“นางพูดโกหก! นางไม่ได้กลับห้องทั้งคืนเลยต่างหาก!” ซูปั้นซย่าค่อยๆ ตั้งสติได้ก็ตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความโกรธ
จ้าวฉงอีกะพริบตาปริบๆ ปั้นสีหน้าประหลาดใจ “ข้าเพิ่งไปห้องครัวหายายเฒ่าเฝิงมานะ เจ้ายังกินเกาลัดคั่วน้ำตาลที่ข้านำกลับมาด้วยเลยไม่ใช่หรือ”
“แล้ว…แล้วอย่างไรเล่า อย่างไรท่านก็ไม่ได้อยู่ที่ห้องทั้งคืนอยู่ดี! ท่านแม่ ข้าพูดความจริงนะ!” ซูปั้นซย่าหันกลับไปมองท่านแม่ซู กล่าวฟ้องอย่างขุ่นเคือง “เมื่อคืนนี้ข้ามาหานางแล้ว นางไม่อยู่ในห้อง!”
“เมื่อวานหลังอาหารเย็นท่านแม่ให้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้าไม่ใช่หรือ ผลสุดท้ายข้าหันหน้าไปเจ้าก็หายวับไม่เห็นเงาแล้ว ชั่วขณะนั้นข้านอนไม่หลับจึงไปเรือนหน้าดูว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ ถึงได้ไม่อยู่ในห้องน่ะสิ เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ” จ้าวฉงอีแอบเอาคืนอีกฝ่ายอย่างแนบเนียน
นางไม่ใช่คนมุทะลุที่มันสมองเรียบง่ายพัฒนาแต่แขนขาพรรค์นั้น ตำราพิชัยสงครามก็เคยอ่านมาไม่น้อยเช่นกัน จะใช้ต่อกรกับเด็กเกเรไร้ความคิดลึกซึ้ง ถือว่ามีกำลังเหลือเฟือ
ซูปั้นซย่าโกรธจนตาแทบถลน นึกไม่ถึงว่าสตรีผู้นี้จะรอฟ้องนางอยู่ ขณะกำลังโมโหเดือดดาล จู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงไอสังหารที่ส่งมาจากด้านข้าง นางหันหน้ากลับไปอย่างอกสั่นขวัญแขวนก็เห็นดวงตาเปี่ยมด้วยโทสะของท่านแม่ซู
“ซูปั้นซย่า! เจ้าบอกว่าจะขอลาหยุดมาดูแลพี่สาว ข้ารับปากแล้ว แต่เจ้าดูแลพี่สาวตนเองเช่นนี้น่ะหรือ! ได้ ไม่ไปสำนักศึกษาใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องไปแล้ว ไสหัวกลับห้องไปปิดประตูสำนึกผิดเสีย!” ท่านแม่ซูบิดหูซูปั้นซย่าเดินจากไปอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะไปยังไม่ลืมหันมากำชับประโยคหนึ่ง “เสี่ยวหม่าน เจ้ากลับห้องพักผ่อนสักหน่อยนะ ข้าไปเอากล่องยาก่อน อีกประเดี๋ยวจะมาเปลี่ยนยาให้”
จ้าวฉงอีขานรับอย่างเชื่อฟัง สายตามองส่งท่านแม่ซูลากตัวซูปั้นซย่าที่ร้องห่มร้องไห้จากไป ขณะซูปั้นซย่าสะอื้นคร่ำครวญก็ยังไม่ลืมหันมาถลึงตาใส่นางอย่างแค้นเคือง
จ้าวฉงอียิ้มตาหยีพร้อมโบกไม้โบกมือให้อีกฝ่าย เก็บซ่อนตัวตนหลังเอาคืนสำเร็จ
ซูปั้นซย่าร้องไห้เสียงดังลั่นกว่าเดิมทันใด…
จ้าวฉงอีได้ยินแล้วก็ขบคิดอย่างพึงพอใจว่าเด็กเกเรก็แค่ต้องอบรมสั่งสอนให้ดี
เพียงแต่พอนึกถึงซูเสี่ยวหม่านที่ไม่รู้เป็นหรือตายและไร้ร่องรอยแน่ชัด หัวใจจ้าวฉงอีก็หนักอึ้งขึ้นมาเล็กน้อย…ยังมีเบาะแสเหล่านั้นเกี่ยวกับแคว้นหนานเซียงที่ค้นพบบนภูเขา ทำให้ในใจนางผุดการคาดคะเนอย่างหนึ่งขึ้นมารางๆ
การหายตัวไปของซูเสี่ยวหม่านจะเกี่ยวข้องกับแคว้นหนานเซียงหรือไม่
แน่นอนว่าเงื่อนไขข้อแรกคือ…ต้องยืนยันว่าซูเสี่ยวหม่านยังมีชีวิตอยู่
สกุลซูไม่มีท่าทีผิดปกติกับตัวปลอมอย่างนางเลยสักนิด เช่นนั้นก็แน่ใจได้ว่ายังไม่พบตัวซูเสี่ยวหม่าน เจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นที่ขึ้นเขามาเมื่อคืนคงจะไปเก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุ…
จ้าวฉงอีแหงนมองท้องฟ้า ตัดสินใจว่าเอาไว้จะหาโอกาสไปที่ว่าการดูสักหน่อย ตอนนี้ยังเร็วเกินไป อาจจะสืบไม่พบอะไรก็ได้
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 18 ก.ย. 68