ทดลองอ่าน รักเดียวที่กลางใจ บทที่ 5 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ความรู้สึกดีที่เรียกว่ารัก

ทดลองอ่าน รักเดียวที่กลางใจ บทที่ 5

“อากาศสดชื่นนะ เสียอย่างเดียว พี่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไรเลยชักเริ่มหอบ” นภางค์เปรย เหงื่อที่ผุดพราวบนหน้าผากทำให้ลัลน์หันไปหา

“ไหวไหมคะพี่นาย”

“โอ๊ย แค่นี้เอง หนูลัลน์”

“เอาคุณนายมาออกเหงื่อบ้างน่ะดีแล้วหนูลัลน์ ออกกำลังกายเสียบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เข้าครัวทำกับแกล้มเหล้าให้สามี” ปณิตาหรือพี่หญิง ภรรยาณัฐวัฒน์แซวเพื่อนที่หันไปค้อน

“ย่ะ ทำว่าเพื่อนนะ หล่อนก็ใช่ย่อยหรอก พี่วัฒน์กับพี่นพน่ะพอกันล่ะน่า” นภางค์บอก แล้วก็ได้เสียงหัวเราะกลับมาจากทุกคน

นพวินทร์กับณัฐวัฒน์นั้นแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ก็รู้กันดีว่าสนิทสนมกันพอดู กิจวัตรประจำวันคือการตั้งก๊วนสังสรรค์ทุกมื้อเย็นที่มักสลับสับเปลี่ยนไปตามบ้านของกันและกัน รวมถึงบ้านของคุณภวิชด้วย จึงเป็นหน้าที่กลายๆ ให้แม่บ้านของแต่ละคนได้ตระเตรียมอาหารให้ทั้งก๊วนเสมอ แม้ปากจะค่อนขอดบรรดาสามี แต่ลัลน์รู้ดีว่าการได้ดูแลพวกเขาเป็นความสุขของปณิตาและนภางค์เช่นกัน

“ก็ถ้าไม่ทำจะให้ออกไปหากินที่อื่นเหรอ ของของเรานี่นา ก็ต้องรักต้องดูแลสิ จริงไหมล่ะ” ปณิตาพูดพร้อมยิ้มลอยหน้าให้ ดูเหมือนคำพังเพยที่ว่า ‘เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร’ นั้น ตัวเธอก็ยึดไว้มั่นเช่นกัน

 

การเดินเท้าที่ขลุกขลักไปบ้างสนุกสนานด้วยเสียงหยอกเย้าพูดคุย จนกระทั่งถึงปลายทางที่ต้องการมาเยือน ทางเดินเข้าสู่หมู่บ้านสองข้างทางเป็นบ้านที่อยู่อาศัยของเหล่าชาวเขา ไม่ว่าจะเป็นปะด่องหรือกะเหรี่ยงคอยาว อาข่าและลาหู่หรือมูเซอ

หลายบ้านมีหญิงสาวไม่ก็ผู้เฒ่าผู้แก่กำลังถักทอผ้าด้วยวิธีโบราณที่สืบต่อกันมาตรงหน้าชาน บ้านเรือนและการใช้ชีวิตรวมทั้งเครื่องแต่งกายที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ตามชาติพันธุ์ ทำให้ธารณ์อดไม่ได้ที่จะยกกล้องบันทึกภาพแม่เฒ่าที่มีใบหูค่อนข้างยาวซึ่งสวมตุ้มหูขนาดใหญ่ไว้และกำลังทอผ้า

“เค้าตั้งรกรากกันอยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอ หนูลัลน์” ธารณ์ถามหญิงสาวใกล้ตัว ตามองหญิงสาวชาวเขาที่สวมห่วงเงินหลายห่วงรอบคอจนลำคอสูงระหง

“จริงๆ แล้วเค้าไม่ได้อยู่ที่นี่กันมาตั้งแต่ดั้งเดิมหรอกค่ะ ที่นี่จัดทำขึ้นโดยกลุ่มเอกชน ชักชวนให้ชาวเขาเหล่านี้มาอาศัยอยู่ เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตของพวกเขา แล้วก็รับเงินเดือนและอาหารจากกลุ่มเอกชนเป็นการแลกเปลี่ยน ส่วนใหญ่ก็พากันมาอยู่ทั้งครัวเรือนเลยค่ะ” การบอกเล่าของลัลน์ทำให้ธารณ์อดนึกถึงการชำระเงินค่าเข้าชมตั้งแต่แรกที่มาถึง

“อืม พี่เคยได้ยินเรื่องคณะปกป้องสิทธิมนุษยชนกับเจ้าของหมู่บ้านชาวเขา”

“มันเป็นเรื่องพูดยากนะคะ แต่ละคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง อย่างชาวเขาเหล่านี้ว่าไปนี่ก็คืออาชีพที่จะทำให้พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องเบียดเบียนใคร และยังสามารถคงวิถีชีวิตของบรรพบุรุษเอาไว้ได้ด้วย วิธีคิดของนักอนุรักษ์ลัลน์ก็ไม่ได้คิดว่าผิดเหมือนกัน ความเท่าเทียมของมนุษย์มีใครบ้างไม่อยากได้ มันเป็นเรื่องของมุมมองและความพอใจในชีวิตน่ะค่ะ แต่สำหรับลัลน์…ลัลน์มองว่าบทบาทของเราอยู่ตรงไหน วางมันให้ถูก ทำมันให้ดี อย่าทำร้ายใครก็พอ”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ความรู้สึกดีที่เรียกว่ารัก

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com