บทที่ 3 พบโจรระหว่างเดินทาง
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นจิ่นผิงก็แหวกมุ้งสีครามเรียกให้เจียงชิงหว่านตื่นนอน
ตอนนี้เป็นเวลาราวยามเหม่าท้องฟ้าด้านนอกยังไม่สว่างนัก
เมื่อวานจิ่นผิงปูที่นอนนอนกับพื้นในห้อง ยามนี้ผ้าห่ม ฟูกที่นอน และหมอนของนางล้วนถูกพับวางไว้ด้านข้างอย่างเรียบร้อยแล้ว อีกประเดี๋ยวจะนำไปไว้ในรถม้า
ยามที่เจียงชิงหว่านตื่นขึ้นมายังงงงันอยู่บ้าง นางไม่แน่ใจไปชั่วขณะหนึ่งว่าตนเองเป็นใครกันแน่
จวบจนจิ่นผิงหยิบเสื้อผ้ามาสวมให้นาง แล้วเรียกนางไปนั่งบนเก้าอี้เพื่อจะหวีผมให้ ครั้นมองเห็นใบหน้าของเด็กสาวในคันฉ่อง นางถึงค่อยได้สติกลับมา
จิ่นผิงเกล้าผมเป็นทรงแกละห่วงคู่ให้เจียงชิงหว่าน ขณะเปิดกล่องจะเลือกเครื่องประดับให้นางประดับในวันนี้ เหยาซื่อก็ผลักประตูเดินเข้ามา
จิ่นผิงยอบตัวคารวะเหยาซื่อก่อนกล่าวทักทาย เหยาซื่อพยักหน้าให้นางแล้วสั่งว่า “เจ้าไปเก็บเครื่องนอนของคุณหนูให้เรียบร้อยแล้วนำไปไว้ในรถม้า”
แม้เหยาซื่อจะมีชาติกำเนิดไม่สูงส่ง ไม่จุกจิกกับเรื่องเล็กน้อย แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงไม่เหมือนกัน เนื่องจากอีกฝ่ายเคยอยู่ในตระกูลใหญ่จึงพิถีพิถันกับหลายเรื่อง การออกเดินทางไกลก็ต้องพกเครื่องนอนของตนเองมาด้วย ไม่ใช้ของจากโรงเตี๊ยมด้วยรังเกียจว่าไม่สะอาด
จิ่นผิงรับคำ เดินไปที่เตียงเพื่อพับเครื่องนอนของเจียงชิงหว่าน จากนั้นก็อุ้มลงไปชั้นล่าง รถม้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว กำลังจอดรออยู่ด้านนอก
เจียงชิงหว่านกำลังมองกล่องเครื่องประดับสี่เหลี่ยมผืนผ้าทาสีแดงรูปแบบเรียบง่ายที่เปิดอยู่เบื้องหน้า ข้างในมีเครื่องประดับเงินสองสามชิ้นและดอกไม้ไหมสองสามดอก
สำหรับบุตรสาวสายตรงคนหนึ่งของจวนป๋อ เครื่องประดับเหล่านี้นับว่าซอมซ่อมากจริงๆ ชาติก่อนตอนที่นางเป็นคุณหนูมีกล่องเครื่องประดับขนาดใหญ่ถึงเจ็ดแปดกล่อง ทอง เงิน หยก โมรา มีเครื่องประดับแบบใดบ้างที่ไม่มี หลังจากแต่งงานกับชุยจี้หลิง แม้สกุลชุยจะอัตคัดขัดสน แต่ชุยจี้หลิงก็ซื้อเครื่องประดับให้นางหลายชิ้น ล้วนดีกว่าของตรงหน้าเหล่านี้
เวลานี้เองเหยาซื่อก็เดินมายื่นมือหยิบปิ่นผีเสื้ออันหนึ่งจากในกล่องมาทาบดูกับมวยผมเจียงชิงหว่าน รู้สึกว่าไม่เหมาะนักจึงวางกลับลงไป แล้วหยิบปิ่นมุกอีกอันขึ้นมาแทน
ปิ่นมุกอันนี้คาดว่ามีอายุพอสมควรแล้ว เนื่องจากผิวออกเป็นสีเหลืองอยู่บ้าง เหยาซื่อจึงถอนหายใจพูดเสียงเบา “บอกไปผู้อื่นคงไม่เชื่อ จะดีชั่วบิดาเจ้าก็เป็นถึงป๋อ บุตรสาวสายตรงเพียงคนเดียวถึงกับไม่มีเครื่องประดับดีๆ สักชิ้น ที่ผ่านมาเขาก็ให้คนนำเงินกลับมาให้ที่บ้านใช้ แต่ล้วนถูกท่านย่าของเจ้าเก็บไปหมด แม่เองก็ไม่รู้ว่ามีเท่าไรกันแน่ เพราะไม่เคยมีตกมาถึงมือแม่แม้สักนิด ท่านย่าเจ้าก็เหลือเกิน ไม่ยอมให้เจ้า…”
ประตูห้องเปิดอยู่ ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงพักอยู่ห้องติดกัน ถ้าหากถูกนางหรือเถาเยี่ยได้ยินเข้าจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน
เจียงชิงหว่านจึงตัดบทอีกฝ่าย “ท่านแม่ ข้าไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเหล่านี้หรอกเจ้าค่ะ”
ครั้นคำพูดหลุดออกจากปาก ตนเองก็ตะลึงไปอยู่บ้าง