“เป็นไงบ้าง สำเร็จไหม”
ชวินพุ่งตัวมาถึงร้านกาแฟแถวออฟฟิศตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงดี พอฉันส่งข้อความไปบอกว่าทำตามแผนที่สั่งแล้ว อีกฝ่ายก็เอาแต่คะยั้นคะยอถามไม่หยุด แต่ฉันก็ยืนกรานว่าจะเล่าด้วยคำพูดเท่านั้น ไม่พิมพ์ พ่อหนุ่มจอมชักใยจึงได้ฤกษ์มาโผล่แถวนี้เร็วขนาดนี้
“ก็เป็นไปตามแผนนะ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า”
ฉันพูดพร้อมยกลาเต้ขึ้นมาดูดอึกหนึ่งอย่างเซ็งๆ จริงอยู่ว่าการเจอกันใหม่ครั้งแรกเป็นไปตามแผนทุกอย่าง แต่ก็ตอบได้ยากว่าสำเร็จไหม ขนาดที่งานมีตติ้งเขายังจำฉันไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นเขาก็คงทักไปแล้ว บางทีสำหรับเขา ตอนนี้ฉันอาจเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาเกินกว่าจะสนใจจำก็ได้
“อย่าเพิ่งถอดใจสิ เพิ่งจะเริ่มต้นเอง เอาน่า เชื่อฉันแล้วทุกอย่างจะดีเอง”
ฉันหันไปมองชวิน ก่อนจะหันไปสั่งคาราเมลแฟรปปูชิโน่มาเป็นเครื่องบรรณาการเพื่อนสนิทอย่างรู้ใจกันดี ชวินกินกาแฟแค่แบบเดียว และร้านนี้ก็ขายแต่กาแฟเท่านั้น
“ทำไมต้องไม่เป็นแฟนคลับ ฉันไม่เห็นเข้าใจเลย”
“เพราะเวลาดาราเจอแฟนคลับก็เหมือนการทำงานไง ไม่เป็นตัวเอง ไม่เป็นส่วนตัว” ชวินตอบคำถามของฉัน “จริงอยู่ว่ามันก็มีดาราที่ลงเอยกับแฟนที่พัฒนามาจากฐานะแฟนคลับ แต่ยาก ดังนั้นถ้าอยากเป็นแฟนก็อย่าทำตัวเป็นแฟนคลับนะจ๊ะ”
“ไม่เป็นแฟนคลับแล้วจะให้เป็นอะไรวะ” ฉันบ่นเซ็งๆ
“อะไรก็ได้ในชีวิตเขา นี่แหละโจทย์แรกที่เราต้องตีกันให้แตก แกจะวางตัวเป็นอะไรกันแน่ เพื่อน เพื่อนของเพื่อน เพื่อนข้างห้อง คนรู้จัก หรืออะไรสักอย่างในชีวิตเขา มีเขาอยู่ในชีวิตแบบคนปกติ ไม่ใช่ดารา” ชวินพูดด้วยท่าทางจริงจัง ในขณะที่ลึกๆ แล้วฉันแอบขำ
“พูดอย่างกับตัวเองเป็นดารา”
“ฉันก็ไปสืบมาให้แกไง ฉันนี่แหละควรจะเป็นเพื่อนดีเด่นแห่งชาติ”
นอกจากจะไม่เสียความมั่นใจแล้ว ชวินกลับดูมั่นใจมากขึ้นเสียอีก ฉันได้แต่ส่ายหน้าไปมาแบบพูดอะไรไม่ถูก แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจ สั่งให้ฉันหยิบมือถือออกมาอ่านไฟล์แผนงานเตรียมตัวบุกขั้นต่อไป ตามกำหนดการแล้วควรจะเว้นไว้สักสองถึงสามวัน เพื่อไม่ให้ดูจงใจมากเกินไป ชวินเองก็เปลี่ยนบทสนทนามาพูดคุยเรื่องการลงทุนกับฉันบ้าง ย้ำนักย้ำหนาว่าต้องอ่านให้เยอะและต้องลงทุนจริงๆ เพราะขั้นตอนที่จะต้องแสดงความสามารถใกล้เข้ามาแล้ว
แผนการขั้นต่อไปล่าช้าไปจากกำหนดการถึงสามวัน
จากที่ตั้งใจว่าจะเริ่มต้นในวันที่สามหลังพบกันครั้งแรก แต่เมทิตย์กลับคอนโดฯ ดึกตลอด บางทีก็เที่ยงคืนกว่า ด้วยบรรยากาศและสภาพแวดล้อมก็ดูจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นักในการพูดคุย ฉันจึงต้องรีบกลับมารอที่คอนโดฯ ทุกวันหลังเลิกงาน รอจนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางที่สุด
ฉันสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง
ฉันเลือกใส่ชุดทำงานเพื่อให้ดูไม่เป็นการจงใจสวยจนเกินไปในการไปพบเขา ผมก็จัดแต่งไว้อย่างเรียบร้อย แต่ไม่ถึงกับทำเป็นทรงอะไรจนเยอะเกินความ ใบหน้าแต่งขึ้นใหม่หลังจากผจญกับงานหนักมาทั้งวัน แต่บรรจงลงเครื่องสำอางให้บางเบาที่สุด แต่งเหมือนไม่แต่งยากกว่าแต่งให้สวยสุดๆ ด้วยซ้ำ
ฉันเดินไปที่หน้าห้องเขาและเคาะประตู
เสียงคนที่อยู่ในห้องขยับตัวแว่วมาไม่ดังนัก หยุดไปชั่วครู่ เขาน่าจะเดินมาส่องดูตาแมว ไม่นานก็เปิดประตูออกมา เมทิตย์อยู่ในชุดสุดแสนธรรมดา เสื้อยืดกับกางเกงวอร์ม ภาพที่ฉันเห็นจนชินตาก่อนอายุเบญจเพส เขายิ้มให้น้อยๆ แต่ไม่ได้เริ่มต้นพูดอะไรก่อน ราวกับจะถามว่าฉันมีธุระอะไรถึงมาเคาะประตู
“คุณเมทิตย์คะ คือฉันรบกวนขอแชร์รหัสไวไฟสักสองชั่วโมงได้ไหมคะ เราเตอร์ที่ห้องเสีย จะเรียกช่างมาก็คงไม่ทัน ฉันต้องประชุมออนไลน์ตอนทุ่มนึง สำคัญน่ะค่ะ ขาดไม่ได้จริงๆ ฉันจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตให้ก็ได้นะคะ พอดีฉันรู้จักเพื่อนบ้านแค่คนเดียว”
กฎของการจีบดาราข้อที่ 3 : อย่าพยายามสวยแบบคนอื่น เพราะในวงการบันเทิงมีคนสวยที่สุดในทุกแบบแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือสวยในแบบของตัวเอง