บทที่ 5
ไปรยาไม่ได้ไล่พวกเขาแค่คำพูด แต่ทำถึงขนาดเรียกคนงานในไร่มากระหนาบพวกเขาไปส่งถึงรถ ทำเอาสองหนุ่มหน้าชาดิก เพราะไม่เคยถูกไล่ซึ่งหน้าแบบนี้มาก่อน พออยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องโดยสารของรถสปอร์ตกำลังแรงสูง เอกภพก็ระเบิดใส่เพื่อนทันควัน
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะไอ้พิ มึงไปทำอะไรเขา เขาถึงได้ไล่เราออกจากไร่แบบนี้!”
“ก็แค่…” พิรัลอิดออด ไม่อยากบอกเรื่องที่ตัวเองเสียฟอร์มเท่าไหร่ แต่สายตาคาดคั้นเอาเรื่องทำให้เขาต้องเปิดปากเล่าย่อๆ เพียงแค่นั้นเอกภพก็ครางอย่างรู้ชะตากรรม
“กูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงถูกไล่ไม่ไว้หน้าแบบนั้น ไม่ถูกสาดน้ำไล่หลังมาด้วยก็บุญโขแล้ว ดันทะลึ่งไปลวนลามเขาได้”
“ก็คิดว่าตกลงราคากันได้นี่หว่า” เพื่อนหนุ่มแก้ตัวอุบอิบ ไม่วายบ่นอย่างมึนงง จับต้นชนปลายไม่ถูก “กูล่ะไม่เข้าใจจริงๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไร ทำไมยายนั่นถึงได้เป็นเพื่อนน้องดาวและเป็นเจ้าของรีสอร์ตนี้ได้ มึงรู้หรือเปล่าวะ กูงงไปหมดแล้ว”
“อย่าว่าแต่มึงจะงงเลย กูเองก็งงเหมือนกัน ยายคุณปายนั่นเป็นเพื่อนน้องดาว แล้วทำไมเขาถึงมาทำอย่างนั้นกับกูวะ” เอกภพปรารภกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจ หากเพื่อนหัวครีเอทกลับมอบคำตอบให้ฉับไว
“เผงเลย! ยายนี่ต้องหักหลังเพื่อน หวังเคลมมึงแหง”
ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้สองมือจับพวงมาลัยไว้ให้มั่น เพราะมีโค้งรูปตัวเอสรออยู่เบื้องหน้า เอกภพก็อยากยกสองมือกุมขมับด้วยนึกปวดหัวกับจินตนาการอันเพริศแพร้วของเพื่อนขึ้นมากรุ่นๆ
“เลิกคิดเองเออเองซะทีเถอะวะไอ้พิ โดนหนามกุหลาบเข้าไปขนาดนั้น ยังคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงพรรค์นั้นอยู่อีกเรอะ! กูเตือนแล้วว่าเขาไม่ใช่ มึงก็ไม่เชื่อ เป็นไงล่ะ…ถูกตีนกา…ไม่สิ…เจอแม่เสือสาวตะปบเข้าไปที สมใจไหม”
พิรัลทำตาขุ่นใส่เพื่อน ก่อนสูดปากด้วยความเจ็บเมื่อรถกระเด้งกระดอนเพราะพื้นผิวถนนขรุขระ ทำให้คนขับส่ายหัวอย่างสมเพช
“อยู่ดีไม่ว่าดี รนหาเรื่องแท้ๆ คืนนี้ได้นอนสะดุ้งทั้งคืนแน่ไอ้พิเอ๋ย…”
“อย่ามาทับถมกันนักเลยน่า ยังไงกูก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องนี้มันเป็นยังไงกันแน่”
“พอเลยเพื่อน พอเลย” เอกภพรีบปรามด้วยนึกกลัวว่าแทนที่จะได้ความกระจ่าง จะพันเกลียวกลายเป็นเรื่องใหญ่หนักกว่าเก่า “มึงวางมือกับเรื่องนี้ดีกว่า ปล่อยให้กู จัดการเองเหอะ”
“มึงจะจัดการยังไง”
“ก็โทรถามน้องดาว”
“งั้นก็โทรเลย”
พิรัลพูดพร้อมกับหยิบมือถือที่วางอยู่บนคอนโซลหน้ารถส่งให้เพื่อน ซึ่งหันมาแยกเขี้ยวใส่ราวกับพ่อสิงโตดุลูก
“ทางโค้งบนเขา มึงยังจะให้กูขับไปคุยไปอีกเรอะ!”
“ก็ใช้แฮนด์ฟรีสิโว้ย”
ผู้โดยสารว้ากตอบอย่างร้อนรน จัดการหาอุปกรณ์และถามเบอร์โทรศัพท์ของฝ่ายหญิง บริการกดให้เสร็จสรรพ เอกภพมองอย่างหมั่นไส้ระคนขวางก่อนเลิกสนใจเมื่อได้ยินเสียงตอบรับของคนรักสาว
“น้องดาวหรือจ๊ะ พี่ไปที่ไปรยารีสอร์ตมาแล้วนะ เจอเพื่อนของน้องดาวด้วย…ใช่…พี่แปลกใจมากที่ได้เจอเขาที่นั่น…ว่าแต่น้องดาวรู้ได้ไงว่าพี่เคยพบกับเพื่อนคนนี้มาก่อน อ๋อ…คืนนั้นน้องดาวก็ไปกินข้าวที่นั่นด้วยเหรอ…เห็นพี่ด้วย แต่ไม่เข้ามาทักนี่ ใจดำจริง” ชายหนุ่มต่อว่าอย่างอารมณ์ดี ก่อนตัวแข็งทื่อ เหยียบเบรกพรวด เมื่อคนรักสาวเล่าเรื่องในคืนนั้นให้ฟังเจื้อยแจ้ว
“อะไรนะ! แผนลองใจพี่ โอ๊ย…พี่อยากจะบ้า!”