ความจริงนี้พิสูจน์ได้อีกคราว่า ‘ท่านตา’ ผู้นี้เป็นยอดคนผู้ยิ่งใหญ่เหนือใคร แต่เห็นชัดว่าพี่ใหญ่และพี่เล็กกลับไม่รู้จักท่านตา นี่มันอะไรกันแน่นะ ทว่าอย่างไรท่านตาจะต้องเก่งกาจ มิเช่นนั้นบิดาของนางคงไม่ ‘เคารพ’ เขาเยี่ยงนี้
ฉู่อีเหรินกลอกตาไปมา ที่จริงนางประหลาดใจกับเรื่องเหล่านี้อยู่เล็กน้อย
จะถามใครดีที่สุดนะ…สายตาของนางกลอกไปทางอาจารย์ใหม่ของพี่เล็กทันที
ทว่าทั้ง ‘ท่านตา’ และเฟิงเหยี่ยน คล้ายจะไม่ใช่คนที่พูดคุยด้วยง่ายๆ กระมัง
“อีเหรินน้อย แปลกใจมากหรือ” ระหว่างที่นางกำลังคิดอยู่ เฟิงเหยี่ยนก็เดินมาด้านหน้านาง อุ้มนางจากฉู่เซวียนอั๋ง และมีสัตว์น้อยสัปหงกติดมาด้วย
เฟิงเหยี่ยนแอบตกใจ สัตว์น้อยตัวนี้…คงเป็นของฉีเอ๋อร์กระมัง ไยจึงนอนในอ้อมกอดของฉู่อีเหรินเล่า
ตามที่เขาล่วงรู้มา สัตว์วิเศษล้วนหยิ่งยโส นอกจากเจ้านายที่ทำพันธสัญญากับตนเองแล้วจะไม่เข้าใกล้คนอื่นอย่างง่ายๆ เด็ดขาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการนอนในอ้อมกอดผู้อื่นอย่างเกียจคร้านและไม่ระวังตัวเลยเช่นนี้
เหตุใดมันจึงยอมให้อีเหรินน้อยอุ้มกัน
“เจ้าค่ะ น่าแปลกยิ่งนัก” ฉู่อีเหรินไม่สังเกตเลยว่าความสงสัยของเฟิงเหยี่ยนหมุนวนรอบแล้วรอบเล่า แล้วก็ไม่มีเวลากลัดกลุ้มกับตนเองที่ถูกอุ้มไปมา แต่ตอบคำถามเฟิงเหยี่ยนทันที หวังว่าเขาจะสามารถอธิบายและแก้ข้อสงสัยความอยากรู้อยากเห็นของนางได้
“ไม่ต้องใจร้อน อีกสักครู่เจ้าก็จะรู้” เฟิงเหยี่ยนหัวเราะ
มายั่วให้อยากรู้แล้วกลับเก็บเงียบ ท่านอารูปงามช่างไม่มีคุณธรรมเอาเสียเลย
ฉู่อีเหรินมองเฟิงเหยี่ยนอย่างตำหนิ
เฟิงเหยี่ยนหัวเราะต่อไปพลางอุ้มฉู่อีเหรินให้เหมาะมืออีกหน่อย ทำให้นางสบายตัวยิ่งขึ้น
ฉู่อีเหรินตัวเบาหวิว แม้มีอายุเพียงสามขวบ ทว่าก็ยังนับว่าผอมเกินไปอยู่ดี ต่อไปจะต้องบำรุงให้มาก
จากนั้นเขาก็พบว่าการอุ้มเด็กน้อยตัวเล็กเช่นนี้ก็สนุกดี มิน่าล่ะฉู่เซวียนอั๋งจึงมักอุ้มน้องสาวไม่ยอมวาง ราวกับเป็นที่รักสุดประมาณ
เฟิงเหยี่ยนตัดสินใจว่าต่อไปเขาจะคว้าโอกาสก่อนที่อีเหรินน้อยจะโตเป็นสาวอุ้มนางให้บ่อยขึ้น
สักพักหนึ่ง สองคนที่ออกไปสนทนากันข้างนอกก็กลับเข้ามา
“ท่านพ่อตา…” ฉู่อวิ๋นเฟยเพิ่งจะเอ่ยปาก ใครบางคนก็หันขวับมามองด้วยสายตาเย็นยะเยือก เขาจึงต้องเปลี่ยนคำพูด “ผู้อาวุโสโม่…”
“ข้าจะพาฉู่อีเหรินไป ต่อไปนางและสกุลฉู่จะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กันอีก”
“หา?! ไม่ได้!” ฉู่อวิ๋นเฟยหน้าถอดสี
แม้เขาจะไม่สนใจไยดีลูกสาวคนนี้ แต่ฉู่อีเหรินแซ่ฉู่ หากถูกพาไปและถูกตัดความสัมพันธ์กับสกุลฉู่เช่นนี้แล้วเรื่องถูกเล่าลือออกไป ผู้อื่นจะคิดเช่นไร
“หืม?” ใครบางคนจ้องมองเขาอย่างเย็นชาอีกครั้ง น้ำเสียงของฉู่อวิ๋นเฟยที่เอ่ยตอบจึงอ่อนลง