เด็กหนุ่มเด็กสาวในวัยแรกรุ่นอันงดงามเมื่อตกมาอยู่ใต้เงื้อมมือของโจรที่ไม่ว่าความชั่วใดๆ ล้วนกระทำและฆ่าคนไม่กะพริบตาเช่นนี้ จะต้องพบเจอกับการปฏิบัติเช่นไร อีกทั้งยังถูกลักพาตัวมาเป็นเวลานานเช่นนี้ สถานการณ์จะเลวร้ายถึงเพียงใด ย่อมไม่จำเป็นต้องขบคิดให้มากความ
เขาเพียงเอ่ยถาม ‘มีที่ยังรอดชีวิตหรือไม่’
นายทหารหายใจเข้าลึกๆ ‘ยี่สิบร่าง…เป็นศพที่ไม่สมบูรณ์’
เจียงหุยเสวี่ยหลังสั่นสะท้าน พลันความเหน็บหนาวแทรกซึมไปทั่วแขนขาและกระดูก
เด็กหนุ่มเด็กสาวทั้งยี่สิบคนนั้น นางเคยพบพานบนภูเขาซวงอิง…
นางเคยสบสายตากับพวกเขา เป็นดวงตาที่ว่างเปล่าไร้ประกาย สิ้นหวังจนทำให้เท้าของนางเหน็บหนาวราวกับว่าสักวันหนึ่งนางจะต้องกลายเป็นอย่างพวกเขา…แต่มาวันนี้ ทั้งยี่สิบชีวิตล้วนจบลง ไม่หลงเหลือผู้รอดชีวิต อีกทั้งยังถูกคนพวกนั้นเล่นงานจนกลายเป็นศพที่ไม่สมบูรณ์…
นางหลับตาลงด้วยความยากที่จะสะกดกลั้น เสียงร้องครวญอย่างขมขื่นหลุดออกมาจากลำคอ
ทันใดนั้นก็มีวัตถุหนึ่งตกลงบนหัวไหล่อันสั่นเทาของนาง ความอบอุ่นปกคลุมทั่วกาย ทำให้นางช้อนตาขึ้นโดยพลัน
ไม่รู้ว่าบุรุษผู้นั้นคุยธุระกับนายทหารเสร็จตั้งแต่เมื่อใด ตอนนี้เขาย่อลงมานั่งชันเข่าอยู่ตรงหน้านาง
นางมองเห็นใบหน้าที่มีเค้าโครงอันเด็ดเดี่ยวประดุจรูปสลักของเขา เห็นเขาส่งยิ้มอย่างอบอุ่นให้นางที่ผมเผ้ารกรุงรังและกำลังรู้สึกกระดากอย่างยิ่งยวด สองข้างแก้มเขาห้อยลงเล็กน้อย นางมองดูสองตาอันลึกล้ำมีประกายภายใต้คิ้วที่หนาคมดั่งมีดดาบของเขา นางมองเห็นความซื่อตรงเที่ยงธรรมและเปี่ยมความเมตตาในนั้น
‘แม่นางหมดสิ้นหนทางหนี สุดท้ายจึงพาน้องสาวกระโดดลงมาในแม่น้ำเชี่ยว เพื่อที่จะได้หนีลงมาตามสายน้ำใช่หรือไม่’
เขาเห็นนางเป็นพวกเดียวกับกลุ่มเด็กหนุ่มเด็กสาวยี่สิบคนที่กลายเป็นศพไม่สมบูรณ์
แต่จะว่าไปแล้วก็ไม่ผิด
เขากล่าวได้ไม่ผิด
นางหลุบตาลงและพยักหน้าอย่างแข็งขัน กระชับเสื้อคลุมตัวหนาที่เขาเพิ่งนำมาห่มให้นางแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ห่อหุ้มร่างเล็กที่เสื้อผ้าปกปิดไม่มิดและสองขาเปลือยเปล่าเอาไว้อย่างแน่นหนา
‘ข้าน้อยแซ่เมิ่ง เป็นคนจากเมืองหลวงของเทียนเฉา มายังที่นี่ในวันนี้เพื่อจับกุมตัวโจรที่มายึดเส้นทางบนภูเขาซวงอิง’ ราวกับว่าไม่อยากทำให้นางตกใจกลัวอีก เขาจึงไม่ได้แตะต้องตัวนาง ทั้งไม่ได้เข้าใกล้แม้สักครึ่งก้าว น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่อบอุ่นเอ่ยขึ้น ‘นอกจากทหารท้องถิ่นแล้ว ชนเผ่าในละแวกใกล้เคียงก็ส่งมือดีมาช่วยอีกแรง มีทั้งที่เป็นบุรุษและสตรี ผู้แซ่เมิ่งจะขอให้ท่านป้าท่านหนึ่งที่ติดตามมาช่วยดูแลพวกเจ้าสองพี่น้องไปก่อนดีหรือไม่’ ราวกับว่าดูออกถึงความสับสนของนาง เขาชะงักไป ก่อนจะเอ่ยปากขึ้น…
‘แม่นางดูแล้วเหมือนจะไม่ได้รับอันตราย แต่ว่าน้องสาวตัวน้อยในอ้อมกอดของเจ้าจำเป็นต้องได้รับการตรวจอย่างละเอียด อีกทั้งพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น น้ำแข็งและเกล็ดน้ำค้างจะเริ่มจับตัวบนภูเขาซวงอิงแห่งนี้ พวกเจ้าสองพี่น้องเนื้อตัวเปียกปอน จะไม่เสาะหาสถานที่อบอุ่นพักค้างแรมได้อย่างไร’
…ได้อย่างไรหรือ
จริงสินะ ตั้งแต่กระโดดลงมาจากผาอิงจุ่ย นางเพียงคิดแต่จะกระโดดหนีจากกรงขังแห่งนั้น มาตอนนี้ได้กระโดดลงมาแล้ว ยังต้องขบคิดหาหนทางรอดชีวิตต่อไป ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป จะกระโดดสำเร็จแล้วมาแข็งตายภายหลังไม่ได้
หากนางเอาชีวิตมาทิ้งไว้เช่นนั้นจริง นางคงไม่มีทางไปสู้หน้าวิญญาณของคนใกล้ตัวที่อยู่บนสวรรค์ได้
สุดท้ายนางก็เลียริมฝีปาก ส่งเสียงหลังจากเงียบมานาน พูดกับชายหนุ่มแซ่เมิ่งท่านนี้…
‘ใต้เท้า…ช่วยด้วย…’