คืนที่สองหลังจากแต่งเข้าจวนก่วงผิงป๋อ กู้เจี้ยนหลียังคงหอบผ้าห่มไปนอนที่เตียงหลัวฮั่นเช่นเดียวกับเมื่อวาน
ตอนกลางคืนกู้เจี้ยนหลีจุดตะเกียงไว้ดวงหนึ่งแล้วจึงเข้านอน นางนอนตะแคงขดตัวอยู่บนเตียงหลัวฮั่น แม้หลับตาไม่ขยับเขยื้อนแต่กลับหลับไม่ลงอยู่นาน
ดังนั้นตอนที่มีคนปีนหน้าต่างเข้ามานางจึงตื่นขึ้นในทันที
“ใคร!” กู้เจี้ยนหลีลุกขึ้นนั่งพลางคว้ามีดสั้นที่ซ่อนไว้ใต้หมอนมาถือเอาไว้
“น้าสะใภ้ห้า นี่ท่านนอน…นอนบนเตียง…หลัวฮั่นอย่างนั้นหรือ หึๆ ชีวิตรักชื่นมื่นของคู่ข้าวใหม่ปลามัน ท่านน้าห้า…ให้ท่านไม่ได้ เฟิ่งเสียนทำแทนให้ดี…ดีหรือไม่” จ้าวเฟิ่งเสียนเดินโงนเงนไปมา ทั้งตัวมีแต่กลิ่นสุรา
กู้เจี้ยนหลีลอบอุทานว่า “แย่แล้ว” ตอนกลางวันคนผู้นี้ยังปฏิบัติตามกฎ ทว่ายามนี้เขาเมาสุรา นิสัยต่ำช้าในตัวเกรงว่าจะแสดงออกมาจนหมดเปลือก
หญิงสาววิ่งไปทางประตูพลางตะโกนเสียงดัง “หลินหมัวมัว! ฉางเซิง!”
น่าเสียดายที่สตรีอายุน้อยเช่นนางวิ่งเร็วไม่เท่าจ้าวเฟิ่งเสียน เขาตามมาไม่กี่ก้าวก็ถึงประตูก่อนหน้านาง ซ้ำยังพิงหลังบังประตูเอาไว้
ชั่วขณะนั้นกู้เจี้ยนหลีคิดถึงผู้เป็นบิดาขึ้นมา
หากบิดาของนางยังสบายดี จะไม่มีทางปล่อยให้นางถูกรังแกเช่นนี้แน่
“อย่า…อย่าหนีเลย…อึก…” จ้าวเฟิ่งเสียนเดินเข้าใกล้กู้เจี้ยนหลีมากขึ้น “น้าสะใภ้ห้า ให้เฟิ่งเสียน…อยู่กับท่าน…”
กู้เจี้ยนหลีกำมีดสั้นในมือแน่น ถอยหลังไปพลางปั้นหน้าเย็นชาตำหนิอีกฝ่ายไปพลาง “ข้าอาวุโสกว่าเจ้า เจ้าจะมาทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ไม่ได้!”
ทันใดนั้นขาเรียวสะดุดอะไรบางอย่างทำให้กู้เจี้ยนหลีล้มไปด้านหลัง นางหันไปมองจีอู๋จิ้งที่นอนอยู่บนเตียง รู้ตัวโดยพลันว่าตนเองถอยมาจนถึงเตียงใหญ่ด้านในสุดของห้องแล้ว
นางพูดต่อด้วยน้ำเสียงลนลาน “ท่านน้าห้าของเจ้าก็อยู่ที่นี่! วันนี้เขาฟื้นขึ้นมาครั้งหนึ่ง คิดจะล่วงเกินภรรยาเขาต่อหน้า ไม่กลัวเขาตื่นขึ้นมาคิดบัญชีกับเจ้าหรือ”
จ้าวเฟิ่งเสียนหัวเราะหึๆ ยังคงเดินโซเซมาข้างหน้า แม้จะสะดุดขาตนเองจนล้มลงกับพื้นก็ไม่รีบร้อนลุกขึ้น เพียงเงยหน้ามองกู้เจี้ยนหลีพลางฉีกยิ้ม “ท่าน…ท่านน้าห้าจะตายอยู่แล้ว ไม่รับรู้สิ่งใดหรอก ต่อให้ข้าถอดกางเกงถ่ายเบารดหน้าเขาสักยกเขาก็…อึก!”
รอยยิ้มบนใบหน้าจ้าวเฟิ่งเสียนพลันแข็งค้าง ดวงตาเมามายค่อยๆ กลับมามีสติอีกครั้ง ความหนาวเหน็บขุมหนึ่งพลันเข้าจู่โจม เพียงครู่เดียวก็หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ทั้งร่างเริ่มสั่นเทิ้ม
กู้เจี้ยนหลีรู้สึกงุนงง จากนั้นค่อยๆ หันไปมองข้างกายตนเองอย่างเพิ่งจะรู้ตัว ที่นางมองเห็นคือดวงตาเรียวรีดุจดวงตาจิ้งจอกที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มคู่หนึ่ง ดวงตาที่เรียวรีเมื่อรวมกับหางตาที่ชี้ขึ้นเล็กน้อยก็พลันมีเสน่ห์ขึ้นอย่างน่าประหลาด อีกทั้งไฝใต้ตาเม็ดนั้นยังช่วยแต่งแต้มกลิ่นอายเย้ายวนเพิ่มขึ้นอีกถึงสามส่วน