ทดลองอ่าน สตรีอ่อนโยนล้วนแฝงพิษร้าย บทที่ 3 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สตรีอ่อนโยนล้วนแฝงพิษร้าย บทที่ 3

จากนั้นนางก็เห็นริมฝีปากเขาเผยอออกช้าๆ ได้ยินเสียงสุภาพราบเรียบของเขาพูดว่า… “ไม่ได้มาเพราะเหตุอื่น ข้ามาเพราะโจ๊กชามหนึ่งจริงๆ”

แก้วหูนางสั่นสะท้าน ห้องหัวใจก็สั่นสะท้าน ได้ยินเขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปลี่ยนแปลง…

“ข้าเป็นบุรุษผู้หนึ่ง ไปรอกินโจ๊กที่ครัวเล็กทุกวันตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง สร้างความสับสนให้แม่นางแล้วจริงๆ และเรื่องที่ท่านยายเฉียวชอบผูกสานวาสนาให้ผู้อื่น ทุกคนในตรอกซงเซียงล้วนทราบดี หากยายเฒ่าจะคิดเช่นนั้นก็ไม่แปลก แต่ว่าผู้แซ่เมิ่งกลับไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น ข้าย่อมไม่…ไม่ได้…” ริมฝีปากดุจขุนเขาเม้มเข้าหากัน พูดขึ้นอย่างใคร่ครวญ “อืม…ย่อมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยต่อแม่นาง ความรู้สึกที่ผู้แซ่เมิ่งมีต่อแม่นางนั้น ไม่ใช่ความรู้สึกระหว่างบุรุษและสตรี ข้ามาเพื่อโจ๊กชามเดียวไม่มีสิ่งใดแอบแฝง”

เจียงหุยเสวี่ยรู้สึกเหมือนไฟที่พลุ่งพล่านใต้ผิวพุ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุดบนศีรษะ ทำให้ศีรษะของนางพองโต นัยน์ตาปวดแปลบ ราวกับได้รับการตบแรงๆ หลายฝ่ามือจนเสียงดังอื้ออึงอยู่ในหู ทั่วทั้งใบหน้าร้อนรุ่มไปหมด

มาถึงตอนนี้ นางค่อยรับรู้ถึงความในใจที่แท้จริงของตนเองเสียที

หลังจากการเลอะเลือนในครั้งนี้ นางรู้แล้วว่าใจตนเองโอบอุ้มความคาดหวังรอคอย คาดหวังอย่างลับๆ ว่าจะได้ยินคำตอบที่ต่างออกไปจากปากของเขา

และก็เป็นตอนนี้อีกเช่นกัน นางค่อยเข้าใจว่าโดยที่นางไม่ทันรู้ตัว…นางก็เห็นตนเองเป็นเช่นหญิงสาวธรรมดาสามัญคนหนึ่ง

ไม่มีใครไม่อยากเป็นที่ชื่นชอบ เอาใจใส่ มองด้วยสายตาที่ชื่นชม แต่อารมณ์ความรู้สึกคลั่งแค้นในรักและโศกเศร้าเสียใจ ยังคงเป็นสิ่งที่มากเกินจำเป็นสำหรับเจียงหุยเสวี่ย

นางนั้นรู้อยู่แก่ใจว่าตนมีเรื่องให้กลัดกลุ้มมากพอแล้ว จะเอาปัญญาจากที่ไหนไปคิดเรื่องหาความสำราญใส่ตัวและกำกวมไม่ชัดเจนเช่นเรื่องระหว่างบุรุษกับสตรี

เมิ่งอวิ๋นเจิงกล่าวอย่างไม่ปิดบังและตรงไปตรงมา บอกให้ทราบอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับนางเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว

ไม่ว่านางจะอายแทบทนไม่ได้ รู้สึกทั่วทั้งร่างร้อนผ่าวและเหน็บหนาวไขสันหลังเพียงใด แต่ก็คิดว่าทำให้นางรู้สึกเข็ดหลาบเช่นนี้ ยังดีกว่าเป็นเช่นอื่น

เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วก็ดี

“อย่างนั้น…ข้าทราบแล้ว” นางสูดหายใจเข้าลึกๆ ความร้อนระอุในดวงตาเอ่อขึ้นอย่างไม่อาจสะกดกลั้น นางยิ่งต้องฝืนอดทนเอาไว้ แม้แต่ริมฝีปากยังคลี่ออกเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนแสนจืดจาง “นึกไม่ถึงเลยว่าท่านเมิ่งจะชื่นชมโจ๊กขาวห้าสหายที่ข้าทำถึงเพียงนี้ ข้าจะคงรสชาติเอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ทำให้ความชื่นชมของพวกลูกค้าเสียเปล่าแน่”

