ฝั่งตรงข้ามร้านกาแฟเป็นร้านขายของเรียงรายไปตามถนน ด้านบนร้านมีการติดจอเล็กบ้างใหญ่บ้าง สายตาฉันหยุดอยู่ที่จอหนึ่งเมื่อเห็นใบหน้าคนที่เคยคุ้น…เมทิตย์ ฉันเหลือบไปเห็นตรงขอบจอว่าเป็นรายการที่ถ่ายทอดมาจากการไลฟ์ของเพจสินค้าหนึ่งก็สนใจ จึงหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองขึ้นมาบ้าง เสียบหูฟัง แม้จะไม่ทันบทสนทนาในช่วงแรกไปบ้าง แต่ก็น่าจะฟังได้อีกยาวพอสมควร
“ละครเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไรคะ”
ผู้สื่อข่าวยื่นไมโครโฟนถามเขา รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มของการมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ เป็นประกายเจิดจรัส แต่เบื้องหลังกลับซ่อนกำแพงหนาทึบที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้
“วงเวียงหมอกเป็นเรื่องราวของเจ้านายชาวเหนือที่กลับมาเกิดใหม่เป็นดีไซเนอร์สาวในกรุงเทพฯ ครับ พอระลึกชาติได้ก็หวนกลับไปตามหาปมในอดีตให้เจอว่าทำไมตัวเองถึงยังฝังใจกับภพชาติเก่าๆ ส่วนผมจะรับบทนักแสดงรับเชิญเฉยๆ นะครับเรื่องนี้ เป็นญาติของพระเอกที่ช่วยพระเอกสืบหาความจริง”
เสียงตอบดังฉะฉาน แต่ไม่ถึงกับมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไปนัก ฉันเผลอยิ้มออกมา สมัยที่เป็นแฟนกันฉันก็ชอบนั่งดูเขาให้สัมภาษณ์บ่อยๆ เมทิตย์เป็นดาราที่พูดรู้เรื่อง ไม่น่าเบื่อ น้ำเสียงมีจังหวะจะโคน ท่าทางก็ชวนให้สนใจและติดตาม
“แบบนี้แฟนคลับไม่เสียใจกันแย่เลยเหรอคะ อุตส่าห์ได้เล่นกับภริสาทั้งทีแต่ไม่ได้คู่กัน มีกระแสความคิดเห็นอะไรจากในโซเชียลบ้างไหมคะ”
นักข่าวถามต่อ ภาพในจอขยายกรอบขึ้นมา ทำให้เห็นภาพฉากหลังขณะที่สัมภาษณ์ชัดขึ้น ตราสินค้าของแบรนด์ที่กำลังถ่ายทอดออกจอโฆษณานี่เอง
“ไม่มีนะครับ” เขายิ้ม “เท่าที่เห็นทุกคนก็แฮปปี้กันดีเพราะเดี๋ยวผมก็จะมีผลงานเรื่องใหม่เล่นคู่กับภริสาอยู่แล้วด้วยมั้งครับ แยกกันบ้างก็ได้” ผู้ให้สัมภาษณ์หัวเราะเบาๆ ทิ้งท้าย
“เรื่องอะไรคะ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ”
“ละครเรื่องลงหุ้นทุนรักครับ” เขาพยักหน้ารับเหมือนรู้ตัวอยู่ก่อนแล้วว่าจะโดนถาม “ละครเกี่ยวกับนักลงทุน ตลาดหุ้น และการเงินอะไรพวกนี้ เป็นโรแมนติกคอมมิดี้ดูสบายครับ เชื่อว่าหลายคนน่าจะชอบ เพราะดูไปก็จะได้เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เรื่องการเงินไปด้วย”
“แบบนี้คนดูก็เตรียมจิ้นกันต่อจากเรื่องที่แล้วได้เลยใช่ไหมคะ”
เมทิตย์ยิ้มรับแต่เหมือนจะชะงักไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาตอบได้ยากว่ารู้สึกอย่างไร อากัปกิริยาทุกอย่างถูกปกปิดอย่างมิดชิดภายใต้ท่าทางที่สบายๆ
“น่าจะนะครับ อันนี้อาจจะต้องถามคนดูแล้วแหละครับ”
เขาตอบออกมาหลังชะงักไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะมีเสียงฮือฮาน้อยๆ ดังขึ้นในหมู่นักข่าว ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือเปล่า แต่ดูเหมือนไมโครโฟนจะขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้น
“แล้วเรื่องที่มีข่าวออกมาว่าคุณเมทิตย์คบหาดูใจกับคุณภริสาอยู่นี่เรื่องจริงหรือเปล่าคะ”
หัวใจของฉันเย็นเฉียบเหมือนมีน้ำแข็งมาห่อหุ้มไว้ อากัปกิริยาของเมทิตย์ยังคงสดใสและคาดเดาไม่ได้ตามเคย ในขณะที่ฉันกลับรู้สึกเหมือนกำลังหายใจไม่ออก ใจมันเหมือนจะเต้นเร็วขึ้นและเริ่มหวาดกลัวคำตอบที่จะตามมา มือของฉันหยุดชะงักนิ่งที่ปุ่มปรับเสียงตรงหูฟัง ตอบตัวเองไม่ได้ว่าควรจะเร่งเสียงหรือลดเสียงดี
ฉันดึงสายหูฟังออก
คลิปหยุดเล่นกะทันหัน เสียงทุกเสียงเงียบหายไป ฉันหายใจรัวเร็ว ภาพจากหน้าจอโฆษณากว้างหลังหยาดฝนนั่นพร่าเลือนไปเพราะหยาดน้ำที่โปรยปรายเริ่มหนักขึ้นทุกที ฉันตัดสินใจปิดหน้าจอโทรศัพท์ ไม่กล้าฟังคำตอบอีกต่อไป ใจฉันอาจจะไม่แข็งแรงพอที่จะรับรู้อะไรได้ แต่ในขณะเดียวกับที่ฉันกำลังจะคว่ำหน้าจอลง ข้อความหนึ่งก็เด้งขึ้นมาเรียกร้องความสนใจจากฉัน
เมทิตย์ : อีกห้านาที ผมน่าจะถึงหน้าร้านที่คุณติดฝนอยู่ คุณออกมายืนรอได้ไหม ผมน่าจะหาที่จอดรถไม่ได้ ตอนนี้ผมเลี้ยวเข้ามาในสยามแล้วครับ