พิษเป็นเสวียนหมิงเจินวาง ต้องการยาแก้พิษก็มีแค่เขาที่มี ด้วยเหตุนี้ไป่หลี่จิงไห่จึงมอบอำนาจการเป็นผู้นำให้เสวียนหมิงเจิน ส่วนตนเองก็จับตามองไป่หลี่จิงหงอย่างเงียบๆ
ตามข่าวที่เขาได้รับ หลังไป่หลี่จิงหงถูกพิษสมควรยังไม่หายดีมาจนถึงตอนนี้ แต่ตอนนี้กลับมองไม่ออกเลยว่าเขามีตรงใดที่ยังไม่หายดี
ถูกพิษ อีกทั้งชีพจรขาดสะบั้น ใช่จะไม่มียารักษา เพียงแต่สมุนไพรวิเศษล้ำค่าและหายากเกินไป หากเขาหายดีแล้วจริงๆ…สีหน้าไป่หลี่จิงไห่อึมครึมลงเล็กน้อย
“ต้องการยาแก้ก็ย่อมได้ ให้พวกเขาลงเขาไป ส่วนเจ้าอยู่ก่อน”
พอเสวียนหมิงเจินพูดจบ ไป่หลี่จิงหงก็ก้าวมายืนข้างหน้าโม่อีเหริน สายตาเยียบเย็นคล้ายกำลังมองคนรนหาที่ตาย
เสวียนหมิงเจินที่ถูกจ้องเขม็งพลันรู้สึกเหมือนมีความเย็นจู่โจมเข้าหัวใจ
ความรู้สึกทำนองนี้น่าหวาดหวั่นเกินไปแล้ว ทำให้เสวียนหมิงเจินอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมาเล็กๆ ทว่าเขาก็มิใช่คนที่จะถูกขู่ขวัญได้
ยิ่งไปกว่านั้นผู้อื่นไม่รู้ แต่เสวียนหมิงเจินกลับกระจ่างแจ้งดีว่าไป่หลี่จิงหงผู้นี้มาจากดินแดนเทพยุทธ์ที่มีไอวิเศษไม่เพียงพอ อายุก็เพิ่งจะยี่สิบเอ็ด หากจะบอกว่าตอนนี้เขาร้ายกาจเสียเต็มประดา เสวียนหมิงเจินก็ไม่เชื่อแม้แต่น้อย
เสวียนหมิงเจินถามย้ำอีกครั้งโดยไม่นำพาไป่หลี่จิงหง “ว่าอย่างไร”
“จิงหง” โม่อีเหรินดึงแขนเสื้อของไป่หลี่จิงหงจากด้านหลัง รอเขาหันหน้ากลับมาถึงได้เม้มปากพูดว่า “ไม่เป็นไร”
สีหน้าของไป่หลี่จิงหงเยียบเย็นลงในพริบตา
โม่อีเหรินได้แต่พูดอย่างจนใจอยู่เล็กน้อย “จิงหง พวกเราไม่อาจเรียกร้องให้แต่ละคนซื่อสัตย์รักษาคำพูดเหมือนกับพวกเราได้” คลับคล้ายว่าได้ยินเสียง ‘พรืด’ จากใครสักคน ช่างเถอะ “มิหนำซ้ำเรากระทำการเปิดเผยโปร่งใส ก็ไม่กลัวผู้อื่นจะเล่นเล่ห์เพทุบาย”
ในดวงตาไป่หลี่จิงหงมีแววขบขันวาบผ่าน
“เจอกับคนที่พลังแก่นแท้อาจจะมีไม่เท่าไร ทั้งยังปอดแหก ชอบลอบโจมตี ชอบลอบวางยาพิษ ไม่กล้าเผชิญหน้าคู่ต่อสู้อย่างเปิดเผยเป็นธรรม พวกเราต้องลดความคาดหวังให้ต่ำลงสักนิด และต้องแสดงความสง่าผ่าเผยของพวกเราให้เห็นด้วยสักหน่อย ยอมให้พวกเขาสักครา”
ยอม?!
เสวียนหมิงเจินหน้าดำแล้ว ทว่าอดกลั้นไว้ได้
รอก่อนเถอะ เขาจะทำให้คนพวกนี้ได้รู้ว่าทำเล่นลิ้นต่อหน้าเขาไปก็ไม่มีประโยชน์
เสวียนหมิงเจินโยนยาแก้พิษไปให้ ทว่าเรื่องที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงคือผู้ที่รับไว้มิใช่ไป่หลี่จิงหง แต่เป็นสตรีนางนั้น
โม่อีเหรินวางยาแก้พิษลงบนมือไป่หลี่จิงหง จากนั้นก็เขย่งปลายเท้าแล้วดึงตัวเขาลงมากระซิบข้างหู ไป่หลี่จิงหงมีท่าทางไม่อยากพยักหน้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงพยักหน้า
“ห้ามจงใจทำเรื่องอันตราย”
“ข้าไม่ใช่ท่านเสียหน่อย” โม่อีเหรินเอามือเท้าสะเอว ท่าทางไม่พอใจ
เป็นใครที่ชอบทำเรื่องอันตรายกันแน่ ใครบางคนเคยมีประวัติมาแล้ว แต่นางยังไม่มี
ทว่าบุรุษบางคนเห็นได้ชัดว่าเรื่องในอดีตไม่จำเป็นต้องรื้อฟื้น ตอนนี้จงมองที่ปัจจุบัน นี่สำคัญกว่า
“ตอนนี้กำลังพูดถึงเจ้า หากเจ้าทำให้ข้าตกใจอีก ระวังข้าจะเปลี่ยนมาลงโทษเจ้าแทน”
“ข้าขอปฏิเสธความรุนแรงในครอบครัว!” โม่อีเหรินถลึงตาโต
ไป่หลี่จิงหงกลับรั้งตัวนางเข้ามาใกล้ ก้มหน้าลงใช้ปลายจมูกสะกิดกับปลายจมูกนางอย่างชิดเชื้อ
“มิใช่ความรุนแรงในครอบครัว” เขาจะทำลงได้อย่างไร