“ต้วนอี๋เหนียง ตั้งครรภ์เจ้าค่ะ พอฮูหยินทราบก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขณะที่เดินเล่นอยู่นอกสวนบังเอิญพบกัน พูดไม่กี่คำก็ไม่เข้าหู ฮูหยินก็ลงไม้ลงมือด้วยความโมโห ต้วนอี๋เหนียงก็โต้กลับ พวกเราอยากห้ามแต่ก็กลัวจะทำให้พวกนางทั้งสองบาดเจ็บ ผลสุดท้ายฮูหยินและต้วนอี๋เหนียงล้มลงทั้งคู่ แม้แต่คุณชายรองก็บาดเจ็บ ยิ่งกว่านั้นต้วนอี๋เหนียงก็เลือดออกในที่เกิดเหตุ นายท่านจึงตบหน้าฮูหยินฉาดหนึ่งด้วยโทสะ จากนั้นก็ไม่เหลียวแลฮูหยินแม้แต่น้อย สั่งบ่าวไพร่ให้ไปเชิญหมอโอสถ แล้วรีบอุ้มต้วนอี๋เหนียงกลับเรือนหลิงหลง ใครจะคิดว่าฮูหยินก็เจ็บท้อง…”
“ท่านพ่อไม่รู้ว่าท่านแม่จะคลอดหรือ”
“ข้าส่งคนไปเชิญนายท่านที่เรือนหลิงหลงแล้วเจ้าค่ะ แต่ต้วนอี๋เหนียงแท้ง นายท่านโกรธมาก พอได้ยินว่าฮูหยินจะคลอดก็ไม่ดูดำดูดี…” พอพูดถึงตรงนี้อีจิ้งก็รู้สึกเศร้าใจแทนนายหญิงของตนอย่างยิ่ง
ฮูหยินมีชาติกำเนิดสูงส่ง แล้วยังเป็นภรรยาหลวง นายท่านไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์แม้แต่น้อย ตบหน้าภรรยาเอกเพื่อภรรยารอง ทำเกินไปจริงๆ…
ครั้นฟังถึงตรงนี้เด็กชายก็เข้าใจโดยคร่าวๆ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขามองประตูห้องที่ปิดแน่น ฟังเสียงโอดโอยจากด้านในที่อ่อนแรงลงเรื่อยๆ…
“พี่ใหญ่…” น้องชายเป็นกังวลอยู่บ้าง แม้เขาจะไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เสียงกรีดร้องของท่านแม่เบาลงเรื่อยๆ ขนาดเขายังฟังออกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก” เขาปลอบโยนน้องชาย จากนั้นจึงเอ่ยกับน้าจิ้ง “ส่งคนไปแจ้งท่านพ่ออีกครั้ง ถ้าเกิดท่านแม่…” เขาส่ายหน้า ไม่พูดอะไรอีก
อีจิ้งหน้าซีด “…ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
อีจิ้งสั่งบ่าวรับใช้ให้ไปเรือนหลิงหลงอีกครั้ง กำชับว่าจะต้องเชิญนายท่านมาให้ได้ มิเช่นนั้น…หากฮูหยินเป็นอะไรขึ้นมา ผลสุดท้ายไม่ใช่เรื่องที่นายท่านจะรับไหวแน่นอน
ที่นี่ที่ไหน มืดจัง…
ใครกำลังบีบเธอ…นางอยู่ แล้วยังดันตัวนางไม่หยุดหย่อน
ร่างกาย…เหมือนหยดลงไปในกองทราย ถูกหินทรายบดขยี้ เจ็บแสบอยู่บ้าง…
ตอนนี้นางอยู่ที่ใด เกิดอะไรขึ้น
ท่องเที่ยว ถ้ำในภูเขา สายลับ…นางค่อยๆ นึกย้อนกลับ นางจำได้ว่า ‘ทุน’ คำรามอย่างโกรธเคืองอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเหมือนถ้ำจะถล่ม นางอยู่กับ ‘ทุน’ ไม่ได้หนีออกไป และถูกฝังทั้งเป็น…
นางยังหวนรำลึกอย่างเลือนราง แล้วก็พลันได้ยินคนอื่นๆ พูดขึ้นว่า…
“ฮูหยิน จวนแล้วเจ้าค่ะ จะออกมาแล้ว ออกแรงอีก…”
“โอ๊ย…”
นางถูกบีบออกมา จากนั้นก็มีคนรับตัวนางไว้…รับตัวนางไว้?
“ฮูหยิน ยินดีด้วยเจ้าค่ะ เป็นคุณ…หนู คุณหนูคลอดออกมาแล้ว…” แต่ไยจึงไม่ร้องสักแอะเล่า
“อุแว้…” ใครตีนาง เดี๋ยวก่อน เสียง…เสียงของนาง เหตุใดเป็นเสียงอุแว้ล่ะ
นางร้องเพียงเสียงเดียวก็หยุด เม้มริมฝีปากแน่นไม่ยอมร้องอีก เพราะการร้องอุแว้ อุแว้ น่าอายจะตายไป! แต่เหตุใดเสียงนางถึงเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้
“คุณหนู?” จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงสตรีแหบพร่าและอ่อนแรง เอ่ยถามอย่างไม่ค่อยเชื่อ