ช่วงเวลานั้นได้กำหนดกฎการอยู่ร่วมกันขั้นพื้นฐานระหว่างเธอกับเจียงไป่ลี่เอาไว้ เจียงไป่ลี่ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น ช่วงสมัครสภานักศึกษาอันคึกคักในสองสัปดาห์ให้หลัง ตอนที่เกอปี้ไปเจอ ‘นังจิ้งจอก’ ตัวจริงเข้า เธอก็ไม่เหลือความเป็นศัตรูและความระวังตัวให้ลั่วจื่อแล้ว กลับกันยังรับความเงียบของลั่วจื่อได้ว่าเป็นนิสัยโดยธรรมชาติของเธอ ไม่ได้เป็นเหมือนเพื่อนสมัยมัธยมปลายที่กล่าวหาลั่วจื่อว่าหยิ่งยโส หรือเอาแต่ถามไม่เลิกว่าเธออารมณ์เสียอยู่ใช่หรือเปล่า
ภายหลังลั่วจื่อมาคิดดูแล้วก็รู้สึกว่านี่อาจจะเป็นความโชคดีในความโชคร้ายที่เขาว่ากัน
“เธอกินแค่นี้เองเหรอ” เจียงไป่ลี่เอ่ยขัดความคิดของเธอ พร้อมใช้ตะเกียบเคาะถาดอาหารของลั่วจื่อที่มีแค่โจ๊กข้าวโอ๊ตใส่ดอกเบญจมาศกับผัดผักบุ้งเท่านั้น
“ฉันไม่หิวน่ะ” เธอตอบ
“ลดความอ้วนหรือไง ไม่เอาน่า” เกอปี้หยักยกมุมปาก เอ่ยลากเสียงยาว ในน้ำเสียงแฝงความหยอกเย้า ทว่าลั่วจื่อแค่ก้มหน้ายิ้มตอบอย่างสุภาพ ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืด
“ถ้าเกิดอ้วนขึ้นมาจริงๆ ปฏิกิริยาของผู้ชายก็จะไม่ใช่แบบนี้แล้ว คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง ตอนแข่งร้องเพลงของมหา’ลัยรอบแรกเมื่อสองวันก่อน พวกผู้ชายอย่างพวกนายนินทาผู้เข้าแข่งขันบนเวทีทุกคน ทั้งที่พวกเพื่อนนายหน้าตาแย่ยิ่งกว่าผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้นอีก รู้จักว่าคนอื่นทำไมไม่รู้จักส่องกระจกดูตัวเองบ้าง” เจียงไป่ลี่กัดตะเกียบพลางเอ่ยค้าน
“โอ๊ะ! พูดอย่างกับตอนนั้นเธอไม่ได้ร่วมวงด้วยอย่างนั้นแหละ” เกอปี้ยิ้ม เป็นรอยยิ้มแบบงามล่มเมือง แต่ดวงตากลับจ้องไปที่ลั่วจื่อ
“ฉัน…ก็แค่คิดว่าทำให้พวกเพื่อนนายหมดสนุกกันมันไม่ค่อยดี”
“ความจริงเธอกลัวว่าจะถูกพวกเราเมินล่ะสิ”
“นายจะไม่ยอมจบใช่ไหม!” ปากเจียงไป่ลี่ยังกัดตะเกียบ ขณะที่ใบหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที เจียงไป่ลี่ถลึงตาใส่เกอปี้ ลั่วจื่ออึ้งไปเล็กน้อยที่เห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกันอีกแล้ว ก่อนจะเริ่มตั้งใจรับผิดชอบหน้าที่ที่ทำให้เธอมานั่งอยู่ตรงนี้ “ไป่ลี่ เธอซื้อพวกนี้มากินเหรอ คอเป็ดรสหมาล่า ของโรงอาหารอร่อยไหม ฉันได้ยินมาว่าใกล้มหา’ลัยมีร้านโจวเฮยยา มาเปิด…”
เจียงไป่ลี่หันหน้ามาตอบเธอ “เหลือแค่สองชิ้น ให้เธอกินก็แล้วกัน ฉันจะไปซื้อโค้ก เธอเอาไหม”
ลั่วจื่อยังไม่ทันตอบเจียงไป่ลี่ก็ลุกพรวดออกไปแล้ว
“เปลี่ยนหัวข้อสนทนาได้ไม่ฉลาดเลย” เกอปี้ยิ้มเย็น
ลั่วจื่อก้มหน้ากัดส่วนโค้งด้านในที่เนื้อหนาที่สุดของคอเป็ดไปคำหนึ่ง เธอไม่ยิ้มแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร
“ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าเธอเองก็เป็นหวัด?”
เธอฟังออกว่าเกอปี้จงใจเน้นคำว่า ‘เองก็’
“อืม”
“ดีขึ้นหรือยัง”
พูดมากชะมัด ลั่วจื่อขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ความจริงนายนี่มันสารเลวจริงๆ นะ” น้ำเสียงของเธอนิ่งสงบเหมือนกำลังบรรยายว่าคอเป็ดเค็มเกินไปอย่างไรอย่างนั้น