“ต้องเป็นเด็กดีกินยาถึงจะหายสนิทนะ ไม่กินยาครั้งหนึ่งก็จะหายช้าไปวันหนึ่ง!”
กู้เจี้ยนหลีอดรนทนไม่ไหวกอดแม่หนูน้อยตัวหอมไว้ในอ้อมกอดแน่น
“ได้ หลันหลันก็กินยาไปพร้อมข้า ต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟังนะ”
“อื้ม!” จีซิงหลันพยักหน้าอย่างแรง “หลันหลันเป็นเด็กดีมาตลอดเลย!”
กู้เจี้ยนหลียิ้มพลางลูบหน้าผากจีซิงหลันอย่างอ่อนโยน เด็กน้อยยังคงมีไข้อีกนิดหน่อย กู้เจี้ยนหลีจึงถามว่า “หลันหลันหนาวหรือไม่ รีบหลบเข้าไปในกองผ้าห่มเร็วเข้า”
“ไม่หนาวๆ!” จีซิงหลันส่ายหน้ารัว “ท่านป้าอวิ๋นเยวี่ยใส่เตาอุ่นมือไว้ในผ้าห่มให้หลันหลัน ทั้งยังทำเสื้อบุนวมอุ่นๆ ให้ด้วย ไม่หนาวเลยสักนิด”
เด็กน้อยว่าพลางดึงชายเสื้อให้กู้เจี้ยนหลีดูเสื้อบุนวมบนตัวราวกับกำลังอวด
กู้เจี้ยนหลีลองคลำดู ฝีเข็มบนเสื้อบุนวมสีแดงอ่อนเป็นระเบียบ ฝ้ายที่ยัดไว้ภายในก็มีมากพอ แค่ดูก็รู้ว่าทำขึ้นอย่างใส่ใจ นางจึงพยักหน้าน้อยๆ
“ไม่หนาวก็ดีแล้ว หากหนาวหรือไม่สบายตัวต้องบอกนะ”
ยามพูดกับจีซิงหลันน้ำเสียงของกู้เจี้ยนหลีมักจะอ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัว ถึงขั้นติดสำเนียงนุ่มนิ่มแบบเด็กๆ มาด้วยไม่น้อย
จีซิงหลันกะพริบตาปริบๆ เอียงคอมองกู้เจี้ยนหลีครู่หนึ่งด้วยสายตาแปลกประหลาด
เด็กน้อยคล้ายจะเอ่ยปากพูดแต่ก็ไม่ยอมพูด อดกลั้นจนหน้าแดง นางรอให้กู้เจี้ยนหลีเริ่มถามก่อน แต่รอสักพักอีกฝ่ายกลับไม่ยอมถาม นางจึงจำต้องเอ่ยขึ้นเองอย่างตะกุกตะกัก
“ข้า…ข้าโกรธท่านแล้ว! ดังนั้นจึงไม่ได้ลงจากเตียงไปรับท่าน”
“อืม” กู้เจี้ยนหลีพยักหน้ารับก่อนจะสบตาใสกระจ่างสว่างไสวของเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน
จีซิงหลันยู่ปาก มองดูกู้เจี้ยนหลีแวบหนึ่งก็ก้มหน้าลงอย่างกระมิดกระเมี้ยน กล่าวเสียงค่อยว่า “แต่พอเห็นท่านเดินกะโผลกกะเผลกกลับสงสารจนได้…”
เด็กน้อยถอนหายใจแรงๆ คราหนึ่ง ดูท่ากำลังโทษตนเองว่าใจอ่อนเกินไป
กู้เจี้ยนหลียิ้มพลางยื่นมือไปทางจี้ซย่า จี้ซย่าก็ยื่นกล่องลูกกวาดที่เตรียมไว้ส่งให้นาง นางรับกล่องลูกกวาดมาวางไว้บนตักแล้วเปิดฝา ภายในเต็มไปด้วยลูกกวาดเนื้อนุ่มรูปกระต่ายน้อย
จีซิงหลันฉีกยิ้มกว้าง พุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดกู้เจี้ยนหลีด้วยความดีใจในทันทีแล้วตะโกนอย่างเบิกบาน “ท่านยังไม่ลืม!”
กู้เจี้ยนหลีป้อนลูกกวาดรูปกระต่ายน้อยให้เด็กหญิง จีซิงหลันกินลูกกวาดไปพลางยกยิ้มจนตาโค้งให้กู้เจี้ยนหลีไปพลาง หญิงสาวให้เด็กน้อยขึ้นมานั่งตักตนเองแล้วแกะผมมวยหลวมๆ สองข้างออก ก่อนใช้นิ้วเรียวบางรวบกลับมาเป็นทรงให้นางใหม่อีกครั้ง
เยี่ยอวิ๋นเยวี่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างมองดูท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมของกู้เจี้ยนหลีกับจีซิงหลันแล้วรู้สึกไม่สบายใจนัก มิใช่กล่าวกันว่าเด็กน้อยลืมง่ายหรอกหรือ กู้เจี้ยนหลีจากไปตั้งเดือนครึ่ง จีซิงหลันน้ำตาร่วงด้วยความผิดหวังมาตั้งหลายครั้ง เหตุใดพอกู้เจี้ยนหลีกลับมา เด็กน้อยก็กลับไปกระโจนเข้าอ้อมกอดนางอีกแล้วเล่า
จีซิงหลันกินลูกกวาดเม็ดนั้นหมดแล้วก็ยื่นมือไปหยิบเม็ดที่สองมาอีก
จู่ๆ เยี่ยอวิ๋นเยวี่ยก็เอ่ยปากยิ้มๆ “หลันเอ๋อร์ ไม่ใช่ว่าข้าเคยพูดหรอกหรือว่ากินมากไปจะปวดฟันเอา”
หัวคิ้วของจีซิงหลันขมวดมุ่นขณะมองดูลูกกวาดรูปกระต่ายน้อยที่ดูคล้ายมีชีวิต จากนั้นก็หันไปมองเยี่ยอวิ๋นเยวี่ย ก่อนจะหันไปมองกู้เจี้ยนหลี
จี้ซย่าเอ่ยปากกระแนะกระแหน “กินสองเม็ดก็ปวดฟันแล้วหรือ อวิ๋นเยวี่ยเจ้าเป็นหมอหรือว่าตัวเจ้าเองกินสองเม็ดก็ปวดฟันแล้วกันแน่ หากเป็นเช่นนั้นฟันเจ้าก็แย่เกินไปแล้วกระมัง”
วันนี้เยี่ยอวิ๋นเยวี่ยถูกจี้ซย่าบีบให้จนมุมมาหลายครั้งจนทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงเอ่ยด้วยความโกรธ “จี้ซย่า บ่าวเช่นเจ้าคิดว่าตนเองเป็นนายหรืออย่างไร เจ้านายยังไม่ทันพูด เจ้าจะพูดอะไรมากมายนักหนา!”
“ใช่ ข้าเป็นบ่าว ทว่าในห้องนี้ก็ไม่ได้มีบ่าวปากมากเช่นข้าเพียงคนเดียว” จี้ซย่าว่าพลางกลอกตา