วันนี้พวกเขาจะได้เป็นพยานในความยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ของสิ่งตกทอดจากบรรพบุรุษด้วยกัน แม้ว่านี่จะเป็นเพียงแบบจำลอง แต่ขอเพียงมีมันช่วยทำความเข้าใจในวิธีประกอบติดตั้ง วันที่จะได้เห็นอานุภาพอันน่ากลัวของมันก็อยู่ห่างไปไม่ไกลแล้ว!
ชั่วพริบตาที่ฉินโยวโยวยกมือแตะปืนใหญ่ก็ได้สลัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดทิ้งไป นางจมอยู่กับความรู้สึกพิเศษอันประกอบด้วยความตื่นเต้นและความจดจ่อซึ่งมิอาจใช้ถ้อยคำบรรยายได้ชนิดหนึ่ง
ยามที่นางเห็นปืนใหญ่กระบอกนี้เป็นครั้งแรกในเขตหวงห้ามก็นึกอยากจะประกอบมันแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความทะเยอทะยาน เป็นเพียงความชอบและความเคยชินของนักกลไกเท่านั้น
เฉกเช่นเดียวกับนักชิมยามได้เห็นอาหารชั้นเลิศที่มีแต่ในตำนานอย่างไม่คาดฝัน การจะอดใจไม่ขยับตะเกียบถือเป็นเรื่องยากเหลือเกิน
แต่ต่อให้ปืนใหญ่กระบอกนี้จะถูกประกอบจนเสร็จแล้ว มันก็เป็นเพียงแบบจำลอง ไม่อาจยิงกระสุนสำแดงอานุภาพอันแท้จริงของมันได้ ทว่าเพียงกระบวนการประกอบนี้ก็ยังชวนให้ฉินโยวโยวตั้งตารอเป็นอย่างยิ่ง
ขณะนี้นางคล้ายได้ย้อนเวลาไปสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งหน้ากับปรมาจารย์นักกลไกท่านนั้นเมื่อพันปีก่อน เป็นการสนทนาระหว่างสุดยอดฝีมือที่แท้จริง
ฝ่ายตรงข้ามออกโจทย์ยากมาให้ แต่หลังฉินโยวโยวพิจารณาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งรอบคอบแล้วก็เริ่มประกอบคำตอบอันสมบูรณ์ออกมาทีละนิด
หลังจากฉินโยวโยวประกอบชิ้นส่วนสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย นางก็เหม่อมองปืนใหญ่อยู่เป็นครู่ใหญ่ถึงได้มีท่าทีดุจตื่นจากฝัน
นักกลไกทั้งสามที่ด้านข้างได้ช่วยกันจดบันทึกกระบวนการทั้งหมดไว้อย่างละเอียดแล้ว
เมื่อพวกเขาหยุดมือลงถึงได้พบว่าที่เบื้องหน้าของแต่ละคนต่างมีกระดาษกองเป็นปึกหนา บนนั้นล้วนแต่เป็นเนื้อหาที่พวกเขาจดบันทึก มีภาพร่างคร่าวๆ มีตัวอักษร มือทั้งสองทั้งเมื่อยทั้งชาประหนึ่งว่าไม่ใช่ของตนเองแล้ว แม้จะอ่อนเพลียถึงขีดสุด แต่ก็ยังอดตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งร่างไม่ได้
คุ้มค่าเหลือเกินแล้ว! บรรพบุรุษกับศิษย์ของมือเทพเนรมิตฉีเทียนเล่อที่ตรงหน้าท่านนี้ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับการเรียกขานเป็นยอดปรมาจารย์นักกลไกอย่างแท้จริง!
ฉีเทียนเล่อเองก็น่าจะมีสิทธิ์เช่นกัน จะอย่างไรศิษย์ที่โดดเด่นเพียงนี้ก็ออกมาจากการสั่งสอนของเขา ศิษย์ของเขายังร้ายกาจถึงเพียงนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าวิชากลไกของตัวเขาเองจะเหนือชั้นถึงระดับใด!
คนทั้งหลายเงยหน้ามองเห็นแสงสีแดงส้มที่ลอดผ่านกระดาษกรุหน้าต่างห้องเข้ามาก็พบว่าเวลาครึ่งค่อนวันถึงกับผ่านไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้ว
ความตื่นเต้นพลุ่งพล่านและความเต็มอิ่มในใจฉินโยวโยวค่อยๆ เหือดหายไป นางมองดูแบบจำลองปืนใหญ่ที่ประกอบเสร็จแล้วกระบอกนี้ ในสมองพลันมีบรรดาภาพเหตุการณ์อันน่ากลัวที่เห็นในฝันร้ายเมื่อคืนผุดขึ้นมาอีก จึงอดจะถอยหลังไปสองก้าวไม่ได้ ไม่กล้ามองมันอีกแม้แต่แวบเดียว นางหันหลังรีบร้อนเปิดประตูเดินออกไปโดยไม่สนใจฮ่องเต้และนักกลไกสามคนที่เหลือในห้องข้าง
ไม่รู้ท้องฟ้ามีหิมะตกลงมาอย่างหนักอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไร ฉินโยวโยวเดินกลับมาถึงห้องข้างที่ตนกับเหยียนตี้พักอยู่ชั่วคราวด้วยอาการเหมือนวิญญาณออกจากร่าง นางนั่งลงในมุมหนึ่ง มองดูหิมะสีขาวนอกหน้าต่าง อย่างเหม่อลอยตลอดทั้งคืน
ที่ฉินโยวโยวตอบตกลงประกอบปืนใหญ่ไปนั้น เรื่องของเหยียนตี้เป็นเพียงเหตุจูงใจหนึ่ง อันที่จริงในใจนางเองก็มุ่งหมายอยากลองประกอบมาโดยตลอด…หากอาจารย์รู้เข้า ด้วยความรักใคร่ตามใจของเขาที่มีต่อนาง คงจะตำหนินางไม่ลงเช่นกัน กระนั้นนางก็ยังอดตำหนิตนเองไม่ได้ นางถึงขั้นไม่กล้าเผชิญหน้ากับผลลัพธ์อันน่ากลัวจากสิ่งที่นางทำลงไปชักนำมา