เหยียนตี้ถูกคำถามติดกันเป็นชุดของฉินโยวโยวทำเอาเป็นใบ้พูดไม่ออก ผ่านไปชั่วครู่เขาถึงกล่าวเสียงเข้ม “โยวโยว สามีภรรยาเป็นหนึ่งเดียวกัน ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจความลำบากของข้า”
“สามีภรรยาเป็นหนึ่งเดียวกัน? ดังนั้นของของข้าจึงเป็นของของท่าน แต่ของของท่านยังคงเป็นของของท่านเช่นเดิม ดังนั้นข้าต้องเข้าใจความลำบากของท่าน แล้วท่านมองข้ามความคิดของข้าได้หรือ ท่านเห็นพวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ เพียงแต่ท่านคือผู้นำโดยแท้จริง ส่วนข้าเป็นแค่หนึ่งในสิ่งของที่อยู่ใต้อาณัติท่านเท่านั้น” ฉินโยวโยวพลันเปลี่ยนมาใช้ถ้อยคำบาดลึก เพียงไม่กี่คำก็ทำให้เหยียนตี้ไร้คำจะโต้ตอบได้อีกครั้ง
ฉินโยวโยวรู้สึกว่าตนเองช่างโง่เขลาสิ้นดี ป่านนี้เพิ่งจะมองเห็นเรื่องเหล่านี้อย่างชัดเจน เพิ่งจะยอมเผชิญหน้ากับความจริงนี้
เหยียนตี้ดีต่อนางอย่างที่สุดจริงๆ แต่ก็อยู่บนเงื่อนไขว่านางจำเป็นต้องเชื่อฟังเขา
หากนางมีความคิดแตกต่างไป เขาก็ไม่ถือสาที่จะใช้อุบายใดๆ มาทำให้นางยอมเปลี่ยนความคิดนั้น เพียงแต่เรื่องเหล่านี้ถูกอำพรางด้วยความอ่อนโยนรักใคร่ตามใจของเขา ทำให้นางเกิดภาพลวงตาว่าดีงาม ทำให้นางคิดว่าเขาโอนอ่อนผ่อนตามและเคารพให้ท้ายนางจริงๆ
ข้ามันโง่เขลาโดยแท้!
เหยียนตี้มองฉินโยวโยวเงียบๆ…ออกเรือนติดตามสามี เรื่องนี้มีอะไรไม่ถูกอย่างนั้นหรือ
พอถามตนเองก็ได้คำตอบว่าเขาดีต่อฉินโยวโยวอย่างยิ่งแล้ว ก่อนหน้านี้เขาร่วมมือกับพี่ชายหลอกลวงนาง ทำให้นางเสียใจวิตกกังวล หลังเกิดเรื่องเขาก็นึกเสียใจมากจริงๆ แต่เรื่องที่เขานึกเสียใจคือเรื่องทำให้นางทุกข์ทรมานใจ หาใช่เรื่องที่หลอกลวงนางไม่
หากมีวิธีที่ดีกว่านี้ที่จะทำให้นางไม่ต้องได้รับความตื่นตระหนก ไม่ต้องเสียใจจนซูบซีดเพียงนั้น เขาก็จะไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด
เขาอยากให้ภรรยาตัวน้อยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเขา อยู่กับเขาไปจนแก่เฒ่า นี่มิใช่เรื่องที่ดียิ่งหรือไร
ขอเพียงเขากำจัดคู่ต่อสู้อย่างสำนักเฟิ่งเสิน แคว้นตัวลี่ และเจียงหรูเลี่ยนแล้ว พวกเขาสองคนก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขเป็นอิสระ เขาไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะมีใครเป็นภัยต่อนางอีก ทั้งนางเองก็สามารถทำเรื่องที่นางชอบได้อย่างอิสระเช่นกัน นี่มิใช่เรื่องที่ดีต่อทั้งสองฝ่ายหรือไร
ฉินโยวโยวก้มหน้ามองนิ้วมือตนเอง ก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ตอนยังเล็กอาจารย์เคยเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ข้าฟัง…”
เอาอีกแล้ว! อาจารย์นางอีกแล้ว! เรื่องที่ตัวบัดซบนั่นเล่ามาล้วนมิใช่เรื่องดี!
เหยียนตี้อยากจะห้ามไม่ให้ฉินโยวโยวพูดต่อ แต่ครั้นคิดดูอีกทีก็อดใจไว้ไม่พูดอะไร
“อาจารย์เล่าว่า…กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีเด็กเลี้ยงแกะอยู่คนหนึ่ง ทุกวันเขาจะต้อนแกะไปเลี้ยงที่ทุ่งหญ้า ชีวิตผ่านไปอย่างน่าเบื่อหน่ายยิ่ง ด้วยเหตุนี้วันหนึ่งเขาจึงได้ความคิดว่าจะล้อทุกคนเล่นเอาสนุก เขาต้อนฝูงแกะมาถึงบนเนินเขาแล้วก็ร้องตะโกนขึ้นว่า ‘หมาป่ามา!’ คนเลี้ยงสัตว์คนอื่นถูกเขาทำเอาตกใจ ที่ต้อนฝูงแกะกลับบ้านก็ต้อนกลับบ้าน ที่ไปหยิบอาวุธก็ไปหยิบอาวุธ โกลาหลวุ่นวายไปหมด…