ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดสามีของกุลสตรีอันดับหนึ่ง บทที่ 7-บทที่ 8
บทที่ 7
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงแปลกใจเช่นกันว่าเหตุใดนางจึงนึกถึงสิ่งเหล่านี้ นางโยนความคิดวุ่นวายออกไปแล้วถามเฉิงอวี๋จิ่น “ยายหนูใหญ่ เจ้ากับท่านโหวฮั่วมันเกิดอะไรขึ้นหรือ”
รอยยิ้มบนใบหน้าเฉิงอวี๋จิ่นเจื่อนลง หอโซ่วอันที่เมื่อครู่ยังคึกคักอยู่เงียบเสียงลงในทันที สายตาของทุกคนเลื่อนมาที่ตัวเฉิงอวี๋จิ่น เฉิงหยวนจิ่งก้มหน้ากวาดตามองเฉิงอวี๋จิ่นแวบหนึ่ง เกิดความสงสารขึ้นมาอย่างหาได้ยาก
ถึงแม้หลานสาวของเขาคนนี้จะมีแผนการในใจลึกซึ้ง ทำอะไรไม่ถูกต้องนัก แต่ในเรื่องการถอนหมั้นนี้ นางเป็นผู้ได้รับความเสียหายจริงๆ
อย่างเช่นในตอนนี้ ทั้งที่เป็นฮั่วฉางยวนมาถอนหมั้น แต่ทุกคนกลับมาคาดคั้นถามนาง ถามว่านางไปทำอะไรมาใช่หรือไม่ ฮั่วฉางยวนจึงมาถอนหมั้น
เฉิงอวี๋จิ่นก้มหน้า ขนตายาวที่กั้นไว้มองเห็นสายตาไม่ชัด ผ่านไปครู่หนึ่งนางจึงพูดเสียงเบาว่า “หลานก็ไม่รู้เช่นกัน”
“เจ้าไม่รู้หรือ” ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เจ้าไม่รู้ว่าเหตุใดท่านโหวฮั่วจึงมาขอถอนหมั้นหรือ ถ้าเจ้าไม่รู้จริงๆ เหตุใดจึงวิ่งไปตรงหน้าทุกคน ฉีกหนังสือหมั้นหมายทิ้ง”
เฉิงอวี๋จิ่นเป็นคนฉีกหนังสือหมั้นหมายทิ้งเองหรือ เฉิงหยวนจิ่งเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เขาคิดถึงภาพตอนที่เพิ่งเห็นเฉิงอวี๋จิ่นแล้วค่อยๆ ประกอบต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
หร่วนซื่อได้ยินคนบอกว่าสกุลฮั่วมาถอนหมั้นถึงบ้านแต่เช้าแล้ว คราแรกที่เฉิงอวี๋จิ่นกับฮั่วฉางยวนตกลงหมั้นหมายกัน หร่วนซื่อดีใจแทนบุตรสาวคนโตอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่ช้าก็เริ่มสงสารบุตรสาวคนเล็กที่มีชะตาขมขื่นของตนเอง ทั้งที่เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ชะตาชีวิตควรจะเหมือนกัน แต่เพราะเฉิงอวี๋จิ่นถูกอุ้มไปให้บ้านใหญ่ โม่เอ๋อร์ของนางอยากได้อะไรก็จะถูกกดไว้บ้าง แม้แต่ผ้าแพรที่ถูกส่งเข้ามาจากนอกจวนก็ต้องให้เฉิงอวี๋จิ่นเลือกเสร็จก่อน จึงจะมาถึงเฉิงอวี๋โม่
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงยังพูดอย่างสวยหรูว่าผู้ใหญ่เด็กมีลำดับขั้น หร่วนซื่อคิดอย่างขมขื่นว่านี่เป็นการลำเอียงไปทางบ้านใหญ่ต่างหาก เพราะบ้านใหญ่แต่งภรรยาที่มีอำนาจทางบ้านร้ายกาจ ดังนั้นทั้งสกุลเฉิงจึงต้องเอาใจบ้านใหญ่มากกว่า ทั้งที่นายท่านรองมีความขยันชาญฉลาดกว่าเฉิงหยวนเสียน ความรู้ก็ดี แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงกลับทุ่มทุนทั้งหมดไปให้แก่เฉิงหยวนเสียน ซื้อตำแหน่งขุนนางให้แก่เฉิงหยวนเสียน หาเส้นสายให้ ส่วนนายท่านรองอยู่ในตำแหน่งเล็กๆ มาห้าปีแล้ว ทั้งที่หากหาลู่ทางที่ถูกต้องได้ก็สามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงกลับเหมือนมองไม่เห็น ใจเอนเอียงไปทางบ้านใหญ่
นายท่านใหญ่อย่างไรก็เป็นพี่ชาย มีตำแหน่งซื่อจื่อติดตัว วันหน้าต้องรับช่วงต่อทรัพย์สมบัติจวนอี๋ชุนโหว ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงลำเอียง หร่วนซื่อต้องอดกลั้นไว้ แต่โม่เอ๋อร์เล่า โม่เอ๋อร์ด้อยกว่าตรงที่ใด เหตุใดต้องถูกกดให้ต่ำ ไม่ว่าอะไรต้องเลือกของที่อีกคนเหลือไว้ตลอด
