ด้วยพลังแก่นแท้ของราชาสัตว์วิเศษอย่างเฟิงเหยี่ยน เขาไม่เคยรู้สึกว่าระยะทางร้อยลี้นั้นไกลสักเท่าไร แต่วันนี้เขาถูกส่งตัวออกไปอย่างกะทันหัน ชั่วพริบตาก่อนยังนั่งทอดหุ่ยดื่มชาอยู่ในเรือ ชั่วพริบตาถัดมากลับโผล่ไปอยู่ในป่าเขาลึกที่ซอกมุมใดก็ไม่รู้ ไม่เพียงตัวจะติดอยู่บนต้นไม้ ที่ล่างต้นไม้ก็ยังมีกวางภูเขาฝูงหนึ่งจ้องมองเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขบคิดว่าเขาโผล่ออกมาจากที่ใด
เฟิงเหยี่ยนหน้าดำทะมึน
ครั้นเขาตะเกียกตะกายออกมาจากฝูงกวางภูเขาได้ด้วยความยากลำบาก ก็มาถูกแพะภูเขาไล่ต้อน ทั้งยังหวิดจะไปแหย่ต่อหัวเสือเข้าอีก…ไม่ง่ายเลยกว่าจะลงจากเขาจนมาเจอนายพรานใจดีผู้หนึ่งได้ในที่สุด คราวนี้ถึงได้รู้ทิศทางแล้วรุดกลับมาถูก
บนแผ่นดินใหญ่นี้ยังมีราชาสัตว์วิเศษคนใดเคยประสบวิบากกรรมอย่างเขาบ้าง
เฟิงเหยี่ยนอยากจะตัดพ้อต่อว่าสักหน่อย ผลคือโม่อีเหรินเอ่ยข้อสงสัยออกมา
“ท่านตาเหยี่ยน ท่านไม่ได้เรียกให้เขียวครามแบกท่านวิ่งมาหรือเจ้าคะ”
“…” เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
มีฐานะเป็นผู้วิเศษ ขอเพียงมีการสื่อสนองจากพันธสัญญา เขาก็สามารถเรียกตัวเขียวครามได้ทุกเมื่อ ไม่จำเป็นต้องวิ่งเองให้น่าสงสารถึงเพียงนี้
มิหนำซ้ำมีเขียวครามอยู่ พลังกดดันตามฉบับสัตว์วิเศษของมันก็เพียงพอจะทำให้สัตว์ภูเขาเหล่านั้นไม่กล้าเข้าใกล้เขาแล้ว เขาไม่ต้องวิ่งเองให้หอบและสิ้นเปลืองพลังวิเศษใดๆ เลยด้วยซ้ำ
ข้ามันโง่…
เฟิงเหยี่ยนรู้สึกว่าตนเองอายุปูนนี้ไม่มีหน้าไปพบใครแล้ว โม่อีเหรินตบปลอบเขาอย่างเข้าใจยิ่ง
“ท่านตาเหยี่ยน ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ที่นี่มีแต่คนกันเอง ขายหน้าสักหน่อยก็ไม่เป็นไร”
“…” วาจานี้กำลังปลอบใจเขาอยู่แน่หรือ ขายหน้าสักหน่อยก็ไม่เป็นไร…นั่นก็ยังขายหน้าอยู่ดี!
“อาจารย์ ไม่เป็นไรหรอกขอรับ” ฉู่เซวียนฉีเองก็ร่วมขบวนปลอบด้วย
เฟิงเหยี่ยนหมดคำพูด “…”
“ท่านตาเหยี่ยน ของเหล่านี้มอบให้ท่านเจ้าค่ะ” โม่อีเหรินยัดยันต์ส่งตัวและม้วนไผ่หยกให้เขาทั้งหมด
“อาจารย์…” ฉู่เซวียนฉีอธิบายสิ่งของเหล่านี้ตามหลัง ซ้ำยังบรรยายจุดสำคัญในการทำยันต์ที่โม่อีเหรินบอกเมื่อครู่นี้ออกมาอย่างละเอียดรอบหนึ่ง
“อีเหรินน้อย เจ้า…เจ้า…” เฟิงเหยี่ยนโยนความคับข้องใจทิ้งไปในทันที มองโม่อีเหรินด้วยสีหน้าตกตะลึง
นางแค่กักตัวไม่กี่วันก็ทำของเช่นนี้ออกมาได้แล้ว?
ค่ายกล ของมหัศจรรย์ที่ไม่มีบนแผ่นดินใหญ่พรรค์นี้ ไฉนอยู่ในมือโม่อีเหรินกลับดูเหมือนเปลี่ยนเป็นอะไรที่ง่ายดายยิ่ง
เฟิงเหยี่ยนเลื่อนสายตาไปยังโม่ซั่งเฉิน จากนั้นก็เก็บความตกตะลึงลงอย่างเงียบๆ
มีท่านตาที่เป็นอัจฉริยะจอมพิลึกเหมือนปีศาจอยู่ การที่โม่อีเหรินกลายเป็นอัจฉริยะจอมพิลึกน้อยอีกคนก็ดูเหมือนจะมิใช่เรื่องที่น่าแปลกใจจนอยากด่าคนถึงเพียงนั้น
หากแต่เฟิงเหยี่ยนก็รู้สึกว่าตนเองคับอกคับใจยิ่ง…