บทที่ 8
จีอู๋จิ้งโน้มกายเข้ามาใกล้ใบหน้างามดวงนั้น จับจ้องดวงตาสุกใสราวหยดน้ำกลิ้งกลอกไม่วางตายามเอ่ยขึ้นไม่ช้าไม่เร็ว “อ้อ กู้เจี้ยนหลี จีเจาจำไว้แล้ว”
เขาเข้ามาใกล้มาก แทบจะแนบชิดกับใบหน้าของนางอยู่แล้ว
กู้เจี้ยนหลีถึงขั้นได้กลิ่นปลาจากเขา
นางเม้มปากเล็กน้อย อดกลั้นความคิดที่จะบุ่มบ่ามถอยหลังกลับ มือที่ซ่อนอยู่ในชายเสื้อกำแน่นจนขึ้นข้อขาวพลางกล่าวว่า “ที่ผ่านมาท่านสลบไสลไม่ได้สติมาโดยตลอด ในจวนจัดงานมงคลให้ท่านโดยพลการ ท่านเองไม่ทราบเรื่องมาก่อน ดังนั้นท่านก็มิได้ยินดี…”
“ยินดีสิ” จีอู๋จิ้งเอ่ยขัดคำพูดของกู้เจี้ยนหลีก่อนยกมุมปากขึ้นช้าๆ “ตื่นขึ้นมามีคนงามอยู่เคียงข้าง เหตุใดจะไม่ยินดี”
กู้เจี้ยนหลีพลันชะงัก ลืมถ้อยคำที่เตรียมจะพูดไปหมดสิ้น ได้แต่เอ่ยอย่างลนลาน “เพราะ…เพราะว่าในจวนมิได้ถามความเห็นท่าน…”
จีอู๋จิ้งหลุดหัวเราะออกมา
“ข้าจีเจาชื่อเสียงย่ำแย่ ในเมืองหลวงไม่มีใครกล้าตบแต่งให้ แต่กลับชอบของสวยๆ งามๆ เป็นที่สุด ต้องการเพียงคนงามล้ำเลิศที่สุดในใต้หล้าเท่านั้น” เขาวาดนิ้วชี้ขึ้นไล้ผ่านแก้มนวลเนื้อนุ่มของหญิงสาวอย่างเชื่องช้า พร้อมถามต่อด้วยรอยยิ้ม “เจ้างามหรือ”
บนพวงแก้มของหญิงสาว ตรงใดที่นิ้วเขาปัดผ่านล้วนรู้สึกชา ตอนนั้นเองกู้เจี้ยนหลีพลันเห็นแววหยอกเย้าในดวงตาของเขา
เขาจงใจนี่!
หน้าอกของกู้เจี้ยนหลีสะท้อนขึ้นลงทันใด นางระงับอารมณ์โกรธลงก่อนตอบอย่างจริงจัง “ข้ากับพี่สาวได้รับฉายาว่าสองหลีแห่งเมืองหย่งอัน ผู้คนล้วนเล่าลือว่ารูปโฉมของพวกเราพี่น้องงดงามกว่าสตรีใดในเมืองหลวง ดังนั้นก็น่าจะงาม”
“หึๆ” จีอู๋จิ้งหัวเราะเสียงต่ำ ก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนแนบหน้าผากลงบนหน้าผากของกู้เจี้ยนหลี เพราะเมื่อครู่เขาหัวเราะออกมา กู้เจี้ยนหลีจึงรู้สึกได้ว่าตรงหน้าผากสั่นเล็กน้อย
ทันใดนั้นใบหน้าของหญิงสาวก็ขึ้นสี
จีอู๋จิ้งขยับถอยเล็กน้อยก่อนยกมือขึ้นลูบศีรษะคนตรงหน้าเบาๆ พลางเอ่ยถาม “เด็กน้อย เจ้าอายุสิบสี่แล้วหรือ หรือว่าเพิ่งจะสิบสาม”
“ข้าถึงวัยปักปิ่นแล้ว!”
“หือ?” สายตาของจีอู๋จิ้งพลันเลื่อนลงมองเอวที่บางเสียจนกำรอบได้ด้วยมือข้างเดียว
“เมื่อวานนี้เอง!” นัยน์ตาสีเข้มของหญิงสาวเหลือบไปด้านข้าง ลอบมองทางหน้าต่างด้วยหางตา เห็นแสงสีขาวของรุ่งอรุณลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านเข้ามาถึงรู้ว่าฟ้าสว่างแล้ว
นางจึงเปลี่ยนคำตอบเสียใหม่ “…เมื่อวานซืน”
จีอู๋จิ้งยิ้มขำไม่ตอบคำพลางเปลี่ยนอิริยาบถให้นั่งสบายกว่าเดิม เขาเหยียดขายาวทั้งสองข้างออก จากนั้นชันเข่าด้านหนึ่งขึ้น วางมือลงบนเข่าอย่างสบายๆ
กู้เจี้ยนหลีมองมือเรียวยาวที่ปลายนิ้วชี้ลงพื้นของเขา ในใจคิดว่ามือข้างนั้นเพียงออกแรงเบาๆ ก็สามารถหักคอตนเองได้แล้ว…
จากนั้นนางจึงลอบมองสีหน้าของจีอู๋จิ้งแล้วรวบรวมความกล้า เอ่ยถามขึ้นอย่างลองเชิง “นายท่านห้าตั้งใจจะทำอย่างไรต่อ หากไม่พอใจการแต่งงานครั้งนี้ไม่สู้เขียนหนังสือหย่าโดยเร็ว หรือไม่ก็…เอ่อ…อยู่ๆ กันไปเช่นนี้”
ขณะที่นางพูดมือที่อยู่ในชายเสื้อยิ่งกำแน่นมากขึ้นทุกที