หลังกินอาหารกลางวันแล้วจ้าวฉงอีกำลังวางแผนจะหาข้ออ้างไปที่ว่าการดูหน่อยก็เห็นซูเจ๋อหลันเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก นางนึกขึ้นได้ว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่ในที่ว่าการมากทีเดียว จึงร้องเรียกเขาไว้
“พี่ใหญ่”
เทียบกับการเรียกท่านพ่อท่านแม่ การเรียกว่าพี่ใหญ่กลับไม่มีแรงกดดันในใจ ในอดีตตอนอยู่ค่ายลั่วเยี่ยนคนที่นางเคยเรียกว่าพี่ใหญ่ก็มีไม่น้อย เพียงแต่ภายหลังฝีมือนางเก่งกาจรุดหน้า เจ้าพวกนั้นจึงไม่กล้าเกลี้ยกล่อมนางให้เรียกว่าพี่ใหญ่แล้ว
ต่อมานางกลายเป็นหัวหน้าใหญ่และแม่ทัพใหญ่ ผู้ที่กล้าเป็นพี่ใหญ่ของนางยิ่งมีน้อยนิด
ไร้คู่ต่อกรก็เงียบเหงาเช่นนี้
ซูเจ๋อหลันหันกลับมาก็เห็นจ้าวฉงอีที่ยืนอยู่ในลานบ้าน เขารีบสาวเท้าเดินเข้ามาหา “เหตุใดไม่นอนพักผ่อนดีๆ ลุกขึ้นมาทำอะไร”
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่จ้าวฉงอีได้รับบาดเจ็บเพียงแค่นี้ก็ถูกคนมากมายกดดันให้นอนพักผ่อน นางไม่ชินเอาเสียเลย เมื่อก่อนเวลาอยู่ในสนามรบนางถูกคนลอบโจมตี แผ่นหลังรับดาบไปหนึ่งแผล หากมิใช่เพราะนางหลบได้ว่องไวคงถูกฟันร่างขาดเป็นสองส่วนแล้ว แน่นอนว่าถึงแม้จะโชคดีหลบไปได้พอสมควร แต่ก็ได้รับบาดเจ็บไม่เบา ถัดมาไม่กี่วันก็ยังต้องเข้าสู่สนามรบอย่างฮึกเหิมห้าวหาญ…จึงทำให้เสี่ยวจิ่วตามด่าทอนางเสียยกใหญ่
ตอนนี้บาดแผลแค่นี้จะหนักหนาสักเท่าไรกันเชียว
“ท่านแม่เรียกข้าลุกขึ้นมากินข้าว ข้าเพิ่งกินอิ่มมา” จ้าวฉงอีตอบไปสองประโยคก็ถามต่อโดยไม่รอเขาเอ่ยปาก “พี่ใหญ่ นี่ท่านจะไปที่ใดหรือ”
“เมื่อวานหัวหน้ามือปราบหลี่ส่งคนเจ็บมาคนหนึ่ง ท่านพ่อบอกว่าเขาสูญเสียความทรงจำแล้ว ข้าจะไปที่ว่าการดูว่ามีเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่ ถือโอกาสบอกหัวหน้ามือปราบหลี่เรื่องคนผู้นั้นสูญเสียความทรงจำด้วยเลย” ซูเจ๋อหลันตอบ
“ข้าไปกับท่านแล้วกัน” จ้าวฉงอีกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกาย
“เหลวไหล ร่างกายเจ้ายังบาดเจ็บไม่หาย ไปวิ่งเพ่นพ่านเพื่อการใด” ซูเจ๋อหลันกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย
“ข้าก็เป็นคนถามจนรู้เรื่องคุณชายผู้นั้นสูญเสียความทรงจำนะ” จ้าวฉงอีตอบอย่างไม่ยินยอม “ข้าเข้าใจสภาพของเขาค่อนข้างแน่ชัด พาข้าไปด้วยคนเถอะ”
ซูเจ๋อหลันขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด คิดถึงสิ่งที่บิดาสั่งกำชับและเป็นกังวล “เสี่ยวหม่าน คนผู้นั้นที่มาไม่แน่ชัด ทั้งยังสูญเสียความทรงจำอีก ยังไม่รู้เลยว่าที่บ้านเขามีภรรยาแล้วหรือไม่…”
จ้าวฉงอีฟังความนัยแอบแฝงของเขาไม่ออก นางมีสีหน้างุนงง “เพราะอย่างนั้นถึงต้องไปที่ว่าการสอบถามดูว่ามีเบาะแสอะไรหรือไม่น่ะสิ”
ชาติกำเนิดของคุณชายผู้นั้นเป็นเช่นไรก็แค่ผลพลอยได้อยู่แล้ว เหตุผลหลักๆ คือนางอยากไปดูว่าเมื่อคืนเจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นพบเบาะแสบ้างหรือไม่ แล้วก็…ตามหาซูเสี่ยวหม่านเจอหรือยัง