ฉู่จิ้งเฟิงถูกนางที่หลบไปมาใต้ผ้าห่มทรมานจนหมดความอดทนแล้ว จึงตัดสินใจอมยาคำโต จากนั้นพลิกเปิดผ้าห่ม ฉุดนางเข้ามาในอ้อมอกด้วยมือข้างเดียว จากนั้นก็ป้อนยาด้วยปาก ยึดปากเล็กของนางเอาไว้ กรอกน้ำยาขมเฝื่อนนั้นเข้าปากของนางไปจนหมด
ริมฝีปากที่เมื่อกลางวันยังหวานชื่นมีกลิ่นหอมจางๆ ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นขมเฝื่อนยากจะกลืน หลังจากหลี่รั่วอวี๋สมองเสื่อม นี่เป็นครั้งแรกที่นางใช้ริมฝีปากรับรู้ถึงความปลิ้นปล้อนของชายหนุ่ม
รอจนยาออกฤทธิ์ คนโง่งมนอนหลับสนิทไปในที่สุด ทว่าก็เป็นเวลาค่ำแล้ว
ฉู่จิ้งเฟิงเดิมทีคิดจะกลับห้องไปนอนพักผ่อน แต่กวนป้ากลับรีบร้อนมารายงาน
“นายท่าน เว่ยกงกงจากจวนสิ่งทอมาเยือนยามค่ำขอรับ”
ฉู่จิ้งเฟิงหัวเราะเย็นชาขึ้นทันที
ช่างมาเร็วเสียจริง!
เว่ยกงกงเป็นคนที่เก่งมากผู้หนึ่ง เดิมทีเขาเป็นคนสนิทของไป๋เฟยในวัง ภายหลังได้รับความไว้วางใจใช้งานจากพระมาตุลาไป๋ มาดูแลจัดการจวนสิ่งทอที่เจียงหนาน ตักตวงเงินทองให้สกุลไป๋ เป็นมือดีอันดับหนึ่งเลยทีเดียว คิดว่าคงเป็นเสิ่นหรูป๋อไปส่งข่าวให้เว่ยกงกง ทำให้รู้ว่าเขายึดสินค้าชุดนั้นเอาไว้แล้ว
เว่ยกงกงแม้จะตัดส่วนล่างนั้นไปแล้ว แต่พูดจาทำงานยังคงหมดจดปราดเปรียว หลังจากพูดทักทายฉู่จิ้งเฟิงไม่กี่ประโยคแล้ว ก็ใช้ความตรงไปตรงมาในตอนเจรจาการค้า ถามขึ้นตามตรงว่าต้องทำอย่างไรเขาจึงจะยอมปล่อยสินค้าไป
“ท่านซือหม่า ข้าน้อยรู้ว่าท่านหากไม่เห็นกระต่ายคงไม่ปล่อยเหยี่ยว จะให้ท่านปล่อยไปเสียเปล่า คิดว่าท่านคงไม่ทำแน่นอน ตอนนี้ท่านกับหยวนซู่คุมพื้นที่เฮยสุ่ยคนละส่วน สงครามบนแม่น้ำยากจะหลีกพ้น เรือรบที่กรมโยธาสร้างขึ้นมีคุณภาพดีเยี่ยม เทียบฝั่งได้เร็ว ถ้าซือหม่าต้องการ ข้าน้อยยินดีจะเป็นตัวตั้งตัวตีมอบภาพผังให้ซือหม่าดีหรือไม่”
ฉู่จิ้งเฟิงได้ฟังก็ยิ้มเย็นชา “เว่ยกงกงเป็นนักเจรจาที่เก่งจริงๆ รู้ว่าข้าต้องการอะไร แต่ว่า…เว่ยกงกงดูเหมือนจะประเมินความต้องการของข้าต่ำเกินไป แค่ภาพผังที่ไม่สมบูรณ์แผ่นหนึ่ง ก็คิดจะแลกกับสินค้าต้องห้ามหลายลำเรือนั้นหรือ คำนวณแล้วจะมองอย่างไรล้วนเป็นการค้าขายที่ข้าเสียเปรียบ!”
ความเคยชินของคุณหนูรองสกุลหลี่คือภาพผังการต่อเรือที่ส่งมอบให้อู่เรือล้วนไม่ใช่ภาพที่สมบูรณ์ ส่วนประกอบที่สำคัญในนั้นต้องให้อู่เรือสกุลหลี่เป็นคนสร้างให้เท่านั้น แม้จะเป็นการต่อเรือรบให้เขาก็ตามล้วนทำเช่นนี้ ภายหลังเพราะความสัมพันธ์กับสกุลหลี่เลวร้ายลง เรือรบหลายลำนั้นหลังจากสร้างเสร็จแล้ว แต่เพราะขาดชิ้นส่วนสำคัญไป ถึงตอนนี้จึงยังจอดไว้ในอู่เรือเหมือนเศษขยะ
เว่ยกงกงกลับยิ้มอย่างได้ใจ “ในจุดนี้ ฉู่ซือหม่าคงไม่รู้ ถึงแม้คุณหนูรองหลี่จะสมองเสื่อมไป แต่คนที่สืบทอดวิชามหัศจรรย์ของสกุลหลี่ไม่ได้มีเพียงนางแค่คนเดียว! ตอนนี้คุณหนูสามหลี่ยอมออกหน้า วาดภาพผังแผ่นใหม่ออกมาแล้ว อีกไม่กี่วันเรือใหม่ก็สามารถลงน้ำลองล่องดูได้แล้ว ฉู่ซือหม่า ท่านคงไม่ยินดีจะให้เรือรบหลายลำในอู่เรือของตนเองกลายเป็นเศษขยะไปตลอดกระมัง ขอเพียงท่านพยักหน้า เรือรบหลายลำนั้นก็สามารถฟื้นจากความตายได้แล้ว”
เห็นฉู่จิ้งเฟิงยังคงมีท่าทางไม่เชื่อ เว่ยกงกงจึงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “อีกสองสามวัน จะมีคนส่งเรือจำลองย่อส่วนมาให้ท่าน จริงหรือเท็จท่านแค่ดูก็จะรู้ เรือรบที่คุณหนูสามหลี่ออกแบบเองจะเปิดเผยเป็นครั้งแรกในงานแข่งต่อเรือในอีกสามเดือนข้างหน้า หลังจากผู้สืบทอดคนใหม่สกุลหลี่ผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว เกรงแต่ว่าแม้เรือลำเดียวก็ยากจะขอได้ ท่านซือหม่าไม่รีบฉวยโอกาสเอาไว้ คงจะพลาดโอกาสใช้งานเรือรบนี้ไปเสียแล้ว”
ฉู่จิ้งเฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางหัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้น “เช่นนั้นข้าจะคอยเรือจำลองที่เว่ยกงกงจะส่งมาเพื่อเห็นเป็นขวัญตา”
ตอนเว่ยกงกงจะกลับไปก็เอ่ยปากพูดต่อว่า “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คุณหนูรองหลี่ตอนนี้กลายเป็นคนสมองเสื่อมรักษาไม่ได้แล้ว หวังว่าท่านซือหม่าจะใจกว้าง ปล่อยนางกลับคฤหาสน์ไปเถอะ อีกสิบวัน นางก็จะแต่งงานกับคุณชายรองเสิ่นแล้ว ท่านคุมตัวนางไว้เช่นนี้ หากมีข่าวลือออกไปคงไม่ดีไม่ใช่หรือ”
ฉู่จิ้งเฟิงเบ้มุมปาก ไม่ได้ตอบกลับและไม่ได้ปฏิเสธ