“เจ้าแน่ใจว่าเขามาแค่คนเดียว?” เหยียนตี้พูดพลางโบกมือให้สององครักษ์ ทั้งสองคนก็เก็บซ่อนกลิ่นอายเอาไว้แล้วไปซุ่มอยู่ด้านข้างทันที
“แน่ใจ ต้าจุ่ยก็อยู่ในมือเขา” เสี่ยวฮุยพูดด้วยท่าทีประหม่าเป็นกังวล ลืมความไม่พอใจที่มีต่อเหยียนตี้ไปชั่วคราว
ฉับพลันก็มีเสียงกลไกทำงานดังมาจากทางเนินหลุมศพอย่างคล้ายจะตอบรับคำของเสี่ยวฮุย จากนั้นคนชุดสีเทาร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งก็กระโดดออกมาจากด้านล่างของเนินหลุมศพ ในมือเขาหิ้วนกห้อยหัวสีดำน่าเกลียดขนาดตัวเท่าแม่ไก่ตัวหนึ่งเอาไว้ด้วย ตัวคนคิดจะวิ่งหนีไปทางใต้
ครั้นเห็นคนชุดสีเทาวิ่งฉิวไปสิบกว่าจั้งแล้ว เสี่ยวฮุยก็ร้อนใจจนเกือบส่งเสียงหวีดร้องขึ้นมา
ในเวลาอันรวดเร็ว องครักษ์ทั้งสองของเหยียนตี้พลันกระโจนออกมาจากที่ซ่อน หนึ่งหน้าหนึ่งหลังขวางคนชุดสีเทาไว้ตรงกลาง โปรยผงยาสีเทาตุ่นเข้าใส่เขาโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
กว่าคนชุดสีเทาจะหนีออกมาจากสกุลเหวินได้นั้นก็ลำบากมากอยู่แล้ว เขาย่อมคิดไม่ถึงว่าจะมีคนมาดักซุ่มรออยู่ตรงทางออกอุโมงค์ลับนี้ ในเวลาเดียวกันนี้เขาพลันเรียกลมปราณแล้วหลบออกไปด้วยความตกใจ ฝ่ามือหนึ่งก็ผลักผงยาสีเทาสองกลุ่มนั้นกลับไป ก่อนตวาดขึ้นด้วยท่าทางเดือดดาลพลางหายใจกระหืดกระหอบ “พวกเจ้าเป็นใครกัน ถึงกับกล้าลงมือกับสกุลเหวินของข้าเชียวรึ กินดีหมีหัวใจเสือมาหรือไร!” คนชุดสีเทาพูดได้เพียงเท่านี้แล้ว
แม้องครักษ์ทั้งสองจะมีตบะไม่เท่าคนชุดสีเทา แต่ในเมื่อตั้งใจมาเล่นงานเช่นนี้ย่อมจะเตรียมกับดักไว้บนทางหนีของอีกฝ่ายเรียบร้อย คนชุดสีเทาถูกองครักษ์สองคนกระหนาบโจมตีก็เคลื่อนหลบไปด้านข้างสองก้าว ชั่วขณะนั้นก็ร้องโหยหวนออกมาพร้อมกับกระโดดตัวลอย จากนั้นร่างก็โงนเงนก่อนล้มตึงบนพื้นในทันที
เหยียนตี้พาเสี่ยวฮุยเดินเข้าไปใกล้ เห็นในพงหญ้าสูงหนึ่งฉื่อบนพื้นมีแสงส่องประกายวับแวมปนอยู่กับหนามแหลมจำนวนนับไม่ถ้วน เห็นได้ชัดว่าเป็นอาวุธลับที่องครักษ์ทั้งสองวางไว้เมื่อครู่
น่าสงสารคนชุดสีเทาที่เป็นถึงยอดยุทธ์ขั้นเจ็ดผู้แสนสง่าผ่าเผย อีกทั้งยังเกิดในสกุลเหวินอันเป็นตระกูลที่เชี่ยวชาญด้านกลไก ยามนี้กลับมาถูกกับดักง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้ทักษะฝีมือใด รอแค่ฉวยโอกาสเล่นงานตอนที่เขาไม่ทันตั้งตัว
นกสีดำตัวใหญ่ในมือคนชุดสีเทาก็ล้มลงพื้นตามเขาไปด้วย มันแน่นิ่งไม่ไหวติง
เสี่ยวฮุยโผกระโจนลงจากบ่าเหยียนตี้ ก่อนกระโดดไปหยุดที่ข้างนกสีดำตัวใหญ่ ยกขาหน้าออกแรงผลักมัน พลางร้องเรียกด้วยเสียงสั่นเครือ “ต้าจุ่ย? จะ…เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจสิ เจ้าเป็นอะไรไป ตื่นขึ้นมา!”
เหยียนตี้ก้มหน้ามองนกสีดำตัวใหญ่บนพื้นปราดหนึ่ง จู่ๆ เขาก็นึกอยากเหลือกตาขึ้นมาเป็นครั้งแรก นกสีดำที่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่าอีกาตัวนี้ถึงกับมีหน้าเรียกตนเองว่านกเอี้ยงเสียงศักดิ์สิทธิ์? ทั้งยังเป็นสัตว์วิเศษของมือเทพเนรมิตฉีเทียนเล่อผู้เป็นยอดปรมาจารย์กลไกอันดับหนึ่งในใต้หล้าด้วย?
ฉินโยวโยวรออยู่พักใหญ่อย่างลุกนั่งไม่ติดที่ ในที่สุดนางก็เห็นเหยียนตี้พาสัตว์วิเศษทั้งสองตัวของนางกลับมาอย่างปลอดภัย เพียงแต่ต้าจุ่ยยังคงสลบอยู่ ชวนให้คนเป็นกังวลอย่างยิ่ง
เหยียนตี้ตรวจดูอาการของต้าจุ่ยคร่าวๆ ก่อนเอ่ยว่า “มันถูกคนวางยาสลบ เที่ยงวันพรุ่งนี้ก็น่าจะตื่นแล้ว”
ท่าทีมั่นใจของเหยียนตี้ทำให้ฉินโยวโยววางใจลง ก่อนไพล่นึกไปถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้เขามองออกในปราดเดียวว่านางถูกพิษลูกกลอนสลายพลัง ซ้ำยาที่เขาใช้แก้พิษรักษาอาการบาดเจ็บให้นางก็ได้ผลดียิ่ง ยาที่ลูกน้องเขาใช้เล่นงานคนสกุลเหวินนั้นยิ่งร้ายกาจไร้ใดเทียม นางอดเปรยความคิดตนเองขึ้นมาไม่ได้ “ผู้มีพระคุณดูจะเข้าใจในสรรพคุณยาเป็นอย่างมาก?”