แม้จะออกเดินทางมาเป็นหมู่คณะ แต่ในที่สุดลัลน์ก็กลายเป็นตัวคนเดียวจนได้ ผู้คนมากมายที่มาลอยกระทงริมสองฝั่งแม่น้ำกกทำให้ลัลน์พลัดหลงหลังจากที่เดินตามกันมาได้พักใหญ่ เสียงประทัดที่เด็กๆ จุดโยนสนุกสนานทำให้เธอต้องยกมือปิดหูแล้วพยายามเดินเลี่ยง
“แย่จัง หลงจนได้” ลัลน์บ่นกับตัวเอง เธอเปิดกระเป๋าใบเล็กที่สะพายคล้องคอมองหาโทรศัพท์มือถือแล้วอดไม่ได้ที่จะสบถ…สงสัยลืมไว้บนรถอีกแล้ว…
ลัลน์ถอนหายใจเบาๆ กับตัวเองพลางกวาดตามองไปรอบๆ อย่างชั่งใจว่าจะเอายังไงต่อไปดี…กลับไปคอยทุกคนที่รถ หรือว่าไปลอยกระทงเองก่อนดีนะ…
เสียงประทัดยังคงดังไม่หยุด ทำให้ลัลน์ปรายตามองไปข้างหน้าที่ริมฝั่งน้ำซึ่งผู้คนเบียดเสียดแล้วถอนหายใจด้วยความเสียดาย…เอาไว้ลอยปีหน้าแล้วกัน…
เธอหมุนตัวตั้งใจจะกลับไปทางเดิม ตั้งแต่เล็กๆ ลัลน์เป็นคนที่หลงทางง่ายและตามหาใครไม่เก่งเลย มันทำให้ลัลน์ไม่ชอบที่จะต้องไปอยู่ท่ามกลางผู้คนหรือสถานที่ไม่คุ้นเคย
“ลัลน์” เสียงเรียกที่จำได้ขึ้นใจและมือที่เอื้อมมายึดข้อมือไว้ทำให้ลัลน์ยิ้มกว้างหันไปหา…และทุกครั้งที่หลงทางมินจะเป็นคนตามหาเธอเจอ…
“มิน ดีจัง กำลังจะไปรอที่รถเชียว”
“หลงอยู่เรื่อยเลยนะ โทรศัพท์มือถือก็ชอบลืม ไม่ค่อยพกติดมืออีกเหมือนกัน มันน่าจะเรียกว่ามือวางจริงๆ เลย ว่าแต่อยากไปเดินเที่ยวก่อนไหมล่ะ เดี๋ยวมินโทรบอกพ่อนายก่อนว่าเจอลัลน์แล้ว จากนั้นเราก็ไปเที่ยวต่อได้”
ลัลน์ก้มลงมองกระทงใบตองในมือเพื่อประกอบการตัดสินใจโดยที่ยังไม่ให้คำตอบใดๆ มินมองตามแล้วยิ้ม
“ไปนะลัลน์ ลอยกระทงก่อนแป๊บเดียวเอง กลัวประทัดใช่ไหม มินอยู่นี่ไม่ต้องกลัวหรอกน่า มินไม่ทิ้งลัลน์ไปไหนหรอก จะอยู่กับลัลน์เสมอ” น้ำเสียงของมินและท่าทางที่เป็นผู้ใหญ่พร้อมปกป้องใครสักคนของเขาทำให้เธอยิ้มด้วยความอุ่นใจ…อดยอมรับไม่ได้ว่าเมื่อมีเขาอยู่ข้างตัวแบบนี้เธอก็รู้สึกมั่นใจ ไม่กลัวอะไรเสมอจริงๆ…
มือที่ว่างเปล่าของมินทำให้ลัลน์นึกสงสัยว่ากระทงของเขาที่เธอเตรียมให้หายไปไหนกัน
“กระทงของมินล่ะ”
“ให้พี่นายไปแล้ว เห็นบ่นว่ากระทงของแกโดนเจ้าตาต้าแทะเละ มินเลยยกให้ ไม่โกรธนะ” มินถามด้วยสีหน้าไม่สบายใจ กลัวลัลน์จะโกรธที่เขายกกระทงที่เธอเตรียมให้ไปกับคนอื่น
“อ๋อ อืม ไม่เป็นไรหรอก งั้นเราลอยด้วยกันก็ได้เนาะ ว่าแต่มินโทรบอกพ่อทีสิ” ลัลน์บอกแล้วยืนคอยให้มินโทรศัพท์ เสียงประทัดที่ยังดังต่อเนื่องทำให้บางคนต้องเดินเลี่ยงมาชนลัลน์จนเซ
“ลัลน์” มินผวาเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าลัลน์กำลังจะกลืนหายไปกับกลุ่มคนอีกครั้ง
“คนเยอะจังเนาะมิน บ้านเราคนเยอะขนาดนี้เลยหรือเนี่ย พี่เพิ่งรู้” ลัลน์บอกในขณะที่มินส่ายหน้าอย่างไม่ชอบใจ แล้วเขาก็จูงเธอเดินไปจนถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ขายลูกโป่งข้างทาง จัดการซื้อลูกโป่งสีแดงลูกใหญ่มาสองใบ เขาส่งให้ลัลน์ถือเชือกเอาไว้ใบหนึ่ง ส่วนอีกใบหนึ่งก็ผูกเข้ากับข้อมือของเธอ