สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือเฉิงอวี๋จิ่นตอนนี้อายุยังน้อย การแต่งกายเช่นนี้อยู่บนตัวนางแล้วดูเป็นทางการเกินไป หากผ่านไปอีกสามสี่ปี รอให้เฉิงอวี๋จิ่นอายุสิบเจ็ดสิบแปดปี เค้าโครงหน้าโตเต็มที่ รูปร่างระหง จะเปล่งประกายความงาม สวยสง่าล้ำเลิศถึงเพียงใด
หลังจากเฉิงหมิ่นมองสำรวจเสร็จแล้วก็อดใจไม่ไหวเอ่ยถามท่านหญิงชิ่งฝู “พี่สะใภ้ใหญ่ คุณหนูใหญ่แต่งตัวได้น่ามองมาก เครื่องประดับทองฝังหยกบนศีรษะนางชุดนั้นไม่เคยเห็นมาก่อนเลย พี่สะใภ้ใหญ่ให้นางใช่หรือไม่”
ท่านหญิงชิ่งฝูกวาดตามองแวบหนึ่งแล้วตอบว่า “ปีที่ข้าออกเรือนเสด็จแม่เตรียมสินเดิมให้ข้า ข้าอายุมากแล้วไม่ได้ใช้ จึงให้เด็กๆ ไปใส่ให้ดูสดใส”
เฉิงหมิ่นส่งเสียง “ไอ้หยา” ในน้ำเสียงแฝงความอิจฉา “พี่สะใภ้ใหญ่รักเมตตาลูกจริงๆ คุณหนูใหญ่มาเกิดเป็นบุตรสาวของพี่ได้ ต้องสะสมวาสนามาหลายชาติจริงๆ”
แท้จริงแล้วตอนเฉิงอวี๋จิ่นเดินเข้าประตูมา หร่วนซื่อก็สังเกตเห็นเครื่องประดับผมของอีกฝ่ายแล้ว ตอนนี้เฉิงหมิ่นเอ่ยปาก นางจึงเลื่อนสายตามองไปอย่างเปิดเผย เมื่อมองสำรวจอย่างละเอียด ความรู้สึกของหร่วนซื่อก็ซับซ้อนยิ่งขึ้น
เส้นทองเนื้อเต็มทั้งเส้น บนนั้นยังฝังหยกและพลอยชิ้นโตเอาไว้ด้วย ต่อให้เป็นหร่วนซื่อก็ยังไม่มีเครื่องประดับล้ำค่าอย่างนี้เลย ทว่าเฉิงอวี๋จิ่นเป็นสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือนกลับใส่ไปแล้วสามสี่อัน ดูท่าแล้วนางคงจะมีเครื่องประดับนี้ทั้งชุด
หร่วนซื่อรู้สึกปวดใจอยู่บ้าง ใจคิดว่าทั้งที่เป็นบุตรสาวของนาง แต่เพราะทรัพย์สินเงินทอง จึงเปลี่ยนไปเรียกผู้อื่นว่าท่านแม่ มีน้ำนมให้ก็เรียกท่านแม่ได้จริงๆ บรรดาเด็กสาวคนอื่นเห็นแล้วทั้งอิจฉาและริษยาเช่นกัน
มีท่านหญิงชิ่งฝูเป็นมารดาได้ เฉิงอวี๋จิ่นได้กำไรมากจริงๆ
ระหว่างเหตุการณ์นี้เฉิงอวี๋จิ่นยิ้มนิ่งๆ เพียงปล่อยให้ทุกคนมองจนพอใจ สายตาของทุกคนนางเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ในใจกลับไม่มีความหวั่นไหวใด ทุกคนต่างบอกว่านางได้ประโยชน์อย่างมาก แต่ว่าเฉิงอวี๋จิ่นยินดีที่จะให้ตนเองไม่เคยถูกยกให้เป็นลูกของใคร
นี่เป็นของที่ท่านหญิงชิ่งฝูมอบให้นางจริงๆ ท่านหญิงชิ่งฝูให้ความสนใจกับเรื่องหน้าตาเหล่านี้มาตลอด หากเป็นเครื่องประดับที่มารดาผู้ให้กำเนิดเตรียมไว้ให้บุตรสาว นางจะตั้งใจเอาออกมา อยากจะให้ทุกคนในโลกนี้รู้เรื่องอย่างนั้นหรือ
แน่นอนว่าไม่
ดังนั้นนางต้องรู้กาลเทศะ ใส่ความหวังดีที่ท่านหญิงชิ่งฝูมีต่อนางออกมาให้เห็น ทำให้ทุกคนชื่นชมความเมตตาของท่านหญิงชิ่งฝู และขณะเดียวกันก็เหมือนมีดทื่อๆ ที่กรีดความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเฉิงอวี๋จิ่นไปทีละนิดเช่นกัน
