“เจ้าจะให้ข้ากระอักเลือดให้ดู?” หางตาของจีอู๋จิ้งชี้ขึ้น แววเย็นชาในดวงตาจิ้งจอกฉายชัด
เสวี่ยถวนร้อง ‘เมี้ยว!’ ตกใจกลัวจนต้องมุดเข้าไปในข้อพับแขนของเฉินเหอ
“อย่ากลัว อย่ากลัว…” เฉินเหอรีบก้มมองมันพลางยกมือลูบหลังปลอบโยนอย่างนุ่มนวล รอจนเสวี่ยถวนสงบลงเขาค่อยเงยมองจีอู๋จิ้งอีกครั้งด้วยแววตาเฉยชา เอ่ยเสียงเย็นว่า “ท่านทำมันกลัวแล้ว” จากนั้นเขาก็อุ้มมันจากไป
คราวนี้ทำให้จีอู๋จิ้งเป็นฝ่ายหมดคำจะพูดแทน เขามองแผ่นหลังของเฉินเหอที่กำลังจากไป รู้สึกโกรธจนแค่นหัวเราะ
จีอู๋จิ้งยื่นมือออกมา ลองออกแรงน้อยๆ บนฝ่ามือก็พลันปรากฏรอยสีดำราวกับน้ำวน ก่อนจะค่อยๆ เก็บมือกลับ เขารู้ดีว่าเป็นเพราะเรื่องคราวก่อนที่ถูกจางอีหลุนลอบสังหารแต่กลับพลิกมาสังหารอีกฝ่ายคืนลอยเข้าหูจีหลันเข้า อีกทั้งวันที่เขาเข้าวังไปรับกู้เจี้ยนหลีเองก็ได้แสดงฝีมือ ทำให้จีหลันคิดว่าเขายังคงสามารถรับใช้ต่อได้
“หูตาคับแคบจริงๆ” จีอู๋จิ้งเอ่ยอย่างเชื่องช้า
วรยุทธ์ที่เขาใช้ที่ผ่านมาเป็นเพียงสามสี่ส่วนของวรยุทธ์ที่แท้จริงเท่านั้น
กระบี่ของจีอู๋จิ้งว่องไวมาก ท่าทางยามตวัดกระบี่แล่เนื้อเถือหนังเป็นที่สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วทุกแห่งหน แต่กลับไม่มีผู้ใดรู้ว่าอาวุธที่เขาถนัดมือที่สุดคือดาบ เขาถนัดใช้ดาบหนัก น่าเสียดายที่ในโลกนี้ไม่มีใครควรค่าให้เขาชักดาบออกมาอีกแล้ว
กู้เจี้ยนหลีเล่นเป็นเพื่อนจีซิงหลันกับจีซิงโล่วต่ออีกพักใหญ่ หลักๆ นางจะเล่นเป็นเพื่อนจีซิงหลันโดยมีจีซิงโล่วนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้ารำคาญ กู้เจี้ยนหลีสอนจีซิงหลันถักเชือกแบบใหม่หลายแบบ ซ้ำยังรับปากว่าครั้งหน้าจะสอนทำโส่วจวีที่งามกว่านี้ให้
ตอนนี้เองจี้ซย่าเดินเข้ามานั่งลงบนพรมขนกระต่ายข้างๆ กู้เจี้ยนหลีพลางกล่าวว่า “ฮูหยินเจ้าคะ บ่าวเพิ่งได้ยินมาว่าฝ่าบาทจะแต่งตั้งฮองเฮาในเทศกาลกำเนิดบุปผาเจ้าค่ะ”
“เทศกาลกำเนิดบุปผา? เช่นนั้นก็อีกไม่กี่วันแล้ว” กู้เจี้ยนหลีส่งมือทั้งคู่ที่มีเชือกสีแดงพันรอบไปตรงหน้าจีซิงหลันเพื่อให้นางพันเล่น
“เจ้าค่ะ อีกไม่กี่วันแล้ว บ่าวได้ยินมาว่าเดิมทีฝ่าบาทต้องตาคุณหนูสกุลหลง”
“อวี๋จวิน?” กู้เจี้ยนหลีอึ้งไปครู่หนึ่ง หลงอวี๋จวินเป็นหลานสาวของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับแต่งตั้งจริงๆ ทว่ากู้เจี้ยนหลีรู้สึกว่าวังหลวงเปี่ยมด้วยอันตรายจึงไม่ต้องการให้หลงอวี๋จวินเข้าวังเท่าไร
ฝ่ายจี้ซย่ากล่าวยิ้มๆ ต่อว่า “ทว่าคุณหนูสกุลหลงได้หมั้นหมายแล้ว ว่าที่สามีมาจากสกุลอวี๋เจ้าค่ะ”
