ทดลองอ่าน ร้อยพันหมื่นปีขอมีแค่เธอ บทที่ 3 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

With Love

ทดลองอ่าน ร้อยพันหมื่นปีขอมีแค่เธอ บทที่ 3

เยี่ยจื่อชิวซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ตระหนักได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับศิษย์พี่ที่จะทำงานหนักเพื่อหาเงินมาจุนเจือเลี้ยงดูครอบครัว และเพื่อทำให้เขารู้สึกวางใจ นางจึงเชื่อฟังมาโดยตลอด สิ่งของที่ไม่เข้าใจใช้ไม่เป็นก็ไม่แตะต้อง พยายามมุมานะที่จะเป็น ‘ภรรยาที่ดี’ ให้ศิษย์พี่พึงพอใจ

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง โม่เหยาก็กลับมา

“วันนี้ศิษย์พี่กลับค่อนข้างช้า ทำโอทีอีกหรือเจ้าคะ” เยี่ยจื่อชิวเข้าไปต้อนรับด้วยความยินดี อยู่ตัวคนเดียวทั้งวันค่อนข้างหดหู่ เวลานี้มีคนให้พูดคุยด้วย แน่นอนว่านางต้องดีใจ

“อืม ในบริษัทมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ” เมื่อโม่เหยาเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะที่โถงทางเข้าแล้วดวงตาก็กวาดมองทุกสิ่งที่เขาเห็นตามนิสัยปกติและถามอย่างทุกวันว่า “วันนี้ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นใช่ไหม”

“ไม่มีนะเจ้าคะ!” เยี่ยจื่อชิวเงยหน้าขึ้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เยี่ยจื่อไม่ได้ทำของเสียหายมานานมากแล้ว ต่อไปก็จะไม่ทำด้วย!”

“เด็กดี” โม่เหยาขยี้ผมที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบของเด็กสาวเป็นการชมเชย

“ฮี่ๆ” คนที่ได้รับการชมเชยจากศิษย์พี่ก็พลันฝันหวานไปไกล

โม่เหยาเข้าห้องไปเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านใส่สบายแล้วเข้าครัวเปิดตู้เย็นหยิบผักออกมาก่อนจะเอ่ยถามว่า “วันนี้ทั้งวันทำอะไรล่ะ”

“ดูละครทีวี” ตั้งแต่เยี่ยจื่อชิวรู้จักว่าโทรทัศน์เอาไว้ทำอะไรก็หลงใหลในการดูโทรทัศน์มาก นางชอบดูละครย้อนยุคและดูอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ

“ดูละครทีวีทั้งวัน ฉันไม่ได้บอกเหรอว่าให้เธอดูช่องที่เป็นการสอนวิทยาศาสตร์และข่าวให้มากๆ” โม่เหยาชำเลืองมองเด็กสาวอย่างไม่พอใจ

เยี่ยจื่อชิวเบะปากอย่างไร้เดียงสา “ละครทีวีสนุกนี่นา การสอนวิทยาศาสตร์กับข่าวเยี่ยจื่อดูแล้วอยากนอน”

“หึ”

ในขณะที่โม่เหยากำลังล้างผักหั่นผัก เยี่ยจื่อชิวก็มองดูอยู่ตรงประตูครัว พูดคุยกับเขาอย่างไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

คุยกันอยู่สักพักหนึ่งโม่เหยาก็นำผักที่หั่นเสร็จแล้วใส่ในกระทะแล้วเริ่มผัด ดวงตาเยี่ยจื่อชิวกลอกไปมา เอ่ยปากคุยกับเขาเรื่องละครทีวีที่ดูเมื่อกลางวัน

“ศิษย์พี่ ละครทีวีที่เยี่ยจื่อดูวันนี้นางเอกน่าสงสารเหลือเกิน”

หลังพูดจบนางก็กะพริบตาปริบๆ มองโม่เหยาด้วยความคาดหวัง อยากให้เขาเอ่ยถามสักประโยคว่า ‘น่าสงสารอย่างไร’ จากนั้นนางก็จะ ‘โยนอิฐล่อหยก’*

ดีดลูกคิดดังป๊อกแป๊ก ผลลัพธ์คือเขาไม่สนใจนาง…

“ศิษย์พี่ หญิงผู้นั้นน่าสงสารจริงๆ เยี่ยจื่อเห็นใจนางยิ่งนัก”

ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ยังไม่สนใจ

“ศิษย์พี่ หญิงผู้นั้นไม่เคยทำเรื่องผิดต่อฟ้าดินใดๆ ผลคือทุกคนต่างเยาะเย้ยนาง”

