นางมองเขาอยู่นาน คล้ายจู่ๆ ก็สังเกตเห็นเรื่องแปลกใหม่อะไรขึ้นมาเช่นนั้น จึงร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ท่าน…เหตุใดคืนนี้ออกจากวังมาจึงไม่เอาผ้าปิดดวงตาไว้เล่า”
แย่แล้วๆ เมืองหลวงอยู่ใต้เบื้องพระบาทโอรสสวรรค์ อาณาประชาราษฎร์ในเมืองนี้มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าฝ่าบาทพระเนตรสองข้างต่างสีกัน เมื่อครู่เขาพานางไปที่ต่างๆ มากมาย พบเจอผู้คนมากมายเพียงนั้น เกิดถูกคนมองออกเข้าจะทำอย่างไร
นางรู้สึกเหมือนทำความผิดแล้วกลัวคนจะพบเห็นอย่างไรอย่างนั้น จึงหดคอมองไปรอบด้าน เมื่อเห็นว่าไม่มีคนมองมาที่พวกนางสองคนจึงระบายลมหายใจเบาๆ ยังดีไม่มีคนมองสายสนกลในออก
เขาไม่ได้ตอบคำถามนาง เพียงยื่นมือไปลูบมวยผมสองข้างที่ยุ่งเหยิงของนางให้เรียบ แล้วก็ลูบๆ หยกรูปดอกเสาเย่าที่ติ่งหูของนาง หลังมือแนบกับแก้มที่แดงเปล่งปลั่งของนางลูบไล้ไปมา กล่าวเสียงต่ำ “ท่าทางเจ้าในยามนี้ชวนมองยิ่งนัก ทำให้ข้าอยากจูบเจ้า”
นางยิ้มจนนัยน์ตาโค้ง ท่าทางของเขายามนี้ก็ชวนมองยิ่งนัก ทำให้นางอยากจูบเขา!
คิดแล้วนางก็เบียดตัวเข้าหาเขา ลืมไปแล้วว่ายังอยู่บนถนน ถึงกับคิดจะจูบริมฝีปากของเขาอย่างเดียว
เขาปล่อยให้นางเบียดตัวเข้ามาก็จริง แต่กลับแบกนางขึ้น เมื่อได้ยินนางร้องออกมาด้วยความตกใจ จึงหยักโค้งมุมปากเล็กน้อยแล้วบอก “กลับบ้านไปกับข้าดีหรือไม่”
นางเพียงรู้สึกฟ้าหมุนแผ่นดินพลิกตลบ ของที่อยู่ในอ้อมแขนเกือบถูกนางทิ้งลงมา แสงไฟหลากสีสันสองฟากสาดแสงส่องสว่างแผ่นหินภายใต้สายตานาง สะท้อนเงาร่างของเขาที่อุ้มนางขึ้นมาอย่างสลัวราง
นางมองท้องฟ้ามองพื้นดิน รู้สึกว่าแสงเงาที่มองกลับด้านนี้ดูงดงามแปลกตา ดวงตาดำขลับสองดวงกลอกไปมาไม่ได้ดิ้นรน เพียงตอบอย่างว่าง่าย “ดี”
เขาอุ้มนางเช่นนี้เดินไปที่ท้ายถนน อุ้มนางขึ้นไปบนรถม้าของสกุลเมิ่ง อุ้มนางกลับจวนสกุลเมิ่ง และอุ้มนางตลอดทางไปจนถึงห้องนอนของนาง
ไม่ต้องพูดถึงว่าทุกคนในจวนสกุลเมิ่งจะตื่นตระหนกตกใจเพียงใด เพียงพูดถึงพวกหวงปอที่คอยปกป้องความปลอดภัยของฮ่องเต้อยู่ห่างๆ บนถนนตลอดทั้งคืน ตอนที่เห็นฉากนี้มีใครบ้างไม่เหงื่อเย็นไหลริน
แม้แต่หวงปอที่เข้าใจเจตจำนงของฮ่องเต้อย่างลึกซึ้ง จงรักภักดีเป็นที่สุดก็ยังรู้สึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานใต้เท้าเมิ่งจนออกจะเกินเลยไปสักหน่อยจริงๆ
แต่เมิ่งถิงฮุยก็เมามายไม่รู้เรื่องรู้ราว ถึงกับไม่รู้สึกว่ามีอันใดไม่เหมาะสมแม้แต่น้อยนิด
พอเข้ามาในห้องนางก็ปล่อยมือไม่สนใจสิ่งของเหล่านั้นอีก กระโจนเข้าไปดุจหมาป่าตัวน้อย จุมพิตเขากัดเขา กระทั่งโอกาสที่จะหยิบกลักจุดไฟมาจุดเทียนให้สว่างก็ยังไม่มี
ทั้งที่เขาสามารถยับยั้งนางไม่ให้เคลื่อนไหวได้ แต่เขากลับปล่อยให้นางก่อกวน ถูกนางฉุดลากขึ้นไปบนเตียง แล้วมองนางถอดเสื้อคลุมยาวของตนออกด้วยท่าทางวิงเวียนเมามาย
นิ้วมือของนางไม่ฟังคำสั่ง หลังจากพยายามอยู่นานก็ไม่สำเร็จ จึงเอามือกุมหน้าครวญครางออกมาคำหนึ่งอย่างยอมแพ้ นอนฟุบอยู่บนร่างของเขาโดยไม่ขยับอีก เปิดปากพูดราวกับสั่ง “ท่าน…ท่านถอดออก!”
เขาค่อยๆ โอบแขนข้างหนึ่งไว้รอบตัวนาง ให้นางนอนในท่าทางที่สบายแล้วจึงยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมา เริ่มถอดเสื้อตนเองออกอย่างไม่รีบร้อน รอถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกเสื้อตัวในเปิดกว้างแล้วก็จับมือเล็กๆ ของนางมาวางบนอกซ้ายที่เปลือยเปล่าของตน แล้วกระซิบถาม “พอใจแล้วหรือยัง”
นางลูบไล้แผงอกที่แข็งแกร่งหนั่นแน่นของเขาอย่างไม่สำรวม ทั้งบิดตัวไปมาอยู่ในอ้อมอกของเขา ปากก็ส่งเสียงอู้อี้ไม่รู้พูดอะไร มวยผมหลุดลุ่ยออกมาเพราะความอยู่ไม่สุข แม้แต่ต่างหูหยกรูปดอกเสาเย่าที่เพิ่งซื้อมาใหม่หลุดไปข้างหนึ่งก็ไม่ใส่ใจ