ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดสามีของกุลสตรีอันดับหนึ่ง บทที่ 1-บทที่ 2
นางเห็นตนเองในความฝัน แต่ก็ไม่เหมือนตัวนางเองทั้งหมด นางเป็นเหมือนหุ่นเชิดถูกโยงเส้นสาย ผ่านชีวิตของ ‘เฉิงอวี๋จิ่น’ ตั้งแต่ต้นจนจบ
นางในความฝันเหมือนในตอนนี้ เกิดในจวนอี๋ชุนโหวที่มีโถงเป็นหยกม้าเป็นทองร่ำรวยอย่างมาก นายหญิงรองหร่วนซื่อจวนอี๋ชุนโหวคลอดเด็กหญิงฝาแฝดออกมาคู่หนึ่ง ในเวลานี้ท่านหญิงชิ่งฝูที่เป็นนายหญิงใหญ่แต่งเข้าบ้านมาเกือบห้าปียังไม่มีบุตรเลย แต่หร่วนซื่อที่แต่งเข้ามาได้เพียงหนึ่งปีก็ได้อุ้มลูกสองคนแล้ว แม้จะเป็นเด็กหญิงทั้งคู่ แต่อย่างไรเสียก็เป็นเด็กรุ่นหลานรุ่นที่หนึ่งของสกุลเฉิง มีความเป็นมงคล ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงจึงตัดสินใจเอง อุ้มเด็กคนพี่มาเป็นบุตรสาวของท่านหญิงชิ่งฝู อยากให้บ้านใหญ่ได้มีบรรยากาศความยินดีของการมีบุตรบ้าง
ภายหลังเด็กสองคนนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ‘เฉิงอวี๋จิ่น’ และ ‘เฉิงอวี๋โม่’
เฉิงอวี๋จิ่นรู้ตั้งแต่เด็กว่าตนเองกับน้องสาวคนรองบุตรสาวของท่านอาบ้านรองเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน แต่นางก็รู้อีกเช่นกันว่าหร่วนซื่อเป็นอาสะใภ้รองของนาง มารดาเพียงคนเดียวของนางคือท่านหญิงชิ่งฝู
เป็นได้เพียงท่านหญิงชิ่งฝูเท่านั้น
เฉิงอวี๋จิ่นกับเฉิงอวี๋โม่ตอนเด็กหน้าตาเหมือนกันมาก จนกระทั่งค่อยๆ เติบโตหน้าตาถึงเริ่มเปลี่ยนไป ความแตกต่างของสองพี่น้องปรากฏให้เห็น เฉิงอวี๋จิ่นสุขภาพดีกว่า รูปโฉมงดงามกว่า นิสัยก็สงบนิ่งมากกว่า ส่วนเฉิงอวี๋โม่เดิมทีเพราะเป็นคู่แฝดก็อ่อนแอกว่าเด็กทั่วไปอยู่แล้ว เฉิงอวี๋โม่ยังคลอดจากท้องแม่ทีหลัง จึงยิ่งมีร่างกายอ่อนแอกว่า แม้แต่รูปโฉมก็ด้อยกว่าเล็กน้อย
คนในบ้านตนเองไม่ต้องพูดถึง ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงกับท่านหญิงชิ่งฝู หรือต่อให้เป็นสาวใช้คนหนึ่งที่ปรนนิบัติรับใช้ในสกุลเฉิงมานานแล้วก็สามารถแยกความแตกต่างของคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองได้ แต่สำหรับคนนอก ผู้ใดจะมาสังเกตโครงหน้าอย่างละเอียด พี่น้องในจวนเดียวกันเดิมทีก็มีความคล้ายกันอยู่แล้ว กอปรกับพวกนางอายุเท่ากัน ทั้งยังแต่งกายคล้ายกันอีก ดังนั้นมักจะมีคนภายนอกสับสนอยู่เสมอ
เฉิงอวี๋จิ่นในชีวิตมักต้องอธิบายว่า ‘ข้าคือคุณหนูใหญ่อวี๋จิ่น’ มาจนถึงอายุสิบสี่ปี
ฤดูหนาวปีก่อน นางช่วยชีวิตชายคนหนึ่งกลางหิมะตกหนัก ปีต่อมานางก็แต่งงานกับชายคนนี้
ชายผู้นี้ชื่อฮั่วฉางยวน
