เหยียนตี้ทำให้ฮ่องเต้สงบได้ชั่วคราวแล้วก็เริ่มพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะคว้าหัวใจภรรยาตัวน้อยกลับมาเช่นไรดี ผ่านมาหลายวัน โทสะนางน่าจะหายไปเกือบหมดแล้ว เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่ทันไรกลับต้องแยกกันอยู่เช่นนี้ ความอดทนของเขาก็มาถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไป ‘คุย’ กับฉินโยวโยว
เขาหาตัวภรรยาเจอที่ในคลังสมบัติใต้สวน นางนั่งใจลอยอยู่ข้างสัตว์วิเศษทั้งสองตัวที่หลับไม่ได้สติ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
เหยียนตี้เดินไปยกมือลูบเรือนผมยาวของนางเบาๆ ก่อนเอ่ยขึ้น “โยวโยว ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า เจ้าอยากคุยที่นี่หรือกลับไปคุยที่เรือนศิลา”
ฉินโยวโยวเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงเอ่ยว่า “ขึ้นไปคุยในสวนข้างบนแล้วกัน มิเช่นนั้นเดี๋ยวจะรบกวนพวกมัน” นางพูดพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน หลบเลี่ยงฝ่ามือใหญ่ของเหยียนตี้ที่ยื่นมาจะจูงมือนาง ก่อนเดินออกจากห้องลับ ขึ้นบันไดกลับไปถึงในสวนเอง
มือข้างที่ยื่นออกไปของเหยียนตี้ค่อยๆ เก็บกลับมากำเป็นหมัด เขาหันหลังกลับสาวเท้ายาวเดินตามไป
ฉินโยวโยวนั่งในศาลาข้างภูเขาจำลองรอเขา เหยียนตี้เดินมาถึงก็พูดเข้าประเด็นทันที “ข้าต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะยอมลืมเรื่องก่อนหน้านี้”
“ข้าลืมไม่ลง เดิมที…ข้านึกว่าท่านจะอยากให้ข้ายกโทษให้ท่านเสียอีก” น้ำเสียงของฉินโยวโยวมีแววผิดหวังอยู่จางๆ ยามที่พูดประโยคนี้ นางถึงค้นพบว่าการตัดสินใจจะไปจากเหยียนตี้ของตนเองนั้นไม่แน่วแน่สักเท่าไร นางยังหวังลมๆ แล้งๆ ว่าเขาจะกลับตัว จะขอให้นางอภัยให้เขา
ผลคือคนเขาเพียงแค่อยากให้นางลืม ไม่รู้สึกแม้แต่น้อยว่าตนเองได้ทำผิดไป หรือควรพูดว่าเขาไม่รู้เลยสักนิดว่านางกำลังเสียใจและผิดหวังเรื่องอะไร
ฉินโยวโยวเคยนึกว่าเหยียนตี้เข้าใจนางทุกอย่าง จนกระทั่งบัดนี้นางถึงเห็นอย่างกระจ่างแจ้งว่าอันที่จริงเขามิได้เข้าใจนางอย่างแท้จริง
เหยียนตี้เงียบไปชั่วครู่หนึ่ง เขาตัดสินใจไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคำไม่กี่คำที่ไม่มีความหมายอะไรนี้ เทียบกับชีวิตหวานล้ำที่จะได้ใกล้ชิดกับภรรยาตัวน้อยแล้ว ยอมนางเรื่องคำพูดสักหน่อยก็ไม่เป็นไร
“ข้าต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้เจ้ายกโทษให้ข้า” เขาเปลี่ยนวิธีพูดตามคำเตือน
“ท่านรู้สึกว่าท่านต้องการการให้อภัยหรือไม่” ฉินโยวโยวย้อนถาม สีหน้าจริงจังอย่างเห็นได้น้อยครั้ง นางอยากให้โอกาสทุกคนอีกครั้ง หากเหยียนตี้ยังทำให้นางผิดหวังเหมือนเดิม นางก็จะได้ถอดใจ
เหยียนตี้เองก็พบว่าเขาไม่เข้าใจความคิดของนางแล้ว จึงมองนางอย่างข้องใจอยู่บ้าง หวังว่านางจะพูดออกมาให้ชัดกว่านี้
“หากทุกอย่างได้ย้อนกลับไปใหม่ ท่านจะยังหลอกข้าอีกหรือไม่” ฉินโยวโยวถามด้วยรอยยิ้มฝืดฝืน “คงยังทำเช่นเดิมกระมัง แม้แต่หลังจากนี้ ขอเพียงท่านรู้สึกว่าจำเป็นก็จะยังหลอกข้าครั้งแล้วครั้งเล่า…ท่านไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำผิดอะไร แล้วไฉนต้องพูดเรื่องยกโทษไม่ยกโทษด้วย…ท่านเห็นข้าเป็นคนโง่ที่หลอกง่ายคนหนึ่ง ทำได้เพียงปล่อยให้ท่านจูงจมูกเดิน ต่อให้โกรธหรือเสียใจเพียงใด แค่ง้อสักหน่อยก็เป็นอันใช้ได้แล้ว…ถูกต้องหรือไม่”