จีอู๋จิ้งคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็คิดไม่ออกจึงไม่พูดอะไรต่อ หลับตาเข้านอนใหม่อีกครั้ง
“จะทำอะไร” กู้เจี้ยนหลีกลับถามด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
จีอู๋จิ้งไม่สนใจนาง
ผ่านไปครู่หนึ่งกู้เจี้ยนหลีก็เอ่ยถามเสียงเบาอีกครั้งทั้งที่ยังประคองกลองป๋องแป๋งไว้แนบอก “นายท่านห้า ท่านหลับแล้วหรือ”
จีอู๋จิ้งลืมตา ลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีเข้มปรากฏเส้นเลือดสีแดงก่ำ สายตาของเขาหยุดลงตรงลำคอเรียวขาวของกู้เจี้ยนหลี ก่อนจะฉวยโอกาสดึงเสื้อของนางเข้าหาตัวจนหัวไหล่มนส่วนบนเผยออกมาให้เห็นแล้วกัดลงไป
หากเป็นตอนที่เพิ่งแต่งเข้าจวนก่วงผิงป๋อ กู้เจี้ยนหลีย่อมตื่นตระหนกจนสั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยกังวลว่าจะถูกหัวหน้าหน่วยเสวียนจิ้งที่เล่าลือกันว่าชอบดื่มกินเลือดเนื้อผู้อื่นปลิดชีพเข้า ทว่ายามนี้เมื่อจีอู๋จิ้งกัดลงมา นางเพียงตกใจในชั่วขณะแรกเพราะคาดไม่ถึง จากนั้นก็คลายความตื่นตระหนกอย่างรวดเร็ว
เจ็บนิดหน่อย นางขมวดคิ้วพลางกำผ้าห่มไว้แน่น ไม่ได้หลบเลี่ยงแต่อย่างใด
อวัยวะห้ากลั่นหกกรองของจีอู๋จิ้งคล้ายกับถูกแมลงตัวเล็กตัวน้อยนับร้อยพันรุมกัดแทะ ทั้งคันทั้งชายากจะทานทน เส้นเลือดสีแดงก่ำในดวงตาค่อยๆ เข้มขึ้น ท่ามกลางแววดุดันยังปรากฏไอเยียบเย็นที่น่าขนลุก
กู้เจี้ยนหลีสัมผัสได้ว่าลมหายใจของบุรุษที่อยู่ด้านหลังหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อย หน้าอกที่แนบชิดกับแผ่นหลังของนางก็ร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ นางเริ่มรู้สึกว่าไม่ถูกต้องจึงรีบถามขึ้น
“นายท่านห้าท่านเป็นอะไรไป ไม่สบายตัวหรือ”
นางทำท่าจะหันกลับไป จีอู๋จิ้งกลับกักตัวนางไว้ทำให้นางไม่อาจขยับตัว
ร่างอ่อนนุ่มนวลเนียนแนบชิดเต็มอ้อมกอด จู่ๆ ในหูของจีอู๋จิ้งก็คลับคล้ายได้ยินวาจาของกู้จิ้งหยวนแว่วมา ‘จีเจา เจ้าบอกข้ามาตามตรงว่าพิษในตัวเจ้าถอนได้หรือไม่กันแน่ เจ้าจะมีชีวิตต่อไปได้อีกนานเท่าไร ถึงสามปีหรือไม่…ข้าจะคำนวณเวลาสำหรับหาบ้านสามีใหม่ให้เจี้ยนหลีของข้าล่วงหน้า!’
ยาพิษเป็นเขาเลือกดื่มด้วยตนเอง ชีวิตนี้จีอู๋จิ้งไม่รู้จักคำว่าเสียใจภายหลังแม้แต่น้อย
“นายท่านห้า?” ความกังวลในน้ำเสียงกู้เจี้ยนหลีฉายชัดยิ่งขึ้น
ฝ่ามือของจีอู๋จิ้งวางอยู่บนหน้าท้องของหญิงสาว เพียงออกแรงกระชับก็รั้งร่างของนางเข้าในอ้อมกอดยิ่งกว่าเดิม กู้เจี้ยนหลีสัมผัสได้ว่าบางสิ่งที่แข็งขึงแนบชิดบั้นท้ายกลมกลึงของตนเองจึงอึ้งค้าง เข้าใจบางอย่างได้อย่างเลือนราง พอนางตกใจกลองป๋องแป๋งที่ประคองไว้ในมือก็ร่วงลงเสียงดังตึงๆ ก่อนหยุดลง ลูกปัดน้อยๆ ฝั่งหนึ่งตกลงบนเตียง อีกฝั่งร่วงลงบนใบหน้ายิ้มแย้มของเด็กน้อยจ้ำม่ำบนหน้ากลอง
ในหัวของกู้เจี้ยนหลีว่างเปล่าไปพักใหญ่ ไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองอย่างไรดี
ความรู้สึกต่อต้านปะปนกับความรู้สึกคล้อยตาม ท้ายที่สุดหลงเหลือเพียงความมึนงง
ขายาวของจีอู๋จิ้งยืดออกจนโดนขาซ้ายของกู้เจี้ยนหลี เจ็บจนนางร้องออกมา ขอบตาแดงขึ้นโดยพลัน จีอู๋จิ้งชะงักการกระทำเปลี่ยนมาสวมกอดนางจากด้านหลังนิ่งๆ ในทันที ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงยื่นฝ่ามือข้ามเอวคอดของหญิงสาวไปคลำหามือนางที่ด้านหน้าแล้วกุมเอาไว้ จากนั้นดึงมือนางมาด้านหลังให้นางกำรอบ ‘สิ่งนั้น’
กู้เจี้ยนหลีเบิกตาโพลงโดยแรง ใจดวงนั้นในอกเต้น ‘ตึกตักๆ’ ไม่หยุด
การกระทำต่อจากนั้นเป็นจีอู๋จิ้งคอยจับมือนางทำจนเสร็จ กู้เจี้ยนหลีสับสนมึนงง ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด กระทั่งหลังความมึนงงเนิ่นนานนี้ผ่านไป ฝ่ามือของนางเปรอะเปื้อน ในใจจึงค่อยบังเกิดความอับอายอย่างใหญ่หลวงถาโถม ตั้งแต่ต้นจนจบนางหันหลังให้จีอู๋จิ้ง นิ้วทั้งห้าที่เปรอะเปื้อนกางออกแข็งค้างอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ควรทำสิ่งใดต่อ
จีอู๋จิ้งเช็ดมือให้กู้เจี้ยนหลีแล้วกุมมือมาวางลงบนหน้าท้องของนาง ก่อนจะแนบหน้าผากลงกับท้ายทอยนาง เอ่ยเสียงแหบพร่า
“กู้เจี้ยนหลี”
กู้เจี้ยนหลีเผยอปากอ้า อยากจะเอ่ยรับคำทว่าไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา