ทดลองอ่าน ยอดสตรีเป็นยากยิ่ง ภาค 2 เล่ม 3 บทที่ 1 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ยอดสตรีเป็นยากยิ่ง ภาค 2 เล่ม 3 บทที่ 1

หลังโม่อีเหรินสลบอยู่ในแหวนพู่สวรรค์หนึ่งวันหนึ่งคืนถึงได้ตื่นขึ้นมา จากนั้นนางก็ทำอาหารวิเศษมื้อใหญ่ให้ทั้งสองคนสองสัตว์ได้กินจนอิ่มหนำ

หลังจากนั้นเนื่องจากโม่อีเหรินยังมีความเข้าใจต่อดินแดนแรกนภาน้อยเกินไป เดิมทีคิดจะไปอ่านตำราอ่านม้วนไผ่หยก แต่ไป่หลี่จิงหงคว้าตัวนางกลับไปกอดไว้พลางเล่าให้นางฟังด้วยตนเอง

เจ็ดกลุ่มอำนาจใหญ่แห่งดินแดนแรกนภา โม่อีเหรินรู้จักแล้ว ดังนั้นไป่หลี่จิงหงจึงเน้นเล่าเรื่องระดับขั้นการฝึกบำเพ็ญของดินแดนแห่งนี้ รวมถึงเรื่องที่ระดับขั้นของโอสถกับหมอโอสถและช่างหลอมก็แบ่งเป็นเก้าขั้นดุจเดียวกัน

ระดับขั้นของหมอโอสถกำหนดโดยอิงตามระดับขั้นของโอสถที่หลอมออกมาได้

แม้ว่าตัวของโอสถเองจะมีการแบ่งเป็นระดับต่ำ กลาง สูงเช่นกัน แต่ที่นี่กำหนดจากระดับความยากง่ายในการหลอม

โอสถที่ใช้กันประจำในดินแดนเทพยุทธ์อย่างพวกลูกกลอนเสี่ยวหยวน ยาลูกกลอนเสริมพลัง ยาไม่รู้หิวซึ่งโม่อีเหรินเคยหลอมในสมัยก่อนล้วนจัดอยู่ในขั้นหนึ่งถึงสาม

ส่วนหยาดน้ำตาเทพยุทธ์กับยาแก้พิษหยาดน้ำตาเทพยุทธ์จัดอยู่ในขั้นเจ็ด นี่เป็นเพราะหญ้าโลหิตหงส์อันเป็นส่วนประกอบทำการหลอมหาได้ยากเป็นพิเศษ มิหนำซ้ำยังต้องใช้เวลาในการหลอมนานมาก

บนดินแดนแรกนภา หมอโอสถขั้นเจ็ดสามารถนับได้ว่ายืนอยู่บนจุดสูงสุดของหมอโอสถแล้ว

สำหรับโม่อีเหริน ยาสองชนิดนี้ล้วนไม่ยากเกินความสามารถนาง อีกทั้งนางก็เคยหลอมสำเร็จมานานแล้ว มิหนำซ้ำนางยังสามารถปรับปรุงตำรับยาได้อีกด้วย ดังนั้นอย่างน้อยๆ โม่อีเหรินก็ถือได้ว่าเป็นหมอโอสถขั้นเจ็ดผู้หนึ่ง

ด้านช่างหลอมเองก็กำหนดระดับขั้นจากระดับอาวุธที่หลอมออกมาเช่นกัน

อาวุธแบ่งเป็นสามระดับขั้น ได้แก่ อาวุธล้ำค่า อาวุธเวท และอาวุธวิเศษ ส่วนคุณภาพก็แบ่งตามดีเลวได้อีกสี่ระดับ ได้แก่ คุณภาพต่ำ กลาง สูง และชั้นเลิศ

สามารถหลอมอาวุธล้ำค่าได้จะจัดเป็นช่างหลอมขั้นหนึ่ง อาวุธเวทจะจัดเป็นขั้นสองถึงห้า ส่วนอาวุธวิเศษจะจัดเป็นขั้นหกถึงเก้า

ช่างหลอมที่สามารถหลอมอาวุธวิเศษขั้นหกขึ้นไปได้ก็จัดเป็นบุคคลที่สามารถเดินกร่างในดินแดนได้เช่นกัน

หลงชิงเหยาก็คือช่างหลอมขั้นหกที่กำลังก้าวเข้าสู่ขั้นเจ็ด

นอกจากนี้ไป่หลี่จิงหงยังเล่าถึงบุคคลชื่อดังจากกลุ่มอำนาจใหญ่ต่างๆ ให้ฟังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบุคคลสำคัญของภาคีผู้ฝึกตน

ประมุขของหกหอผู้ซึ่งขณะเดียวกันยังเป็นหกผู้อาวุโสใหญ่ของภาคีผู้ฝึกตน รวมไปถึงประมุขหอน้อยทั้งหก

อายุของหกประมุขหอน้อยล้วนน้อยกว่าห้าร้อยปี ผู้ที่เด็กที่สุดอีกทั้งปรากฏตัวช้าที่สุดแน่นอนว่าคือไป่หลี่จิงหง

ไล่อายุจากน้อยไปมาก ได้แก่ หลงชิงเหยา หลิงเซ่าจวิน เยี่ยจิ้นแห่งหอวิเวก อ้ายหลิงสือแห่งหอวาณิช จั้นเอ้าเทียนแห่งหอยุทธ์

แม้ประมุขหอน้อยทั้งหกจะรู้จักคุ้นเคยกันในระดับต่างๆ กันไป แต่หลังจากได้พบหน้าไม่กี่ครั้งก็ล้วนค่อนข้างถูกคอกัน

แม้แต่ไป่หลี่จิงหงที่ได้คลุกคลีด้วยไม่กี่วัน อีกทั้งยังพูดน้อยจนชวนให้คนอยากลมจับ ทว่ากลับมีตัวตนเด่นชัดยิ่ง ก็ยังได้รับการยอมรับจากห้าคนที่เหลืออย่างง่ายดาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหลิงเซ่าจวิน เนื่องจากให้การดูแลไป่หลี่จิงหงที่ได้รับบาดเจ็บมาโดยตลอด จึงเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับเขาที่สุด

ส่วนอุปนิสัยของหลงชิงเหยานั้น นอกจากเวลาหลอมประดิษฐ์ก็เป็นคนทึ่มโดยธรรมชาติ แทบจะไม่มีความสามารถในการดำรงชีวิต พลังยุทธ์ไม่ได้นับว่าสูงส่ง ชิงอู๋หยาก็คือผู้ที่ให้การดูแลและคุ้มครองเขา

ตามคำบอกเล่าของหลิงเซ่าจวิน ‘ตั้งแต่อายุสิบขวบเป็นต้นมา อู๋หยาก็เป็นพี่เลี้ยงให้ชิงเหยามาโดยตลอด’

ขณะเดียวกันเขาก็เป็นผู้ที่แสดงความเป็นมิตรต่อไป่หลี่จิงหงเร็วที่สุดนอกเหนือจากหลิงเซ่าจวิน

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com