“…”

“ศิษย์พี่ หญิงผู้นั้น…”

โม่เหยาซึ่งถูกเสียงรบกวนสุดจะทานทน ในที่สุดก็เอ่ยถามอย่างหมดความอดทนตามที่ใครบางคนคาดหวัง “เธออยากพูดอะไรกันแน่”

เยี่ยจื่อชิวลอบยิ้ม และรีบหุบยิ้มก่อนแววตาแหลมคมของโม่เหยาจะกวาดมองมา นางกล่าวอย่างจริงจังว่า “เรื่องราวเป็นเช่นนี้ หญิงผู้นั้นตอนเด็กได้หมั้นหมายกับเด็กชายในหมู่บ้านเอาไว้”

ได้ยินคำว่า ‘หมั้นหมาย’ หนังตาของโม่เหยาก็กระตุก ลางสังหรณ์ที่ไม่เป็นมงคลจู่ๆ ก็พรั่งพรูขึ้นในใจ

“ทั้งสองคนเป็นสหายสมัยเด็กและมีใจให้กันเมื่อเติบใหญ่ ตอนฝ่ายชายอายุสิบหกเข้าเมืองหลวงสอบเป็นขุนนาง ก่อนจากไปให้หญิงสาวรอเขาสอบติดแล้วจะกลับมาสู่ขอนางแต่งงานอย่างเป็นหน้าเป็นตา หญิงสาวรับปาก ผลลัพธ์คือรอแล้วรอเล่า ตั้งแต่อายุสิบสี่รอมาตลอดจนอายุสิบแปด คู่หมั้นไม่เคยกลับมาอีกคล้ายสาบสูญไปจากโลกนี้ก็ไม่ปาน ต่อมาคนของครอบครัวฝั่งคู่หมั้นไปยังเมืองหลวงก็หาไม่พบ คนในพื้นที่และเพื่อนบ้านต่างเกลี้ยกล่อมหญิงสาวว่าอย่าได้รอเลย คู่หมั้นของนางเกรงว่าจะพบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด มิเช่นนั้นจะจากไปสี่ปีโดยไม่มีข่าวคราวได้อย่างไร

หญิงสาวไม่ฟัง ยังคงยืนหยัดรอต่อไป ผลคือรอจนกระทั่งอายุสิบเก้าปี หญิงสาวในหมู่บ้านที่อายุเท่ากับนางต่างเป็นมารดามีลูกสองสามคนแล้ว แม้แต่หญิงอ้วนรอยแผลเต็มหน้าที่ขี้เหร่ที่สุดในหมู่บ้านใกล้เคียงก็แต่งงานแล้ว เหลือเพียงนางคนเดียวยังไม่แต่งงาน ตอนแรกคนในหมู่บ้านยังเห็นใจในสิ่งที่นางพบเจอ แต่พอนานวันเข้าทุกคนต่างก็เริ่มหัวเราะเยาะว่านางเป็นหญิงทึนทึกขายไม่ออก เพราะถูกทุกคนเยาะเย้ย ครอบครัวหญิงสาวจึงไม่กล้าเงยหน้าเวลาออกจากบ้าน ส่วนนางไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกจากประตู ด้วยเหตุนี้พี่สะใภ้ น้องชาย น้องสาวจึงมีคำต่อว่าต่อขานไม่น้อย วันทั้งวันในบ้านมีแต่การทะเลาะกันเสียงดังเอะอะ เพราะว่าทุกข์จากความรู้สึกผิด หญิงสาวแทบจะรับผิดชอบงานในบ้านทั้งหมด เหน็ดเหนื่อยทำงานอย่างหนัก ผลคือหญิงสาวหน้าตางดงามที่คนเห็นแล้วชื่นชมก็เหน็ดเหนื่อยจนกลายเป็นหญิงขี้เหร่ใบหน้าเหลืองซูบผอม…”

เยี่ยจื่อชิวสาธยายถึงความน่าสงสารที่หญิงสาวพบเจออย่างทอดถอนใจ หลังจากพูดไปได้สักพัก ในที่สุดก็เล่าละครที่ดูไปเมื่อตอนกลางวันจบ ดวงตาคู่นั้นมองชายหนุ่มที่ไม่รู้ว่าได้ฟังเรื่องที่นางเล่าหรือเปล่าด้วยความคับแค้นใจ เริ่มแสดงอาการทอดถอนใจ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in With Love

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com