เธอรักเขา แต่เขาไม่รักเธอ นี่เป็นปัญหาที่น่าเบื่อที่สุด ซ้ำยังเรื้อรังมานาน เจิ้งเหวินรุ่ยชอบเขามาตั้งแต่มัธยมปลายปีที่หนึ่ง เธอสารภาพรักแล้วถูกปฏิเสธ ตอนหลังเขามีแฟน เธอเลยสาบานว่าจะตัดใจ หลังจากนั้นตอนเข้ามหาวิทยาลัย เขาเลิกกับแฟนแล้ว เธอเลยรวบรวมความกล้าไปสารภาพรักอีกครั้ง จากนั้นถูกปฏิเสธด้วย ‘รอยยิ้มที่อบอุ่นมาก’ อีกครั้งเช่นกัน
ทั้งหมดที่ลั่วจื่อทำมีแค่การยิ้มน้อยๆ หรือถอนหายใจในเวลาที่เหมาะสม คู่กับการส่ายหน้าหรือพยักหน้าและยังมีแววตาเป็นห่วงเป็นใย
เจิ้งเหวินรุ่ยบอกว่าการแอบรักทรมานเกินไป ตอนที่รู้ว่าเขามีแฟน เธอทำให้ทุกคนในโรงเรียนเห็นตัวเองออกกำลังกายในชุดที่บางมาก การถูกหัวเราะเยาะแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองสมควรโดนแล้ว มีความสุขกับการแดกดันตัวเอง
นั่นเป็นการทำเรื่องโง่ๆ ครั้งสุดท้ายตอนมัธยมปลายของเธอ
แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในชีวิตนี้
เจิ้งเหวินรุ่ยบอกว่าเดิมทีเธอหลงคิดว่าลืมได้ วางลงได้แล้ว แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเผลอไปศึกษาจุดเด่นของแฟนเก่าเขาอย่างเอาจริงเอาจังจนได้ ปั้นตัวเองให้เป็นผู้หญิงที่สดใสและแสบซ่าส์
ลั่วจื่อหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ทว่าเกิดความรู้สึกที่อ่อนโยนมากขึ้นมาในใจ ผู้หญิงประหลาดคนนี้ดูเหมือนจะไม่เข้าใจวิธีการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีๆ ด้วย แต่ว่าเธอไม่อยากหัวเราะเยาะลูกไม้โง่งมของอีกฝ่าย
กลุ่มเพื่อนสนิทผู้หญิงมักจะรวมตัวปรึกษากันว่าจะช่วยเพื่อนจับหรือเล่นกับหัวใจผู้ชายยังไง อย่างไรก็ตามลั่วจื่อชื่นชมเด็กโง่ที่ต่อสู้ตามลำพังคนนี้มากกว่า
กล้าที่จะทำอะไรตามลำพัง ไม่รู้ว่าหมายถึงแบบนี้หรือเปล่า
แน่นอนว่าเธอเองก็ต้องยอมรับว่าเธอชอบดูชีวิตผู้กล้าที่รันทด ไม่อาจปฏิเสธว่าตัวเองไม่มีปัญหาทางจิตที่แอบยินดีในความทุกข์ของคนอื่น
สุดท้ายเจิ้งเหวินรุ่ยเมาเต็มที่แล้ว ไม่ได้พูดอะไรเลอะเลือนขาดๆ ตอนๆ อย่าง ‘ความจริงฉันตาสว่างแล้วตอนนี้ก็ไม่ได้แคร์เขาเท่าไหร่แล้ว’ เธอเรียกศักดิ์ศรีกลับมาอีกครั้ง แต่ยังคงฟุบนอนสะอื้นไห้เบาๆ อยู่บนโต๊ะ ในที่สุดลั่วจื่อก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ แล้วย้ายสายตาไปยังกระจกด้านขวามือด้วยสีหน้าโล่งอกและเย็นชา ยามเย็นในฤดูใบไม้ร่วงของปักกิ่งน่าหดหู่มาก อุณหภูมิที่แตกต่างระหว่างด้านในและด้านนอกร้านปิ้งย่างทำให้บนหน้าต่างมีหยดน้ำเกาะอยู่หนาแน่น
ลั่วจื่อหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมาอย่างหยั่งเชิงก่อนยกดื่มลงไป
ทุกคนต่างเป็นคนที่ไม่ถูกรักกันทั้งนั้น แต่ตัวเธอเองไม่ได้เข้มแข็งกล้าหาญแบบนั้น จึงได้แต่ดื่มเบียร์แสดงความนับถือให้
บนโลกใบนี้มักมีคนประเภทหนึ่งที่สำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้ว การมีตัวตนอยู่ของเขาเรียกว่าเป็นการเย้ยหยันกันโดยสิ้นเชิงยกตัวอย่างเช่นคนอย่างเซิ่งไหวหนาน
“จริงด้วย เธอกับแฟนเก่าเขาเป็นเพื่อนห้องเดียวกันใช่ไหม”
ลั่วจื่อสะดุ้งตกใจ เธอคิดว่าอีกฝ่ายนอนหลับเป็นตายไปแล้ว
“ใช่”
“สนิทกันไหม”
“ไม่สนิท”
“งั้นตอนนี้ยังติดต่อกันไหม”
“เปล่า”
จู่ๆ เจิ้งเหวินรุ่ยก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา “คนโกหก”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 ก.ค. 64 เวลา 12.00 น.