กู้เจี้ยนหลีคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พลันกระจ่าง หลงอวี๋จวินเองก็คงไม่ต้องการเข้าวังเช่นกัน ดังนั้นจึงรีบร้อนหมั้นหมายเพื่อให้พ้นจากคราวเคราะห์ ผ่านไปครู่ใหญ่นางค่อยพึมพำขึ้นเบาๆ
“เช่นนี้ก็ดี…เช่นนั้นจะแต่งตั้งผู้ใดเป็นฮองเฮา” กู้เจี้ยนหลีเพิ่งถามออกมา ในใจก็พอจะเดาคำตอบได้แล้ว
“ซุนอิ่นจู๋ น้องสาวของซุนอิ่นหลันอดีตคู่หมั้นเมื่อครั้งฝ่าบาทยังไม่ขึ้นครองบัลลังก์เจ้าค่ะ”
กู้เจี้ยนหลีพยักหน้าอย่างไม่ประหลาดใจนัก พี่น้องสกุลซุนเป็นบุตรสาวของอัครเสนาบดีฝ่ายขวา ได้รับแต่งตั้งเป็นฮองเฮาก็มิใช่เรื่องน่าแปลกใจ กู้เจี้ยนหลีเชื่อว่าที่ซุนอิ่นหลันจะได้ขึ้นเป็นฮองเฮาไม่ใช่เพราะนางเป็นน้องสาวของซุนอิ่นหลัน แต่เป็นเพราะนางคือบุตรสาวอัครเสนาบดีฝ่ายขวา
ก่อนหน้านี้กู้เจี้ยนหลีเคยข้องเกี่ยวกับซุนอิ่นหลันไม่มากแต่กลับเคยสนทนากับซุนอิ่นจู๋ในงานเลี้ยงอยู่บ้าง ซุนอิ่นจู๋มีนิสัยร่าเริง อายุเท่ากับกู้เจี้ยนหลี ซึ่งก็คือเพิ่งจะสิบห้าปีเท่านั้น
จีซิงหลันกะพริบตาปริบๆ เอียงศีรษะน้อยๆ ของตนเองขณะมองดูสีหน้ากู้เจี้ยนหลี จากนั้นก็ยกมือขึ้นแตะปากพลางหาวติดต่อกัน
“หลันหลันง่วงแล้วหรือ” กู้เจี้ยนหลีรีบเก็บงำอารมณ์พลางถามขึ้น
“อื้มๆ!” จีซิงหลันพยักหน้าแรงๆ “ข้าอยากนอนสักงีบแล้ว ครั้งหน้าท่านมาเล่นกับข้าอีกได้หรือไม่”
“ได้สิ หลันหลันนอนสักหน่อยนะ” กู้เจี้ยนหลีเก็บเชือกบนมือก่อนจะลุกขึ้นโดยมีจี้ซย่าคอยประคอง หลังจากมองดูจีซิงหลันมุดเข้าผ้าห่มไปแล้วก็ก้มลงมองจีซิงโล่วพลางกล่าว “ซิงโล่ว อย่ากวนตอนน้องสาวเข้านอนเล่า หากเจ้าง่วงก็นอนสักหน่อยเถิด”
“หึ ท่านไม่ต้องมายุ่ง!” จีซิงโล่วหันหน้าหนี
กู้เจี้ยนหลีรู้ว่าจีซิงโล่วเอาใจใส่จีซิงหลันมาก นางยิ้มน้อยๆ พลางลูบแก้มของเด็กชายก่อนให้จี้ซย่าประคองเดินจากไป
หลังจากประตูปิดลงจีซิงหลันก็ดึงผ้าห่มออกแล้วปีนลงจากเตียง เดินตุปัดตุเป๋มาจับมือพี่ชายไว้พลางเอ่ย “พี่ชายเล่นโส่วจวีเป็นเพื่อนข้าหน่อย”
จีซิงโล่วตาโตด้วยความประหลาดใจก่อนถาม “เจ้าหลอกนาง?”
จีซิงหลันรีบยกมือน้อยๆ ปิดปากจีซิงโล่วแล้วตอบเสียงค่อยว่า “ผู้ใหญ่ล้วนไม่ชอบเล่นกับเด็ก เมื่อครู่ท่านแม่คิดเรื่องอื่นจนเหม่อลอยแล้ว! นางคงเบื่อมากแน่ๆ อืม…หลันหลันเลยมาเล่นกับพี่ชาย ให้ท่านแม่ไปทำสิ่งที่นางชอบแทน!”
จีซิงโล่วมองดูโส่วจวีสีสันสดใสที่น้องสาวยัดใส่มือแล้วขมวดคิ้ว อยากบอกยิ่งนักว่าตนเองก็ไม่ได้ชอบเล่นเจ้าสิ่งนี้…