กู้เจี้ยนหลีคาดเดาความคิดของพวกเขาออก ทว่านางไม่ได้ใส่ใจจึงไม่คิดจะอธิบาย หลังเอ่ยแจกแจงชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยนางก็ยันตัวลุกจากเก้าอี้ บนใบหน้าประดับยิ้มบางอย่างเหมาะสม
“นายท่านห้าคงจะตื่นแล้ว ข้าคงต้องกลับก่อน ไม่รบกวนทุกท่านกินอาหารเช้าแล้ว”
ฮูหยินผู้เฒ่าลุกขึ้นมาส่งนางถึงประตูด้วยตนเอง คนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นตามเช่นกัน ยังมีบางคนที่ปากหวาน คอยกล่าวว่า “ช้าหน่อย” “ระวังด้วย” “จัดเสื้อดีๆ ระวังเป็นหวัด” “ครั้งหน้าออกมาข้างนอกสวมเสื้อผ้าหนาหน่อยจึงจะดี” ไม่หยุดหย่อน…
ฮูหยินรองมองแผ่นหลังกู้เจี้ยนหลีที่นั่งรถเข็นจากไป ในใจรู้สึกขมขื่นขึ้นมา นางไม่ได้ประคบประหงมอีกฝ่ายเช่นผู้อื่น เพียงยืนเงียบอยู่ด้านข้าง นางเอ่ยสิ่งใดไม่ออกทั้งสิ้น ทั้งเก้อกระดากทั้งเสียใจภายหลัง หากตอนแรกไม่เกิดเรื่องขึ้น กู้เจี้ยนหลีก็จะกลายเป็นลูกสะใภ้ของนางในเวลาอันรวดเร็วแล้ว ทว่ายามนี้ไม่เพียงไม่ใช่ลูกสะใภ้ ยังกลายเป็นสะใภ้ในรุ่นเดียวกัน ซ้ำยังถึงขั้นนับได้ว่าผูกปมแค้นต่อกันไว้ด้วย ที่ทำให้รู้สึกปวดใจยิ่งกว่าคือกระทั่งบุตรชายก็ยังขุ่นเคืองนาง
จะโทษใครได้เล่า
ฮูหยินรองถอนใจแรงๆ คราหนึ่ง ในใจคร่ำครวญไม่หยุด นางเองก็ทำผิดอย่างไม่มีทางเลือกเช่นกัน! ยามนั้นเปลี่ยนแปลงราชโองการเป็นความต้องการของในวัง นางจะกล้าขัดประสงค์ของโอรสสวรรค์ได้อย่างไร
จีซิงโล่ววิ่งหนีจากมาเต็มแรง พอถอดรองเท้าได้ก็กระโจนขึ้นเตียงทันที
จีซิงหลันที่นั่งเล่นอยู่กับพื้นรีบปล่อยโส่วจวี* สีสันสดใสในมือแล้วลุกขึ้นวิ่งเหยาะๆ มาที่เตียงก่อนดึงชายเสื้อจีซิงโล่วเอาไว้ เอ่ยเรียกเสียงอ้อแอ้
“พี่ชาย ท่านถูกตีอีกแล้วหรือ เจ็บหรือไม่”
“ไม่เจ็บ!” จีซิงโล่วตอบเสียงห้วน
จีซิงหลันเอียงศีรษะน้อยๆ พูดอย่างทึ่มทื่อว่า “สรุปแล้วถูกตีหรือไม่ ถ้าถูกตีแล้วเหตุใดถึงไม่เจ็บล่ะ”
หลินหมัวมัวที่เพิ่งตามมาถึงรีบเข้าไปจะถอดกางเกงของจีซิงโล่ว ปากก็พร่ำพูดไม่หยุด “โธ่เอ๊ย บ่าวมองจากไกลๆ ก็เห็นแล้วว่าถูกตีจนบวม รีบถอดกางเกงให้บ่าวดูนะเจ้าคะ ทายาสักหน่อยจะได้ดีขึ้น…”
จีซิงหลันที่อยู่ด้านข้างร้องอย่างตกใจ “พี่ชาย ท่านถูกตีก้นมาหรือ”
จีซิงโล่วทะลึ่งตัวลุกพรวด เขายืนอยู่บนเตียง ชี้นิ้วใส่หลินหมัวมัวพลางตวาด “เจ้าออกไปเลยนะ!”
หลินหมัวมัวรู้นิสัยเด็กคนนี้ดีจึงรีบกล่าว “เจ้าค่ะๆๆ บ่าวจะไปหายามาทาให้ อีกครู่หนึ่งจะกลับมา”
พอหลินหมัวมัวจากไปแล้ว จีซิงหลันที่ยืนอยู่ข้างเตียงค่อยเงยหน้าขึ้นพลางจับมือน้อยของพี่ชายแกว่งไปมา “พี่ชาย ให้ข้าดูหน่อยสิ”
จีซิงโล่วปัดมือนางทิ้งด้วยความรำคาญ ทำให้จีซิงหลันล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
จีซิงโล่วมองนางแวบหนึ่งก่อนก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ทว่าสุดท้ายก็ฝืนหันกลับ ปล่อยให้จีซิงหลันลุกขึ้นตบๆ ก้นตนเองแล้วกลับมาดึงกางเกงของเขาเพื่อปีนขึ้นเตียง จากนั้นนางก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วถอนหายใจแรงๆ ขมวดคิ้วน้อยๆ พลางเอ่ยเสียงค่อย
“พี่ชาย ไม่มีคนอื่นแล้ว ถ้าเจ็บก็ร้องออกมาได้!”
จีซิงโล่วลอบมองนางอีกแวบก่อนแค่นเสียงหึ จากนั้นก็ไม่สนใจนางอีก
จีซิงหลันเตี้ยกว่าจีซิงโล่วครึ่งศีรษะ นางเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ยื่นสองแขนออกมากอดพี่ชายไว้ก่อนใช้มือน้อยๆ ลูบหลังเขาพลางปลอบ
“พี่ชายไม่เจ็บนะ!”
“เจ็บ!” จู่ๆ จีซิงโล่วก็ส่งเสียงออกมาก่อนจะร้อง “โฮ”
ทว่าเพียงหลุดร้องออกมาคราเดียวก็กลั้นเสียงแล้วกอดน้องสาวไว้ ออกแรงมุดหน้าเช็ดน้ำตากับไหล่นางในทันที
“แล้วจะทำอย่างไร” จีซิงหลันเบะปาก เริ่มอยากร้องไห้แล้วเหมือนกัน
“ทำไม่เคยได้…เลียนแบบไม่เหมือนเลย…ฮือๆๆ…” จีซิงโล่วร้องไห้พลางงึมงำคำพูดที่ชวนให้จับต้นชนปลายไม่ถูกในลำคออยู่เช่นนั้น
กู้เจี้ยนหลีที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงร้องไห้ของจีซิงโล่วก็ค่อยๆ มุ่นคิ้ว จีซิงโล่วเลียนแบบอะไรอยู่กัน
ในตอนนี้เองฉางเซิงรีบวิ่งเข้ามาเรียกนาง “ฮูหยิน นายท่านเรียกหาท่านอยู่ขอรับ!”
ด้านกู้เจี้ยนหลีพลันกระจ่างแจ้ง ดูท่าที่นางคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้จะไม่ผิด จีซิงโล่วกำลังเลียนแบบจีอู๋จิ้งจริงๆ!
ทุกอย่างที่เด็กชายทำล้วนเป็นการเลียนแบบจีอู๋จิ้งเพื่อแสดงว่าตนเองเป็นบุตรของเขา และเพื่อให้ได้รับการยอมรับ