นางคาดไม่ถึงว่าบุรุษผู้นี้จะแบกรับความรับผิดชอบดูแลสกุลเถาไว้บนบ่าจริงๆ พิธีศพของบิดานางมีเขาเป็นผู้ออกหน้าจัดการ เขาคล้ายหลงลืมการแก้แค้นให้มารดาไปแล้ว ไม่ได้ไล่ต้อนบีบคั้นเรื่องความผิดพลาดและความไร้สามารถของพี่ชายนาง แม้อีกฝ่ายในยามนี้จะสติเลอะเลือนเพราะทนรับเรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้นไม่ไหวแล้วก็ตาม
นางข่มความเจ็บปวดในใจ เมื่อมองเห็นเขาขมวดคิ้วไม่พูดจาอยู่ภายใต้แสงสว่างบนท้องฟ้าก็ราวกับเห็นก้อนเมฆที่ลอยห่างออกไปไกลที่สุด คล้ายหลุดพ้นจากโลกีย์ ทว่าเพียงรอสายลมพัดมากลับกลายเป็นก้อนเมฆที่จับต้องและดูเรียบง่ายที่สุดได้ ไม่ว่าเขาจะมาที่นี่เพื่อแก้แค้นด้วยเป้าหมายใด กระนั้นก็ยังเป็นพี่ชายนางที่ทำความผิด ครั้งนี้นับว่าสละชีวิตคนไปสองชีวิตอย่างไร้ค่าแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเวลาหลายวันที่ได้อยู่ด้วยกัน นางก็รู้สึกว่ากลิ่นอายโจรบนร่างของเขาได้สูญสลายไปหมดแล้ว ราวกับโชคชะตาที่ไม่อาจควบคุมได้นี้ เขาได้มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับสกุลเถาอย่างไม่อาจแยกจากกันได้โดยสิ้นเชิง
“เม่ยเอ๋อร์! ข้าอยากให้เจ้าออกมา ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
ที่ข้างนอกประตู ข้างกำแพงทุกหนแห่งคือการระบายฤทธิ์สุราของสวีเทียนหลิน สิ่งที่ส่งผ่านกำแพงหนามาหาใช่ความคับแค้นใจของบุรุษอ่อนเยาว์ผู้หนึ่ง แต่เป็นหัวใจที่แตกสลายดวงหนึ่ง
เสียงฟ้าผ่าน่าตระหนกดังมาจากภายนอกห้อง หยาดฝนที่โปรยปรายลงมาทั่วผืนฟ้าราวกับกำลังชำระล้างความโศกเศร้าและความอึดอัดเกินทานทน
ปังๆๆ! เสียงเคาะประตูอย่างเร่งร้อนดังขัดห้วงความคิดอันสับสนของนาง ได้ยินเพียงเสียงร้องตกใจของจินเจิ้งดังขึ้นจากข้างนอก “เถ้าแก่สือ ดึกดื่นค่ำคืนเช่นนี้ท่านต้องการ…”
“คุณหนูเถาอยู่หรือไม่” นี่คือเสียงของเถ้าแก่สือจากร้านข้าวสารฝูเซิ่ง
ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น คล้ายมีคนหลายคนเข้ามาพร้อมกัน เถาเม่ยเอ๋อร์รีบหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับแล้วเดินออกไป
“คุณหนูเถา เจ้ารีบช่วยรุ่ยเซียงของข้าเร็วเข้า เมื่อครู่นางนอนหลับที่ห้องข้างนอกแล้วถูกงูพิษตัวหนึ่งเลื้อยเข้ามากัดเข้า ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ลมหายใจแล้ว เจ้ารีบดูเร็วเข้า” เถ้าแก่สือทั้งเจ็บปวดและลนลาน กระทั่งยืนได้ไม่มั่นคง
เถาเม่ยเอ๋อร์ก้มลงมอง คนงานสองคนได้วางสือรุ่ยเซียงที่หมดสติลงบนตั่งไม้ในห้องโถงอย่างแผ่วเบาแล้ว สีหน้าของสือรุ่ยเซียงดำคล้ำ ดวงตาปิดสนิท ร่างกายครึ่งหนึ่งบวมขึ้นมา
“เหตุใดถึงไม่ให้ท่านหมอสวีดูอาการก่อนล่ะเจ้าคะ การสั่งยาตามอาการจึงจะถูกหลัก”
“คุณหนูเถา ข้ารู้ว่าตอนนี้ครอบครัวเจ้าเผชิญกับความโชคร้าย จิตใจยากจะสงบ แต่ข้าเองก็ไร้หนทางเช่นเดียวกัน! ลูกสาวที่ดื้อรั้นของข้าผู้นี้ยืนกรานว่าบุรุษสตรีไม่อาจใกล้ชิดกัน ไม่ยอมให้บุรุษอื่นเห็นร่างกายนาง ดังนั้น…” เป็นเพราะชีวิตของบุตรสาวตนเองตกอยู่ในอันตราย จิตใจของเถ้าแก่สือจึงอ่อนล้ายิ่ง