ในวันแต่งงาน เฉิงอวี๋จิ่นอยู่ในขบวนเจ้าสาวยาวเป็นสิบหลี่* แต่งกับฮั่วฉางยวนอย่างยิ่งใหญ่ บรรดาพี่สาวน้องสาวต่างอิจฉาที่นางได้แต่งกับสามีที่ดี ฮั่วฉางยวนได้เป็นโหวตั้งแต่อายุยังน้อย เฉิงอวี๋จิ่นเมื่อแต่งเข้าบ้านก็ได้เป็นฮูหยินท่านโหวเสียเวลาน้อยกว่าสตรีคนอื่นอย่างน้อยยี่สิบปี อีกทั้งฮั่วฉางยวนปีที่แล้วเพิ่งสร้างผลงานทางการทหารที่ซีเป่ย สภาพการณ์ดีเด่น มีอนาคตไร้ขีดจำกัด ตัวเขาเองก็รูปโฉมหล่อเหลา รูปร่างสง่าผ่าเผย สามีที่ดีเช่นนี้กลับถูกเฉิงอวี๋จิ่นจับไว้แน่น ช่างน่าโมโหจริงๆ
เฉิงอวี๋จิ่นในตอนนั้นไม่รู้ว่าในสถานการณ์ที่นางไม่รู้เรื่องราวอันใดเลย นางได้กลายเป็นคนเลวในเรื่องราวของผู้อื่นไปแล้ว
หลังแต่งงานชีวิตของเฉิงอวี๋จิ่นกับฮั่วฉางยวนโดยรวมเป็นอย่างที่นางคาดไว้ เพียงแค่แม่สามีเอาใจยากสักนิด สามีชอบสั่งการเกินไปสักหน่อย กฎระเบียบของสกุลฮั่วมากไปเล็กน้อย หลายปีนั้นคนภายนอกเห็นเฉิงอวี๋จิ่นเป็นดั่งดอกไม้สดประดับผ้าแพร* งดงามไร้ขีดจำกัด มีเพียงตัวนางที่รู้ว่าหลังประตูนั้นยากลำบากเพียงใด แต่นี่ไม่เป็นไร สตรีล้วนต้องเคยผ่านด่านนี้ทุกคน นางไม่ต้องปรนนิบัติย่าของสามี ตนเองมีอำนาจในการดูแลจวน มีสภาพการณ์ดีกว่าสตรีส่วนใหญ่แล้ว
ปีที่สองหลังการแต่งงานนางก็ตั้งครรภ์ ตอนฮั่วฉางยวนอายุเจ็ดขวบบิดาตายจากการรบ ฮั่วเซวียซื่อเป็นม่าย หลายปีมานี้เป็นฮั่วเซวียซื่อดูแลฮั่วฉางยวนจนเติบใหญ่มาอย่างยากลำบาก สองแม่ลูกพึ่งพาอาศัยกัน ฮั่วเซวียซื่อเรียกได้ว่ามีความต้องการครอบครองในตัวบุตรชายเกินปกติ นับตั้งแต่เฉิงอวี๋จิ่นแต่งเข้าบ้าน ฮั่วเซวียซื่อก็ปฏิบัติต่อเฉิงอวี๋จิ่นอย่างหมางเมินบ้างสนใจบ้างมาตลอด สรรหาวิธีมาแยกเวลาที่พวกเขาสามีภรรยาอยู่ด้วยกัน เฉิงอวี๋จิ่นจนปัญญา ทำได้เพียงทำตามความต้องการของแม่สามี ไม่สนิทเสน่หากับสามีอีก
ที่น่าขันก็คือฮั่วเซวียซื่อไม่ให้พวกเขาสามีภรรยาใกล้ชิดกัน แต่กลับบีบให้เฉิงอวี๋จิ่นคลอดหลานให้ เฉิงอวี๋จิ่นมีความทุกข์เต็มท้องแต่พูดไม่ออก ดังนั้นปีที่สองหลังแต่งงาน ตอนที่เด็กคนนั้นมาถึง แค่คิดก็รู้ได้ว่าเฉิงอวี๋จิ่นมีความยินดีมากเพียงใด
นางโยนอำนาจการดูแลจวนทิ้งทันที ดูแลครรภ์ด้วยความยินดี เพราะอยู่ในเรือนส่วนในรู้สึกเบื่อหน่าย นางจึงรับน้องสาวมาจากบ้านเดิม เฉิงอวี๋จิ่นก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับฮั่วฉางยวนอยู่แล้ว ตอนนี้ตั้งครรภ์จึงยิ่งไม่ให้เขาแตะต้องร่างกายตนเอง ช่วงเวลานั้นฮั่วฉางยวนพักรบอยู่บ้าน เฉิงอวี๋โม่มาพูดคุยกับนางทุกวัน เฉิงอวี๋จิ่นลูบท้องที่ค่อยๆ กลมขึ้น รู้สึกเพียงว่าการมีลูก สามี และน้องสาวอยู่ข้างกายช่างเป็นวันเวลาที่ดีมาก ไม่รู้สึกเสียดายสิ่งใดเลย
ทว่าสีหน้าสาวใช้ข้างกายนางประหลาดขึ้นทุกที ตู้รั่วมีหลายครั้งที่อยากพูดอะไรแต่ก็ยั้งเอาไว้ เพียงเห็นท่าทางมีความสุขของเฉิงอวี๋จิ่นแล้วก็ทำใจพูดออกมาไม่ได้ แต่เฉิงอวี๋จิ่นอย่างไรก็ไม่ใช่คนโง่ นางสังเกตเห็นความผิดปกติ บังคับถามสาวใช้อย่างละเอียด จึงรู้ว่าตอนที่นางนอนพักดูแลครรภ์ ฮั่วฉางยวนมักจะพูดคุยหัวเราะกับเฉิงอวี๋โม่ การกระทำสนิทสนม
