“คนงามที่ข้าอุตส่าห์ถูกตาต้องใจทั้งที จะปล่อยให้นางหนีไปได้อย่างไรเล่า” ในน้ำเสียงของเหยียนตี้มีแววกระหยิ่มใจอย่างซ่อนไม่มิด
อันที่จริงพระราชโองการแต่งตั้งฉินโยวโยวเป็นพระชายานั้น เขาได้เข้าวังไปขอจากไทเฮาตั้งแต่วันที่กลับถึงเมืองหลวงแล้ว อีกทั้งยังแจ้งต่อกองงานฝ่ายราชวงศ์และเหล่าผู้อาวุโสที่หมู่บ้านซือตี้แล้วด้วย
ขณะที่ฉินโยวโยวยังคงไร้เดียงสาคิดว่าตนเองแค่ถูกเหยียนตี้หลอกพากลับมาใช้แรงงานพร้อมทั้งเป็นนักโทษ ฐานะของคนทั้งสองก็ได้ถูกกำหนดโดยทางเหยียนตี้แล้ว
“ฮึ! หากข้าไม่ตกลง ท่านจะทำอะไรได้!” ฉินโยวโยวพูดอย่างโกรธเคือง
ในดวงตาเหยียนตี้คล้ายว่ามีเปลวเพลิงร้อนแรงสองกองลุกโหมขึ้นมา “เจ้าไม่ตกลง…ข้าก็ได้แต่ ‘ลงกายลงแรง’ โน้มน้าวเจ้าอย่างเต็มที่แล้ว เจ้าอยากลองดูสักหน่อยหรือไม่”
“คนเลว! ฟ้ายังไม่มืดท่านก็คิดจะทำเรื่องไม่ดีแล้วรึ!” ฉินโยวโยวทางหนึ่งหลบเลี่ยงกรงเล็บของเขาที่หมายจะสอดเข้ามาในเสื้อนาง อีกทางก็ร้องห้ามเบาๆ
“ข้าทำเรื่องไม่ดีไม่เคยเลือกเวลาอยู่แล้ว”
นอกเรือนฝนพรำหิมะโปรยปราย ในเรือนอวลอุ่นกลิ่นอายวสันต์…
เจ้าคนเลวทำเรื่องไม่ดีเสร็จก็กอดภรรยาตัวน้อยสุดที่รักไว้พลางพูดอย่างอิ่มเอม “เจ้าไม่ชอบที่อยู่กับข้าตั้งแต่เช้าจรดเย็นทุกวัน รู้สึกไม่เป็นอิสระหรือไร วันพรุ่งนี้ข้าไม่อาจอยู่กับเจ้าได้ เจ้าตามข้าเข้าวัง รออยู่ที่ห้องข้างอย่างว่าง่าย อยากทำอะไรก็ทำไป ตอนเย็นข้าจะไปรับเจ้า”
ฉินโยวโยวเงียบไปชั่วครู่ก็เอ่ยว่า “ได้”
นางคาดเดาได้แล้วว่าเหตุใดเหยียนตี้จะไม่อยู่กับนาง วันพรุ่งนี้เขาน่าจะไปทดสอบอานุภาพของปืนใหญ่กระบอกนั้นด้วยกันกับเหยียนซู่กระมัง ผ่านมาหลายวัน คิดว่าพวกเขาคงทำของจริงออกมาสำเร็จแล้ว
นับแต่เหยียนตี้ฟื้นขึ้นมา เขาก็ตั้งใจไม่เอ่ยถึงเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับปืนใหญ่ของบรรพบุรุษต่อหน้าฉินโยวโยว ถึงขั้นว่าไม่เคยคุยเรื่องการเตรียมการบุกโจมตีแคว้นตัวลี่ต่อหน้านางด้วย
ฉินโยวโยวยินดีจะปิดหูปิดตาตนเอง ถือเสียว่าปืนใหญ่กระบอกนั้นไม่เคยปรากฏโฉมมาก่อน
วันรุ่งขึ้นเหยียนตี้พาฉินโยวโยวเข้าวังแต่เช้า เขาส่งนางถึงห้องข้างของตำหนักอักษรเรียบร้อยก็ทิ้งเหลียงลิ่งกับตู้เหวยเหนียงให้อยู่เป็นเพื่อนนาง ส่วนตนเองก็ไปสมทบกับฮ่องเต้
เหยียนตี้ส่งแหวนสุเมรุวงหนึ่งให้ฉินโยวโยว เขาใส่วัสดุและเครื่องมือที่นางต้องใช้เวลาทำกลไกทั้งหมดให้นางพกติดตัว ไปที่ใดก็สามารถหาอะไรทำฆ่าเวลาได้
เมื่อก่อนที่มีเสี่ยวฮุยอยู่ สมบัติส่วนใหญ่ของฉินโยวโยวจะบรรจุอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของมัน ตอนนี้เสี่ยวฮุยไม่อาจติดตามนางออกมาข้างนอก จึงได้แต่เปลี่ยนมาใช้เครื่องมือเก็บของแทน
ทว่าวันนี้ฉินโยวโยวไม่ได้เล่นกับกลไกอีก แต่เลือกหยิบเอาผ้าไหมแพรพรรณออกมาเตรียมจะตัดอีกชุดตามแบบชุดตัวน้อย
ครั้นตู้เหวยเหนียงเห็นก็พูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ “พระชายาทรงพระครรภ์แล้ว? นี่จะเตรียมไว้ให้ท่านอ๋องน้อยท่านหญิงน้อยหรือเพคะ” หากแต่ชุดตัวน้อยนั้นไม่ว่าดูอย่างไรก็ดูพิกลทั้งยังดูคุ้นตาอยู่บ้าง
ฉินโยวโยวกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “มิใช่ นี่ทำให้เสี่ยวฮุย มันน่าจะเลื่อนขั้นสำเร็จเร็วๆ นี้แล้ว ข้าจะทำชุดใหม่ให้มัน มันจะต้องดีใจมากแน่นอน”
ตู้เหวยเหนียงดีทุกเรื่อง เสียก็แต่จุดที่ชอบเร่งรัดให้นางกับสามีปีศาจมีลูกซึ่งชวนให้คนหมดคำพูดอย่างยิ่ง
ตู้เหวยเหนียงได้ยินคำตอบของฉินโยวโยวก็ผิดหวังอย่างมากตามคาด นางบ่นงึมงำว่า “ท่านก็ทรงนึกถึงแต่เสี่ยวฮุย ไฉนไม่ทรงทำให้ท่านอ๋องบ้าง”
“เขาไม่ขาดแคลนเสื้อผ้าเสียหน่อย” ฉินโยวโยวจำได้ว่าเสื้อผ้าของเสี่ยวฮุยมีแค่ชุดที่ร้านผ้าไฉ่ซือส่งมาให้ชุดเดียว ส่วนเสื้อผ้าของเหยียนตี้…นางไม่เคยไปนับ ถึงอย่างไรก็มีไม่น้อยแน่นอน
“ของที่ท่านทรงทำจะเหมือนกับที่พวกช่างตัดเย็บทำได้อย่างไร!” ตู้เหวยเหนียงรู้สึกว่าตนเองจำเป็นต้องย้ำเตือนพระชายาน้อยผู้ทึ่มทื่อผู้นี้อย่างมาก