เฉิงอวี๋จิ่นคิดอย่างเย้ยหยันตนเอง ของจำพวกเครื่องประดับผมและกำไลสวยงามล้ำค่าของนางมีไม่น้อย แต่ว่าหลายปีมานี้ ในมือนางแทบจะไม่มีเงินใช้จ่ายเลย นางเป็นเพียงป้ายที่สวยงาม ภายนอกดูงดงาม แท้จริงแล้วแม้แต่ชีวิตของตนเองยังเลี้ยงไม่ได้ด้วยซ้ำ
พวกผู้ใหญ่ชมเฉิงอวี๋จิ่นไม่ขาดปาก แต่เด็กสาวที่เพิ่งแตกเนื้อสาวในห้องนี้ฟังแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งไป
เด็กสาวทั้งหลายสีหน้าไม่สู้ดีนัก สวีเนี่ยนชุนมองดูเฉิงอวี๋จิ่นก็แอบเบ้ปากใส่ เฉิงอวี๋จิ่นทำเป็นมองไม่เห็น นางรู้ตั้งแต่เด็กแล้วในกลุ่มพี่น้องสตรีของนาง หรือต่อให้เป็นกลุ่มพี่น้องบุรุษของนางก็ล้วนไม่ชอบนาง
ตั้งแต่เด็กจนโต นางเป็นลูกบ้านอื่นในคำพูดของบิดามารดา เวลาผ่านไปนานเข้าอัธยาศัยของนางดีได้ก็คงแปลก
แต่นั่นจะเป็นอย่างไร ในใจเฉิงอวี๋จิ่นแอบคิดว่าขอเพียงพวกผู้ใหญ่ชอบแค่นี้ก็พอแล้ว
เฉิงหมิ่นยากนักกว่าจะกลับบ้านเดิมสักครั้ง มีคำพูดมากมายจะพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าเฉิง ไม่ช้าพวกเด็กๆ ก็ถูกผู้ใหญ่ไล่ไปเล่นที่ห้องเชื่อม
ไม่มีผู้ใหญ่คอยดู หนุ่มน้อยเด็กสาวกลุ่มนี้ก็ร่าเริงขึ้นมาทันที พวกเด็กสาวจับกลุ่มสองสามคนนั่งด้วยกัน เฉิงอวี๋โม่เพิ่งนั่งลงก็มีเด็กหนุ่มชุดแดงคนหนึ่งเดินเข้ามาตรงหน้า “น้องหญิงโม่ อาการป่วยของเจ้าหายหรือยัง”
เด็กหนุ่มที่พูดใบหน้าราวหยกงาม ดวงตาดำขลับเป็นประกาย ไม่ยิ้มก็ยังมีความเป็นมิตรอยู่สามส่วน เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของเฉิงหมิ่น สวีจือเซี่ยนคุณชายรองของจวนชางกั๋วกง
สวีเนี่ยนชุนเห็นแล้วก็พูดเย้าด้วยรอยยิ้ม “พี่รอง พวกเรามีคนมากมาย เหตุใดพี่จึงถาม ‘น้องหญิงโม่’ คนเดียวเล่า”
สวีจือเซี่ยนพูดว่า “น้องหญิงโม่ป่วยย่อมไม่เหมือนกัน”
สวีเนี่ยนชุนยิ้มหยอกเย้า
เฉิงอวี๋โม่ยกผ้าเช็ดหน้าปิดปาก พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณพี่จือเซี่ยนที่เป็นห่วง”
สวีเนี่ยนชุนพูดบ่นเหมือนกลัวว่าใต้หล้านี้จะไม่วุ่นวาย “โชคดีที่พี่หญิงโม่หายป่วยแล้ว ไม่เสียทีที่พี่รองของข้าวิ่งตรงเข้าไปถาม”
ภายในห้องเชื่อมล้วนเป็นเด็กสาวที่เพิ่งแตกเนื้อสาว ได้ยินคำพูดประโยคนี้แล้วก็พากันหัวเราะ สวีจือเซี่ยนอยู่ในกลุ่มพี่สาวน้องสาวก็ไม่รู้สึกขัดเขิน หัวเราะหยอกเย้ากับเหล่าพี่สาวน้องสาวไปด้วย
ทุกคนกำลังหยอกเย้าสนุกสนาน สาวใช้และหญิงรับใช้สูงวัยขบวนหนึ่งก็เดินเข้ามา เฉิงอวี๋จิ่นเดินอยู่ตรงกลาง สั่งหญิงรับใช้สูงวัยว่า “เอาอ่างไฟมาอีกอ่าง ใช้ถ่านไหมเงิน* เปิดหน้าต่างทางตะวันออกให้ระบายลมหน่อยจะได้ไม่ร้อนอ้าว”
“เจ้าค่ะ”
เหล่าบ่าวรับใช้ทยอยเดินเข้ามา ภายใต้การสั่งการของเฉิงอวี๋จิ่นก็จัดห้องเชื่อมใหม่จนเสร็จอย่างรวดเร็ว เฉิงอวี๋จิ่นยืนสั่งการอย่างเป็นธรรมชาติ ท่าทีจัดการทุกอย่างง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือนั้น ทำให้เกิดความแตกต่างจากเหล่าเด็กสาวที่เล่นสนุกในทันที