นางยิ้มขึ้นอีกครั้ง ไม่รอให้เขาตอบคำก็ย่อเข่าลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความคารวะ แล้วหมุนกายมุ่งไปหาพวกเด็กๆ

แต่แล้ว…

“แม่นางเจียง ผู้แซ่เมิ่งไปเยือนทุกวันเพราะโจ๊กหนึ่งชาม หรือพูดอีกอย่างก็คือเพราะเจ้า”

อะไรนะ

นางชะงักฝีเท้าทันที แต่เพราะหยุดอย่างกะทันหัน ร่างกายครึ่งท่อนบนจึงส่ายโงนเงนเล็กน้อย

ทันใดนั้น นางก็หันกลับไป ชายที่เล่นงานนางกลับแบบไม่ทันให้ตั้งตัวยังคงท่าทีสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง นอกเสียจากแววตามีเงื่อนงำชวนให้คนขบคิด

ที่แท้เขาหมายความว่าอย่างไร เขาทำให้นางสับสนไปหมดแล้ว!

อาจเป็นเพราะสีหน้าที่ดวงตาของนางเบิกกว้างและจ้องมองโดยไม่กะพริบบ่งบอกถึงความตื่นตระหนกในใจอย่างเด่นชัด ไม่รอให้นางเอ่ยปากถาม เขาก็พูดขึ้น “สมัยเด็กข้าตัวผอมแคระแกร็น ป่วยเป็นโรคกระเพาะและลำไส้ง่าย มักจะไม่ค่อยอยากอาหาร ตอนที่มารดาข้ายังมีชีวิตอยู่ นางมักจะทำโจ๊กสมุนไพรเพื่อปรับสภาพร่างกายให้ข้า” มุมปากที่หนาและแข็งแรงเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนลงและแฝงความโศกเศร้า “บิดาล้มป่วยและด่วนจากไป มารดาจึงเลี้ยงดูข้าจนเติบใหญ่เพียงลำพัง บ้านในตรอกซงเซียงนั้นยากจนข้นแค้นถึงขั้นขัดสน ตอนนั้นเพื่อซื้อสมุนไพรมาทำโจ๊กบำรุงร่างกายให้ข้า มารดาข้าซักผ้าซ่อมแซมเสื้อให้ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นงานเหนื่อยยากเพียงใดก็ยอมทำ…”

เจียงหุยเสวี่ยคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินอะไรเช่นนี้ ดวงตาที่จับจ้องแน่วแน่ของนางในที่สุดก็สั่นไหว “…นั่นเป็นเพราะมารดาท่านรักใคร่ทะนุถนอมท่าน นางรักท่านยิ่ง”

“ใช่” เขาพยักหน้า รอยยิ้มขรึมลง “นางเป็นเช่นนั้น”

เจียงหุยเสวี่ยพลอยพยักหน้าตาม เดิมนางคิดจะถามเรื่องสมัยเด็กของเขา ดวงตาดุจมุกของนางพลันชะงักไปราวกับนึกอะไรบางอย่างได้ “ท่านเมิ่ง…” นางหันกลับไปมองหน้าเขา “เมื่อครู่ท่านเพิ่งพูดว่า…บ้านในตรอกซงเซียงนั้นยากจนข้นแค้น แสดงว่าสมัยเด็กท่านเคยอาศัยอยู่ที่นี่?”

ใบหน้าที่มีเค้าโครงชัดเจนของบุรุษฉายแววประหลาด แต่ก็ยังพยักหน้ารับคำ “ใช่”

“ท่านเคยอยู่ที่นี่…ที่แท้เป็นเช่นนี้ ฉะนั้นท่านถึงได้เข้ากับพวกเด็กๆ ที่ท่านชี้แนะวิชาการต่อสู้ได้ดี เพราะท่านก็เติบโตมาในตรอกซงเซียงเช่นกัน…” นางพูดกึ่งอุทานกึ่งถาม มองไปทางกลุ่มเงาร่างเล็กๆ มีชีวิตชีวาเปี่ยมพลังที่อยู่ร่วมกับโม่เอ๋อร์

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com