เกอปี้ยังไม่ทันได้ตอบสนองก็ได้ยินเสียงเจียงไป่ลี่ตะโกนมาแต่ไกลว่า “มาช่วยฉันหน่อย! ซื้อมาสามแก้ว ถือไม่ไหวแล้ว”
เขาไม่ขยับ ขณะที่ลั่วจื่อวางตะเกียบลงแล้วลุกไปช่วยหยิบมาสองแก้ว เจียงไป่ลี่วางแก้วในมือไปตรงหน้าเกอปี้ให้ก่อน
หลังจากนั้นเจียงไป่ลี่ก็เอาแต่พูดไม่หยุดเหมือนกลัวว่าบรรยากาศจะกร่อย ลั่วจื่อตอบรับเธอกลับไปมั่วซั่วเป็นพักๆ ส่วนเกอปี้ยังคงเงียบไม่พูดอะไร ซ้ำสายตาก็เอาแต่จ้องลั่วจื่อที่กินโจ๊กอยู่ไม่ยอมเลิกรา
ลั่วจื่อกินเร็วมาก เธอไม่ได้ปล่อยให้พวกเขาสองคนรอนานเกินไป จากนั้นทั้งสามคนก็ลุกไปเก็บถาดอาหารพร้อมกัน เจียงไป่ลี่เดินนำไปก่อนเล็กน้อย
“นี่เป็นครั้งที่สองที่เราได้คุยกันใช่ไหม พวกเราไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกันใช่หรือเปล่า ทำไมถึงชอบพูดจากระทบกระทั่งฉันอยู่เรื่อย” เกอปี้หรี่ตาลง แม้แต่ความโกรธยังดูเสแสร้งแกล้งทำ ลั่วจื่อมองสบตาเขาอย่างเข้าใจดี เธอมองดูรอยยิ้มกับท่าทางเชี่ยวชาญพวกนั้นของเขา
ยังไงก็ตาม เธอกลืนคำพูดที่ขึ้นมาถึงปากแล้วลงไปใหม่ ต่อให้นี่จะเป็นแค่ครั้งที่สองที่เธอได้คุยกับเขา แต่ลั่วจื่อรู้ว่าคนประเภทเกอปี้ชอบผู้หญิงต่อปากต่อคำ เล่นตัวเล่นลิ้นกับเขาอย่างมั่นใจ ดังนั้นขอแค่อดทนก็จะผ่านไปได้เอง
“ฉันไม่เคยได้ยินว่าไป่ลี่กับเธอเป็นเพื่อนสนิทกันซะหน่อย แต่เธอกลับปกป้องไป่ลี่ไม่เบา” อีกฝ่ายยังคงไม่เต็มใจจะเลิกรา
ฉันกลับเคยได้ยินมาจริงๆ ว่านายมันไม่รู้จักดีชั่ว ลั่วจื่อเอ่ยแขวะอยู่ในใจ เธอผลักถาดอาหารไปบนชั้น แล้วหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือ ก่อนตะโกนบอกไป่ลี่ “นี่! ฉันจะไปซูเปอร์มาร์เก็ต ขอตัวก่อนล่ะ”
เธอลืมกระชับเสื้อนอกให้แน่น ชั่วพริบตาที่ผลักประตูโรงอาหารออกไปจึงรับลมหนาวเข้ามาเต็มเปา หลังเดินไปไม่กี่ก้าวลั่วจื่อก็แอบหันไปมองดูทิศทางที่พวกเขาเดินไป เจียงไป่ลี่ไม่ได้สวมเสื้อนอก ภาพแผ่นหลังที่คล้องแขนเกอปี้อยู่ท่ามกลางลมฤดูใบไม้ร่วงนั้นดูบอบบางอย่างมาก ลั่วจื่อนึกเศร้าใจขึ้นมา ในความทรงจำของเธอ ทุกครั้งที่ได้เห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เธอไม่เคยได้เห็นภาพสองมือจับประสาน มีแต่ภาพเจียงไป่ลี่คล้องแขนเกอปี้แน่นๆ ฝ่ายเดียวมาโดยตลอด
เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนเกอปี้เป็นหวัด ตอนสี่ทุ่มโทรมาบอกว่าอยากกินของร้อนๆ เจียงไป่ลี่ก็เลยวิ่งไปยังร้านโจ๊กจยาเหออีผิ่นที่อยู่ข้างนอกมหาวิทยาลัยเพื่อซื้อโจ๊กตับหมูใส่ผักปวยเล้งกับฟองเต้าหู้ทอด หลังใส่ถุงแล้วก็กอดไปส่งให้ที่หอพักของเขา ส่วนตัวเขากลับแกล้งแสดงสีหน้าเป็นห่วง เอ่ยหยอกเย้ารูมเมตของเธอ
‘ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าเธอเองก็เป็นหวัด ดีขึ้นแล้วหรือยัง’
สารเลว… ลั่วจื่อส่ายหน้าอีกครั้ง
เธอไม่มีทางหาเรื่องเปลืองแรงไปบอกเจียงไป่ลี่ว่าผู้ชายคนนี้ใช้ไม่ได้ รีบเลิกกันจะดีที่สุด ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เจียงไป่ลี่จัดการเรื่องผู้หญิงของเกอปี้ไปไม่น้อย เรื่องใหญ่ๆ ต่างผ่านมาหมดแล้ว ทว่ายังคงไม่ยอมตัดใจ ดังนั้นเธอเลยไม่มีความจำเป็นต้องไปหาเรื่องทดสอบความอดทนของอีกฝ่ายแบบเกินความจำเป็นอีก
บางทีอย่างลั่วจื่ออาจนับว่าเป็นคนที่อยู่วงนอกเลยมองเห็นได้ชัด แต่เจียงไป่ลี่ก็อาจไม่ใช่คนวงในที่มองไม่ออก เพียงแต่เธอเต็มใจจะทำก็เท่านั้น
ความอดทนคือปัญญาอย่างหนึ่ง เจียงไป่ลี่เคยเอ่ยเอาไว้เอง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 15 ก.ค. 64 เวลา 12.00 น.