เด็กหญิงดวงตาเป็นประกายขึ้นมาในพริบตา นางฉีกมุมปากแย้มยิ้ม รับถังหูลู่มาอย่างดีอกดีใจ
สตรีผู้นั้นมองนางแวบหนึ่ง สายตาแลดูแปลกพิกล จากนั้นก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะเด็กหญิงด้วยท่าทางค่อนข้างแข็งทื่อ “แม่จะไปซื้อข้าวสาร เจ้ารออยู่ตรงนี้นะ”
เด็กหญิงถือถังหูลู่ไว้พลางพยักหน้าตอบอย่างเชื่อฟัง สายตามองส่งสตรีผู้นั้นเดินจากไปแล้วก้มศีรษะลงนับถังหูลู่ในมืออย่างมีความสุข บนไม้เหลาเรียวบางเสียบผลซานจา* เคลือบน้ำตาลทั้งหมดแปดลูก
ท่านพ่อสองลูก ท่านแม่สองลูก น้องชายสองลูก ข้าก็ได้กินสองลูก!
เด็กหญิงกินไปลูกหนึ่งอย่างเริงร่า รออยู่นานสองนานก็ไม่เห็นมารดากลับมา นางอดใจไม่ไหวกินไปอีกหนึ่งลูกแล้วนับจำนวนผลซานจาซ้ำๆ ยังเหลือหกลูก…อืม น้องชายยังเล็ก บางทีคงกินถังหูลู่มากเกินไปไม่ได้ เด็กหญิงจึงกินเพิ่มอีกลูกหนึ่ง
แต่เพราะเหตุใดท่านแม่ถึงยังไม่กลับมานะ…
เด็กหญิงมองถังหูลู่ที่เหลือแล้วกลืนน้ำลายไปพลางมองทางแยกบนถนน
…มองจนกระทั่งฟ้ามืด
ในมือเด็กหญิงถือถังหูลู่ที่เหลืออยู่ห้าลูกเอาไว้ ยังคงเฝ้ารอตาปริบๆ
เมื่อจ้าวฉงอีตื่นขึ้นมาจากความฝัน นางเหม่อลอยไปพักหนึ่ง ราวกับว่ายังมีความรู้สึกตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูกของเด็กหญิงในความฝันผู้นั้นหลงเหลืออยู่…ความตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกพวกนั้นคล้ายจะเป็นเรื่องราวในชาติก่อนไปแล้ว นับตั้งแต่มาถึงค่ายลั่วเยี่ยนนางก็ไม่เคยหวนคิดถึงอดีตอีกเลย แล้วยังไม่เคยฝันเห็นอะไรเช่นนี้ด้วย เพราะบิดาบุญธรรมบอกว่าแม้นางจะมีพรสวรรค์ในการเรียนรู้วรยุทธ์ แต่นับว่าเริ่มต้นเรียนช้าไป จึงเคี่ยวกรำนางเป็นพิเศษ ทุกวันพอลืมตาขึ้นมาก็ฝึกวิชา ต่อเนื่องไปจนกระทั่งเหนื่อยสายตัวแทบขาด การนอนหลับก็ไม่ต่างอะไรกับการสลบไสล ฝันรึ? ไม่เคยเลยสักครั้ง
จากคำกล่าวของบิดาบุญธรรม หากยังมีเรี่ยวแรงไปฝันได้ แสดงว่ายังฝึกฝนไม่เข้มงวดพอ
ช่วงนี้ว่างมากเกินไปจริงๆ สินะ…
ตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำ ภายในห้องจึงมืดสลัวอยู่บ้าง จ้าวฉงอีส่ายหน้าแล้วจับขอบเตียงพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ค่อยๆ ก้าวลงจากเตียง นางก้มมองชุดนอนบนร่างของตน จากนั้นก็ไปหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งจากตู้มาผลัดเปลี่ยน ถึงได้ผลักประตูเดินออกจากห้อง
พอก้าวพ้นประตูก็พบกับลานบ้าน แม้จะไม่กว้างขวางนักแต่เก็บกวาดเป็นระเบียบเรียบร้อย จ้าวฉงอีเดินออกจากลานบ้านก็ยังคงมองไม่เห็นใครอยู่ดี นางอดแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้
ขณะกำลังครุ่นคิด ด้านหน้าพลันมีเสียงคนดังลอยมา
“คนผู้นี้บาดเจ็บสาหัสเกินไปแล้ว ท่านหมอซู ท่านรีบมาดูหน่อยว่ายังช่วยได้หรือไม่!” มีคนตะโกนเสียงดังลั่น
ถัดมาจึงเป็นเสียงคนจ้อกแจ้กจอแจระลอกหนึ่ง