ราวกับฟ้าผ่าตอนท้องฟ้าสดใส เฉิงอวี๋จิ่นได้แต่ยืนตะลึง นางเยาะหยันตนเอง เสียทีที่นางบอกว่าตนเองเป็นสตรีที่เพียบพร้อม ไม่บกพร่องแม้แต่น้อย กลับทำความผิดพลาดที่น่าขันเช่นนี้ เฉิงอวี๋จิ่นคิดเพียงว่าตนเองมีแรงไม่พอ ไม่สามารถคอยสังเกตได้ตลอด ดังนั้นจึงทำให้ฮั่นฉางยวนกับเฉิงอวี๋โม่มีโอกาสอยู่ด้วยกันมากขึ้น เกิดเรื่องฉาวโฉ่เช่นนี้ขึ้น คนหนึ่งคือสามีของนาง คนหนึ่งคือน้องสาวของนาง เฉิงอวี๋จิ่นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่คิดจะโวยวายจนเสียหน้าทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นจึงฉวยโอกาสตอนที่ฮั่วฉางยวนไปฝึกทหารที่ค่าย เรียกเฉิงอวี๋โม่เข้ามา พูดเลี่ยงๆ ไปมากมาย นางคิดว่าตนเองไว้หน้าทั้งสองฝ่ายมากพอแล้ว ขอให้เป็นหญิงสาวที่รู้ความและรักหน้าตา พอได้ฟังถึงตรงนี้แล้วต้องเข้าใจแน่นอน คิดไม่ถึงว่าเฉิงอวี๋โม่ฟังเข้าใจแล้วกลับร้องไห้วิ่งหนีไป คิดว่าถูกเฉิงอวี๋จิ่นหมิ่นศักดิ์ศรี
เฉิงอวี๋จิ่นโกรธขึ้นหน้า ไม่ได้สนใจนาง ในวันนั้นเฉิงอวี๋โม่ก็ขึ้นรถกลับจวนไป ฮั่วเซวียซื่อส่งคนมาสอบถาม เฉิงอวี๋จิ่นเพียงแค่ยิ้มพูดอย่างไม่จริงจัง ไว้หน้าครั้งสุดท้ายแก่เฉิงอวี๋โม่กับฮั่วฉางยวน
นางคิดว่าผู้ที่เป็นทั้งภรรยาและพี่สาวทำมาถึงขั้นนี้ เป็นการมีคุณธรรมอย่างยิ่งแล้ว นางรอฮั่วฉางยวนกลับมาให้คำชี้แจงแก่นาง ไม่คิดเลยว่าฮั่วฉางยวนกลับมาจากค่ายทหาร พอได้ยินว่าเฉิงอวี๋โม่กลับไปแล้วก็หมุนตัวออกไปตามคนทันที ทิ้งเฉิงอวี๋จิ่นยืนอยู่ในห้องคนเดียว เผชิญหน้ากับบ่าวไพร่เต็มห้อง ผ่านไปนานก็ยังไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
ฮั่วฉางยวนกลับมาอีกครั้งก็มองนางด้วยสายตาเย็นชาอย่างมาก บอกว่านางเป็น ‘หญิงร้าย’ เฉิงอวี๋จิ่นจนถึงวันตายก็ไม่เข้าใจ นางช่วยดูแลครอบครัวให้ฮั่วฉางยวน อดทนกับแม่สามีที่เอาใจยาก แต่ฮั่วฉางยวนกลับลอบคบหากับน้องสาวลับหลังนาง นางใจร้ายที่ใด…นางผิดตรงที่ใด
เฉิงอวี๋จิ่นด้วยความกลัดกลุ้มจึงมีน้ำเดินเร็วขึ้น หลังจากคลอดลูกแล้ว ฮั่วเซวียซื่อก็รีบไปดูหน้าหลาน ไม่ได้สนใจเฉิงอวี๋จิ่นที่นอนอยู่บนเตียงคลอดเลย เพราะคลอดก่อนกำหนดรวมกับคลอดยาก เฉิงอวี๋จิ่นวันนั้นได้เสียเลือดมาก ไม่ช้าก็ตาย
นางในความฝันตายแล้ว เฉิงอวี๋จิ่นสุดท้ายก็หลุดออกมาจากห้วงฝันร้ายนั้น แต่วิญญาณของนางกลับไม่ได้หลุดพ้น ยังคงล่องลอยอยู่ในจวนจิ้งหย่งโหว มองดูเรื่องราวดำเนินต่อไป
ที่แท้…จากมุมมองอีกด้านหนึ่ง เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นเช่นนี้เอง