เสื้อผ้าเครื่องประดับเป็นเช่นนี้ การแต่งงานก็เป็นเช่นเดียวกัน หร่วนซื่อก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าอิจฉาการแต่งงานของจวนจิ้งหย่งโหวเพียงใด ใจคิดว่าโม่เอ๋อร์ของนางรู้ความว่าง่าย ไม่แย่งไม่ชิง ทำสิ่งใดก็คิดถึงบิดามารดา ไม่รู้ว่าน่าเอ็นดูมากเพียงใด ได้ยินว่าฮั่วฉางยวนเป็นทหาร ชายหนุ่มที่เข้มแข็งเช่นนี้ ควรจะคู่กับโม่เอ๋อร์ที่เป็นคนอ่อนโยนน่ารักมิใช่หรือ เฉิงอวี๋จิ่นเอาอย่างท่านหญิงชิ่งฝูผู้นั้น ทำสิ่งใดก็มักจะวางท่า จะมีความสดใสน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนโม่เอ๋อร์ได้อย่างไร แต่งเข้าไปแล้วจะเป็นที่ชื่นชอบของจิ้งหย่งโหวหรือ
หร่วนซื่อก่อนหน้านี้เคยแอบคิดอย่างน้อยใจ ได้ยินว่าเพราะช่วยชีวิตฮั่วฉางยวนไว้ในหมู่บ้านกลางเขา เฉิงอวี๋จิ่นจึงได้การแต่งงานที่ดีครั้งนี้มา โม่เอ๋อร์ของพวกตนยามนั้นก็อยู่ด้วย สวรรค์ยังลำเอียง เรื่องเช่นนี้เหตุใดจึงไม่ตกมาที่โม่เอ๋อร์บ้าง
หร่วนซื่อทั้งดีใจและปวดใจเช่นนี้อยู่สองเดือน ผลปรากฏว่าเช้าตรู่วันนี้ถูกคนปลุก บอกว่าสกุลฮั่วมาที่จวนเพื่อถอนหมั้นกับเฉิงอวี๋จิ่น
หร่วนซื่อตั้งตกใจและสะเทือนใจ อะไรนะ ถอนหมั้นหรือ
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงกับท่านหญิงชิ่งฝูรุดไปที่โถงหลัก หร่วนซื่อไม่สะดวกจะไป ทำได้เพียงคอยจับตาดู พอเห็นฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงกลับมาก็รีบเดินตามไปที่หอโซ่วอัน อยากจะฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนนี้ได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงพูดถึงเรื่องการถอนหมั้น ยังเป็นเฉิงอวี๋จิ่นที่ฉีกหนังสือหมั้นหมายทิ้งเองอีกด้วย หร่วนซื่อรู้สึกตื่นเต้นปนขมขื่น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี นางส่งเสียงพูด “อืม” แล้วไปมองไปทางเฉิงอวี๋จิ่น “คุณหนูใหญ่ เจ้าได้การแต่งงานที่ดีเช่นนี้ คนอื่นต่างพากันอิจฉา เหตุใดเจ้าจึงฉีกมันทิ้งเองเล่า”
เฉิงอวี๋จิ่นยังคงก้มหน้า ในฐานะสตรีผู้หนึ่ง ถูกถามเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าคนมากมาย ดูเสียหน้าอย่างมาก ท่านหญิงชิ่งฝูไม่สนใจว่าเฉิงอวี๋จิ่นจะทำอย่างไร แต่หร่วนซื่อถามมาถึงบ้านใหญ่เช่นนี้ ท่านหญิงชิ่งฝูจึงพูดเยาะหยันอย่างเย็นชากลับไป “เหตุใดจะฉีกทิ้งเองไม่ได้เล่า คุณหนูใหญ่ฐานะไม่เหมือนกัน มีคนให้เลือกมากมาย ไม่เหมือนผู้อื่น หากฉีกทิ้งคงหาการแต่งงานที่ดีเช่นนี้ไม่ได้แล้ว”
ท่านหญิงชิ่งฝูปรายตามองหร่วนซื่อผ่านๆ แวบหนึ่ง ความหมายของการเยาะหยันเต็มเปี่ยม หร่วนซื่อมีไฟโทสะขึ้นมาในทันที นางแอบกัดริมฝีปาก สุดท้ายทำได้เพียงยิ้มแสดงท่าทางอ่อนแอให้ “พี่สะใภ้ใหญ่พูดถูก คุณหนูใหญ่เป็นบุตรสาวของท่าน มีฐานะสูงส่ง ย่อมไม่เหมือนกัน”
ท่านหญิงชิ่งฝูกับหร่วนซื่อไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน ตอนที่กำลังแอบขบกรามก็มีเสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งดังมาจากข้างนอก “ท่านย่า ท่านแม่”
ทุกคนหันหน้าไป เฉิงอวี๋โม่สวมชุดกระโปรงนวมสีม่วงอ่อนอมชมพู ปลายคางแหลมบางแทบเหมือนชิ้นผ้า นางก้มหน้ากระแอมกระไอ เงยหน้าขึ้นเม้มปากยิ้มให้ทุกคน “ข้ามาไม่ถูกเวลาหรือ”
“ยายหนูรองมาแล้วหรือ” ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงกวาดตามองด้วยสายตาเรียบเฉยแวบหนึ่ง พูดว่า “เจ้าเพิ่งหายป่วย นั่งลงก่อนเถอะ”
สาวใช้ในหอโซ่วอันยกม้านั่งมาให้ เฉิงอวี๋โม่มองเฉิงอวี๋จิ่นแวบหนึ่งแล้วรีบโบกมือ “เช่นนี้ไม่ได้ พี่หญิงใหญ่ยังยืนอยู่ ข้าจะนั่งได้อย่างไร”
“เจ้าร่างกายอ่อนแอ ล้มป่วยตอนฤดูหนาวยังไม่หายดี รีบนั่งเถอะ” ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงเอ่ยปากพูด