บทที่ 3
ภาคีผู้ฝึกตน ภายในกระโจมของไป่หลี่จิงหง
บุรุษสี่คนกวาดอาหารบนโต๊ะจนเกลี้ยงในเวลาเพียงไม่นานอย่างฉับไว แต่มิได้มีท่าทางหยาบช้าตะกละตะกลาม
หลังจากมาตั้งค่ายพักแรมกันที่ทะเลสาบจงโยว หลิงเซ่าจวิน หลงชิงเหยา และโม่อีเหรินก็คุ้นเคยกันมากขึ้น ต่อมาเวลาโม่อีเหรินเตรียมอาหารวิเศษจึงเตรียมเผื่อพวกเขาด้วย
เวลานั้นหลิงเซ่าจวินยังทอดถอนใจด้วยว่า ‘ที่แท้โม่อีเหรินก็ไม่ได้ใจแคบจริงๆ’
‘อันที่จริงข้าสามารถใจแคบได้มากกว่านี้อีก’ โม่อีเหรินกล่าวด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง
‘ไม่ต้องแล้ว เช่นนี้ดียิ่ง’ หลิงเซ่าจวินถอนคำพูดทันควัน
‘โม่อีเหรินน่ารักยิ่งนัก’ หลงชิงเหยาเองก็พูดอย่างเป็นธรรมชาติ
‘น่ารักยิ่งนัก’ ชิงอู๋หยาที่มีฐานะเป็นองครักษ์เออออคล้อยตามทุกคำพูดของหลงชิงเหยา
‘ขอบคุณ’ โม่อีเหรินเอนอิงอยู่ในอ้อมแขนของไป่หลี่จิงหงพลางยิ้มตาหยี
ทว่าอาหารวิเศษมีเพียงหนึ่งมื้อต่อวัน เนื่องจากใครบางคนทนให้คู่หมั้นของตนเหน็ดเหนื่อยเกินไปไม่ลง
โม่อีเหรินไม่ได้เข้าร่วมวงชิงอาหาร แต่หยิบผลไม้วิเศษลูกหนึ่งมากัด ดูดน้ำที่อยู่ด้านในทีละน้อย ทางหนึ่งก็ยังคงคุยกับเสี่ยวทุน
เมื่อครู่ก่อนที่จะจากมา นางได้ทิ้งเสี่ยวทุนไว้ให้แอบฟังอย่างเงียบๆ
จำต้องกล่าวว่าพรสวรรค์นี้ของเสี่ยวทุนมีประโยชน์มากจริงๆ
‘…ท่านแม่ จะให้ข้าตามไปหาโอกาสกัดคนผู้นั้นสักทีหรือไม่’ หลังรายงานเสร็จสิ้น เสี่ยวทุนก็ขอคำสั่งด้วยท่าทางจริงจังยิ่ง
อย่านึกว่ามันอยู่บนข้อมือของท่านแม่แล้วจะไม่เห็นสายตาน่ารำคาญนั่น
ไม่ต้องแล้ว มีโอกาสพวกเราค่อยเล่นงานเขากลับ โม่อีเหรินไม่รีบ
‘อ้อ…’ ระบายแค้นแทนท่านแม่ไม่ได้ เสี่ยวทุนก็ผิดหวังอยู่เล็กๆ
ในทะเลสาบมีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่
‘ไม่มี’ เสี่ยวทุนลังเลเล็กน้อย ‘แต่ว่าท่านแม่ ข้ามีความรู้สึกที่แปลกยิ่งอยู่ตลอด เหมือนว่ามีบางสิ่งกำลังจะโผล่ออกมา รู้สึกมาตั้งแต่เข้าใกล้ทะเลสาบแล้ว’
ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเช่นนี้อยู่หรือ
‘ประเดี๋ยวมี ประเดี๋ยวไม่มี’ ตัวเสี่ยวทุนเองก็ไม่เข้าใจ
โม่อีเหรินสะกิดใจ
เสี่ยวทุนสามารถมองข้ามครอบพลังใดๆ ก็ตาม ทว่ากลับความรู้สึกไวต่อความผันผวนของครอบพลังอย่างมาก นี่จะใช่เป็น…ความผันผวนจากทางเข้าแดนสมบัติหรือไม่
เสี่ยวทุน เจ้าคอยจับตาดูอยู่ริมทะเลสาบสักหน่อย หากมีความเคลื่อนไหวอะไรให้บอกข้าทันที
‘ได้เลย’
หลังจบการสื่อสารผ่านญาณวิเศษกับเสี่ยวทุนแล้วก็ได้ยินหลิงเซ่าจวินพูดว่า “แดนสมบัติไม่ปรากฏเสียที มีคนร้อนใจยิ่งกว่าพวกเราอีก”
“พวกเราไม่ร้อนใจหรือ” หลงชิงเหยาถามอย่างแปลกใจ
“ไม่”
“เพราะอะไร”
“รออีกไม่นาน พวกเราก็จะมีของอร่อยให้กินแล้ว” อาหารวิเศษฝีมือโม่อีเหรินกินอย่างไรก็ไม่เบื่อ
“อย่างนี้โม่อีเหรินจะลำบากมากหรือไม่” แม้ว่าเขาเองจะอยากกินอีกสักหลายมื้อก็ตามที…
“เอาวัตถุดิบกับหินวิเศษมา” ไป่หลี่จิงหงเอ่ยขึ้น
“ใช้หญ้าวิเศษเป็นของตอบแทนก็ได้เหมือนกัน” โม่อีเหรินกล่าวเสริม
หลิงเซ่าจวินมองคนทั้งสองอย่างหมดคำพูด “ไป่หลี่จิงหง ท่านขัดสนหินวิเศษถึงเพียงนั้นเชียวหรือ”
“อีเหรินชอบ”
“…” ก็ได้ เขาถามผิดคนแล้ว “โม่อีเหริน ท่านขัดสนหินวิเศษถึงเพียงนั้นเชียวหรือ”
“ไม่ได้ขัดสนมาก แต่มีมากไว้ก็ดี ข้ายังมีของอีกหลายอย่างที่อยากซื้อ มิหนำซ้ำยังต้องซื้ออาหารว่างมาเลี้ยงสัตว์ตัวน้อยของข้าอีกด้วย” นางลูบหัวเขี้ยวเงินพลางเอ่ย
“วู้…” เขี้ยวเงินส่งเสียงร้องอย่างให้ความร่วมมือยิ่ง