่อยมาดูก็เหมือนกัน แต่ท่านกลับร้อนใจราวกับอะไร”
“ข้าร้อนใจนี่” เหยียนฟู่จือหันหน้ามายิ้มแย้มดุจบุปผา “ข้าไม่ได้ร้อนใจเพื่อตัวข้าเอง ข้าร้อนใจแทนเจ้า!”
เมิ่งถิงฮุยเบนสายตาอย่างอับจนปัญญา มองออกไปนอกฝูงชน
ฉับพลันมีเสียงคนพูดเบาๆ มาจากด้านหน้า “มาแล้วๆ ก็คือนาง…”
“คนไหน”
“ก็คือคนนั้น จุ คนที่สวมกระโปรงหรูฉวิน สีชายืนอยู่ข้างหลัง เห็นแล้วหรือยัง”
“มองไม่ออกเลยจริงๆ”
“เรื่องนี้ยังจะมีมองออกมองไม่ออกด้วยหรือ ได้ยินคนข้างในบอก เดิมทีถูกคัดชื่อออกไปแล้ว บังเอิญองค์รัชทายาทไปสนามสอบเข้าเยี่ยมพบเสิ่นไท่ฟู่ เห็นกระดาษข้อสอบนี้เข้า ถึงได้มีโอกาสได้โงหัว!”
“คำพูดก็พูดเช่นนั้น แต่ใครจะรู้ที่แท้แล้วเกิดอะไรขึ้น…”
ร่างของเหยียนฟู่จือพลันสั่นสะท้าน มือที่จับมือเมิ่งถิงฮุยบีบแน่นขึ้น นางหันมาพูดด้วยความตื่นเต้น “เจี้ยหยวน! เมิ่งถิงฮุย ชื่อของเจ้าบนแผ่นประกาศคือที่หนึ่ง!”
เมิ่งถิงฮุยสีหน้าไร้คลื่นลม เพียงพยักหน้าน้อยๆ “ไปกันเถิด”
เหยียนฟู่จือถูกนางดึงเดินโซซัดโซเซออกจากฝูงชน เห็นนางหน้าตาไม่ยินดีก็อดเอ่ยขึ้นไม่ได้ “เมิ่งถิงฮุย เจ้าไม่ได้ตัวร้อนกระมัง เจี้ยหยวน เจี้ยหยวนในการสอบระดับมณฑลของเฉาอันเป่ยลู่เชียวนะ! เจ้าไม่ดีใจ?”
เมิ่งถิงฮุยหยุดลง เงยหน้าขึ้นมองเหยียนฟู่จือ สีหน้ายังคงแข็งกระด้าง ทว่าไม่ได้เปิดปาก
หลังจากถูกคัดชื่อออกก็ได้รับโปรดเกล้าฯ เรื่องนี้แต่ไรมาเป็นความลับของการปิดสนามสอบตรวจข้อสอบ แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่แน่ว่าจะรู้รายละเอียดภายในได้ หากไม่มีคนจงใจแพร่งพรายออกไป คนนอกจะรู้เร็วเช่นนี้ได้อย่างไร
แม้จะบอกว่าเป็นการโปรดเกล้าฯ โดยองค์รัชทายาท แต่นางก็ดีใจไม่ไหว
ที่นางฝ่าฝืนกฎระเบียบในการสอบระดับมณฑล เพราะมีความคิดที่เห็นแก่ตนเองอยู่
การสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ของสตรีมีขึ้นสามปีครั้ง ผู้มีความสามารถจากทุกเส้นทางมีมากมาย และตำแหน่งจ้วงหยวนมีเพียงคนเดียว ถ้าสามารถเป็นจ้วงหยวนในการสอบปีนี้ได้ก็จะเข้ากองอาลักษณ์ได้ วันหน้าก็มีหวังที่จะได้เลื่อนขั้นเป็นขุนนางในราชสำนัก และมีเพียงการเลื่อนขึ้นเป็นขุนนางในราชสำนักเท่านั้น นางจึงจะสามารถทำความมุ่งมาดปรารถนาในใจที่มีมานานปีของนางให้เป็นจริงได้
‘ถ้าร่างกายของข้าสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ ข้าจะไม่เสียดายเลย…’
นางมีแต่ต้องยิ่งเดินสูงขึ้นไป จึงจะยิ่งมีความหวังที่จะได้พบเขาอีกครั้ง
นางเฝ้าปรารถนาที่จะได้พบเขา ด้วยเหตุนี้จึงปรารถนาที่จะโดดเด่นเหนือผู้คน ครั้นแล้วจึงได้ทำใจกล้าฝ่าฝืนกฎระเบียบในการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ระดับมณฑลที่ผู้คนต่างจับตามองในครั้งนี้
ถ้าความเรียงของนางสามารถได้รับความชื่นชมจากขุนนางผู้คุมสอบเสิ่นอู๋เฉินผู้เป็นพระอาจารย์ขององค์รัชทายาท เช่นนั้นการสอบของกรมพิธีการและการสอบหน้าพระที่นั่งในวันหน้าก็ไปสอบได้อย่างวางใจ
เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่าจะถูกเสิ่นไท่ฟู่คัดชื่อออก ยิ่งคิดไม่ถึงว่าจะถูกองค์รัชทายาทเจาะจงให้เป็นเจี้ยหยวนของเฉาอันเป่ยลู่
เรื่องแพร่ออกมาจนคนรู้กันทั่ว หาใช่ความมุ่งมาดเดิมของนาง
และกับองค์รัชทายาทที่เล่าลือกันว่าเงียบขรึมเย็นชา จิตใจล้ำลึกยากแก่การคาดเดาผู้นี้ นับแต่ช่วงเวลานี้เป็นต้นไปนางก็ไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเขาอีก
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 10 มี.ค. 67 เวลา 12.00 น.