ริมฝีปากอุ่นร้อนระรานริมฝีปากบางอย่างจาบจ้วงหยาบคาย ไปรยาตัวแข็งทื่อด้วยความช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่วินาทีเต็มๆ ก่อนสะบัดตัวออกอย่างแรง ทั้งผลักทั้งดันร่างสูงออกไปจากตัว แต่ยิ่งขัดขืนก็ยิ่งถูกกอดรัดแน่นขึ้น…หยาดน้ำใสเอ่อคลอตางามอย่างแค้นใจ มือบางกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ จนสมใจแล้วชายหนุ่มถึงได้ผละออก ร่างบางทำท่าจะทรุดฮวบ หากมือใหญ่โอบรั้งเอวบางไว้ได้ทันท่วงที
พิรัลเลิกคิ้วเข้มมองหญิงสาวอย่างยั่วเย้า
“ถึงกับทรุดเลยหรือทูนหัว…แบบนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม”
“คนชั่ว!”
ไปรยาแว้ดเสียงดังติดสั่นนิดๆ และเร็วกว่าชายหนุ่มจะคาดคิด มือที่กำแน่นก็ฟาดเปรี้ยงเข้าที่ใบหน้าคมเข้มในลักษณะกึ่งตบกึ่งชกจนหน้าหันไปทางหนึ่ง จังหวะที่เขากำลังงง จับต้นชนปลายไม่ติด เธอก็ฉวยโอกาสผลักร่างสูงออกจากตัวสุดแรงโกรธ
โชคร้ายที่ชายหนุ่มยืนอยู่ในตำแหน่งไม่เหมาะสม เมื่อถูกผลักจึงผงะไปชนพุ่มกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคมทางด้านหลัง ทำเอาสะดุ้งเฮือก ไม่ทันได้ผละหนีจากจุดนั้น ไปรยาก็คว้าบัวรดน้ำที่วางทิ้งอยู่แถวนั้นเหวี่ยงใส่อีกใบ ความที่ยกสองแขนขึ้นกันทำให้เขาเสียหลักหงายหลังลงไปในพุ่มกุหลาบทั้งตัว
“โอ๊ย! ยายบ้า”
ก้านแข็งๆ หักทิ่มตัว หนามแหลมคมทั้งเกี่ยวทั้งตำ เรียกเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจากชายหนุ่ม แต่ ‘ยายบ้า’ ไม่อยู่ชมผลงาน วิ่งหนีไปเรียบร้อยแล้ว…
น้ำตาไหลอาบแก้มไปรยาเป็นทาง…เกิดมาเป็นตัวเป็นตนได้ยี่สิบสามปี ไม่เคยมีใครหยาบหยามเธอขนาดนี้มาก่อน เธอแค้นนัก…แค้นมาก…ถูก ‘คนบ้า’ จูบเข้าได้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
หญิงสาวใช้หลังมือถูริมฝีปากแรงๆ หวังลบรอยที่ถูกสัมผัสออก แต่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จ เพราะมันฝังแน่นในใจยากจะลบเลือนแล้ว
“คุณปาย” เด็กรับใช้ร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นนายสาววิ่งขึ้นบ้านมาด้วยใบหน้านองน้ำตา “คุณปายเป็นอะหยังเจ้า!”
“อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉันนะแม้ว จะไปไหนก็ไป!”
“คะ…คือว่า คนจากบ้านปู้นโทรมาบอกว่ามีคนไค่ปะคุณปาย…เปิ้นบอกว่าเป๋นเปื้อนคุณดาวเจ้า”
เด็กสาวที่ถูกไล่อย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้รายงานให้รู้ว่ามีคนรอพบอยู่ที่เรือนรับรอง ไปรยาชะงักกึก หันไปถามว่าเป็นใคร แต่เด็กรับใช้ไม่รู้จักจึงไม่มีคำตอบให้ หญิงสาวจำต้องล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยก่อนออกไปรับแขกด้วยตัวเอง…คิดว่าดีเหมือนกัน…ถ้ามีเพื่อนมาให้ปรับทุกข์สักคน…
แต่พอเห็นชายหนุ่มร่างสูงที่รออยู่ในห้องรับแขก เธอก็ทำหน้างง เช่นเดียวกับอาคันตุกะหนุ่ม
“คุณคือคุณปายเหรอครับ…ผมชื่อเอกภพ คือ…น้องดาวแนะนำให้ผมมาพบคุณที่นี่”
ชื่อนั้นทำให้หญิงสาวถึงบางอ้อ พอจะจำได้เลาๆ ว่าเขาเป็นใคร…ว่าที่เพื่อนเขยที่ผ่านการพิสูจน์ลายเสือคนนั้นเอง
ไม่ทันที่เธอกับเขาจะได้สนทนากัน ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาพร้อมเสียงบ่นพึม
“เจ็บฉิบเลยว่ะไอ้ภพ ยายนั่นเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ ผลักข้าเข้าไปในดงกุหลาบได้”
พิรัลเดินเข้ามาโดยลูบแขนป้อยๆ นิ่วหน้าครางซี้ด ก่อนชะงักเมื่อเห็นคู่กรณีสาวยืนเด่นอยู่ในห้อง
“เธอ!”
“นาย!”
ความเข้าใจของไปรยาแตกตัวทันที…นี่เอง…ที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาชายหนุ่มที่ปล้นจูบแรกไป ไม่ใช่เพราะเคยเจอกันโดยบังเอิญที่ห้องอาหารกลางเมืองเชียงใหม่ แต่เคยเจอกันที่กรุงเทพฯ…ในคืนพิสูจน์ลายเสือ
ตอนนั้นชายหนุ่มมาเกาะแกะเธอ ทำท่าเจ้าชู้กรุ้มกริ่มใส่ จนเธอคิดว่าเขาเป็นคนบ้ากาม ซึ่งก็ไม่ผิดจริงๆ…เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นประจักษ์พยานได้เป็นอย่างดี
“นายนี่เอง…”
เธอเค้นเสียงพูด นัยน์ตาวาววับ หันไปหาเอกภพที่ยืนงง
“ฉันยินดีที่ได้รู้จักคุณนะคะคุณเอกภพ และจะยินดีต้อนรับคุณมากกว่านี้ ถ้าเพียงแต่คุณจะไม่พาเพื่อนชั่วของคุณมาด้วย สำหรับตอนนี้…ขอเชิญคุณกับเพื่อนของคุณออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ!”